“โน๊ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” กล้าท้าทาย ลองทำในสิ่งใหม่

0
510
หากพูดถึงตระกูล “รังษีสิงห์พิพัฒน์” ชื่อของ “โน๊ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” ลูกชายคนเล็กของ ครอบครัว ถือได้ว่ากำลังเป็นที่สนใจของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวของความรัก ที่หวานซึ้งจนทำให้หลายคนรู้สึกตาร้อนกันเป็นแถว แต่นอกเหนือจากเรื่องของความรักแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังมีอีกเรื่องราวที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเช่นกัน

นั่นคือการตัดสินใจของผู้ชายคนนี้ ในการก้าวออกมาสร้างธุรกิจด้วยมือของตัวเอง “นอกจากเรื่องของการช่วยบริหารงานในธุรกิจครอบครัวแล้ว วันนี้ผมยังสร้างธุรกิจใหม่ของผมเอง กับธุรกิจซูเปอร์ฟูดส์ หรือธุรกิจเกี่ยวกับ Health and Wellness อย่าง NOLA Superfoods (โนล่า ซุปเปอร์ฟู้ดส์) ซึ่งการตัดสินใจทำธุรกิจตรงนี้เกิดจากความชอบส่วนตัว” โน๊ต-วิเศษ รังษีสิงท์พิพัฒน์ อธิบายด้วยว่า การเปิดตัวธุรกิจครั้งนี้เกิดจากความมั่นใจ และความกล้าที่จะท้าทายตัวเอง

สร้างธุรกิจด้วยตัวเอง

“นับตั้งแต่เรียนจบ ผมก็เข้ามาบริหารงานกับธุรกิจของที่บ้านทันทีเลย พออายุประมาณ 30 ก็เริ่มรู้สึกว่าตอนที่เราทำงานกับที่บ้าน เราก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ตรงนี้ทำให้ผมรู้สึกมีความมั่นใจที่จะออกมาลองท้าทายตัวเอง ด้วยการลองทำอะไรใหม่ๆ ในแบบที่เราไม่เคยทำ” นอกจากนี้ นี้ ทายาทคนเล็กของตระกูล “รังษีสิงห์พิพัฒน์ ” ยังบอกด้วยว่าธุรกิจที่เขาทำอยู่นั้น เป็นเหมือนกับการดึงเอาประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่สะสมมาสร้างเป็นธุรกิจ ขณะเดียวกัน เราก็ปรับจูนทุกอย่างให้เข้ากับสิ่งที่เราชอบ และเป็นแพสชัน ซึ่งผมเองก็รู้สึกแฮปปี้นะครับ กับการที่เราได้ทำสิ่งนี้ เหมือนเราเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง” เทรนด์กระแสด้านสุขภาพ ก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ทำให้ โน๊ต-วิเศษ ตัดสินใจก้าวลงมาจับธุรกิจ “ผมมองว่าเทรนด์การดูแลรักษาสุขภาพในต่างประเทศ นอกจากเรื่องของการออกกำลังกายแล้ว เขาก็จะศึกษาเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพกันอย่างจริงจังด้วย โดยเฉพาะเรื่องของซูเปอร์ฟูดส์ จนกลายเป็นกระแสขึ้นมา ขณะที่ในบ้านเราคำว่า ‘ซูเปอร์ฟูดส์’ ยังอาจจะมีคนรู้จักกันน้อย หรือรู้จักเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ผมเลยมองเห็นว่าเป็นโอกาสของธุรกิจ ที่มีความเป็นไปได้ในการเติบโตไปได้อีกไกลและมีความยั่งยืน เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพ”

แรงผลักดันจากตัวเอง

สำหรับแนวทางในการทำงานและการบริหารงานในธุรกิจส่วนตัว โน๊ต-วิเศษ เล่าว่าเขาใช้แรงผลักดันที่เกิดจากกิจกรรมที่เขาทำอย่างสม่ำเสมอในการสร้างแนวทางในการบริหารงาน “ที่ผ่านมาผมเริ่มดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมที่ผมทำแล้วช่วยเรื่องของการปรับจูนให้ผมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สมมติว่าผมไปออกกำลังกายแล้วรู้สึกเหนื่อยเพราะผมรีบ ผมก็ต้องหันมาโฟกัสในเรื่องของการที่เราต้องหายใจให้ข้าลง ทำทุกอย่างให้ข้าลง เพื่อให้เป้าหมายที่เราตั้งไว้ ไปได้ไกลมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ทุกคนมักบอกว่าเราต้องเป็นปลาเร็ว ทว่าในส่วนตัวของผม ผมรู้สึกว่าก็อยากทำอะไรให้ช้าลงบ้าง เพื่อที่เราจะได้ไปเร็ว ไม่อยากรีบ อยากให้ควบคุมความเป็นตัวคุณ (Control Your Breathing) ด้วยการฝึกหายใจ และโฟกัสกับตัวเอง”

เจ้าตัวยังบอกอีกด้วยว่า “ถ้าเราดูแลสุขภาพของเราดี ออกกำลังกายเป็นประจำ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้เรามีมายด์เซตที่ดี มีแอตติจุดดี ทำให้เกิดโพสิทีฟไลฟ์ และนั่นก็จะทำให้เกิดการดึงดูดอะไรดีๆ เข้ามาในชีวิต”

งานกับไลฟ์สไตล์ เรื่องเดียวกัน

ถ้าถามเรื่องของการแบ่งเวลางานกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายคนนี้ บอกเลยว่าแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว “ตอนนี้งานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ไปแล้ว ผมเลยไม่ได้แยกว่านี่ต้องเป็นงานหรือเป็นไลฟ์สไตล์ ผมกำลังสนุกกับการทำงาน และเอนจอยกับธุรกิจที่ผมทำอยู่ เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพ และการที่ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับโปรดักซ์ในธุรกิจว่าช่วยอะไรได้บ้าง ก็ยิ่งทำให้ผมสนใจมากขึ้น และทำให้ผมมองเห็นเป้าหมายของชีวิตไปพร้อมกัน โดยผมมองเป้าหมายอยู่สองอย่าง คือ อยากให้ตัวเองแฮปปี้ และมีสุขภาพที่แข็งแรง ตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต ผมก็พร้อมที่จะสู้ หรือต่อยอดความคิด และอีกหลายๆ อย่างกับตัวเองได้ต่อไป”

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น โน๊ต-วิเศษ เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดึงไลฟ์สไตล์ของตัวเองมาสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน “สิ่งเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนมายด์เซตของเราเยอะมาก แต่ก่อนเวลาไปเที่ยวหรือไปทำอะไรที่เอ็กซ์ตรีม อย่างปืนเขาหรือเดินป่า ในสภาวะที่ค่อนข้างลำบาก ผมก็เคยคิดนะว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก หรือแต่ก่อนเราคิดว่าการวิ่งมาราธอนเป็นเรื่องยากสำทรับเรา แต่พอเราได้เริ่มที่จะท้าทายข้อจำกัดของตัวเอง และพยายามฝึกฝนร่างกายให้มากขึ้น ผมว่าร่างกายของผมยังไปได้อีกไกลกว่าที่เราคิดไว้ และพอรู้ว่าร่างกายของเราทำได้ ก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนมายด์เซตของเราใหม่ว่าต้องทำได้ ตรงนี้เลยทำให้ผมรู้สึกว่าเราน่าจะเอาสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับงานที่เราทำ และทำให้เวลาที่ผมบริหารงาน คนก็จะเห็นและอยากจะปรับมายด์เซตของเขาบ้างเหมือนกัน ซึ่งเราก็ให้เขาลองนะ อาจจะยาก แต่ต้องผ่านให้ได้ และที่สำคัญ เขาก็ต้องเปิดใจด้วย ทุกอย่างถึงจะสำเร็จ”

ท้าทายตัวเอง ไม่แข่งกับใคร

“หากให้ผมมองเรื่องของความท้าทาย ผมชอบนะครับ ชอบที่จะท้าทายตัวเอง แต่เราไม่ได้ไปแข่งกับใครนะ ชอบแข่งกับตัวเองมากกว่า” โน๊ตผู้ซึ่งนิยามตัวเองเป็นคนอารมณ์ดีบอกด้วยว่า ถึงเขาจะรู้สึกว่าเป็นคนที่มีความท้าทายให้ตัวเอง “แต่ผมก็จะรู้ว่าความพอดีของผมอยู่จุดไหน ไม่ใช่ว่าท้าทายแล้วพอทำไม่ได้ก็จะเครียดหรือทำให้เกิดมุมมองแง่ลบกับตัวเอง ผมก็จะฟังตัวเองว่าไหวหรือไม่ แล้วทำให้พอดีกับที่เรารับไหว”

กระนั้นก็ตาม เจ้าตัวยังทิ้งท้ายด้วยว่า ความสุขของเขาในวันนี้คือการทำให้ตัวเองมีความสุขที่สุด “ความแฮปปี้ของผมเริ่มมาจากตัวเอง คือ การมีสุขภาพที่ดี หากเราจูนตัวเองได้และมีสุขภาพดีเราก็จะมีมายด์เซตที่ดี และมีแอตติจุดที่ดี ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม ชีวิตของเราก็จะผ่านไปได้ และพอผ่านไปปุ๊บ เราก็จะมองย้อนกลับมาว่าก็เป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา แต่เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างที่เขาบอก เงินไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีได้ ซึ่งหากเราพยายามดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เรื่อยๆ ตรงนี้ก็จะไม่มีใครที่จะเอาสุขภาพดีของเราไปได้แน่นอน”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.