“ธีรศักดิ์ วิสุทธิรงค์กุล” คุณภาพการนอนดี ชีวิตและสุขภาพก็ดี

0
426

ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับคุณภาพการนอนให้ดียิ่งขึ้น คุณธีรศักดิ์ วิสุทธิรงค์กุล CEO บริษัท นิทรา สลีปแคร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์หมอนและที่นอนคัสตอม Amaxing จึงได้ริเริ่มบริการรูปแบบใหม่ เป็นธุรกิจการให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาการนอน โดยตั้งใจที่จะช่วยเหลือให้คนมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าคุณภาพการนอนที่ดีจะส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งการนอนนอกจากจะเป็นการพักผ่อนแล้ว ยังเป็นกระบวนการที่จำเป็นในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายให้ดียิ่งขึ้น

“คนที่มีปัญหาการนอนต่อเนื่องเป็นเวลานาน มักจะส่งผลต่ออารมณ์ และคุณภาพการดำเนินชีวิต หลายครั้งอาจสังเกตได้จากสีหน้าและบุคลิกท่าทาง ซึ่งถ้านอนไม่มีคุณภาพก็จะทำให้อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย หรือถ้าหมอนหรือที่นอนไม่มีคุณภาพก็อาจส่งผลให้มีบุคลิกที่คอยื่น ไหล่งุ้ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะได้รับการสังเกตเห็นได้ชัดจากนักกายภาพบำบัด เนื่องจากนักกายภาพจะมีความเชี่ยวชาญในการสังเกตบุคลิกและสรีระของคน ดังนั้นการแก้ปัญหาการนอนโดยนักกายภาพนั้นจึงจำเป็นมากสำหรับคนที่มีปัญหาการนอนเรื้อรัง”

สำหรับหมอนและที่นอนของ Amaxing นั้นมีความแตกต่างจากทั่วๆ ไป เนื่องจากนักกายภาพจะเป็นผู้เลือกปรับหมอนและที่นอนให้เหมาะกับสรีระของแต่ละคน โดยถ้าหากได้นอนหมอนหรือที่นอนที่เหมาะกับสรีระคนคนนั้นแล้ว จะทำให้คุณภาพการนอนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดตามร่างกายลดลง หรือการนอนหลับได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเมื่อนอนหลับดีขึ้นก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากการนอนอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของฮอร์โมนที่จำเป็นสำหรับร่างกาย เช่น Growth Hormone, Melatonin หรือ Cortisol hormone เป็นต้น ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะหลั่งออกมาตามเวลาที่เหมาะสมได้เป็นอย่างดีหากเรานอนอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะ Growth Hommone จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมาเป็นปกติตั้งแต่ระดับเซลล์จนถึงอวัยวะต่างๆ ทำให้ร่างกายสดชื่นและพร้อมใช้ชีวิตในแต่ละวัน

“การได้นอนหลับสนิทก็มีผลต่อสุขภาพ ผมมองว่าเมื่อหลับสนิทได้นอนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้สุขภาพดี เมื่อสุขภาพดี ผิวพรรณก็สดใสขึ้น ถือเป็นผลดีทางอ้อมที่ได้มาจากการนอน”

“กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาหาเรา ส่วนใหญ่จะมีปัญหาการนอนที่ค่อนข้างเรื้อรัง เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือปวดหลังมานานเป็นปีๆ นอนไม่หลับ หรือมีโรคประจำตัวที่ทำให้นอนลำบาก (กรดไหลย้อน ความดันสูง/ต่ำ) โดยส่วนใหญ่เกือบ 90% จะมีอาการของออฟฟิศซินโดรมร่วมด้วย หรือบางคนก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เช่น ทันตแพทย์ นักกายภาพบำบัด ก็มีปัญหาการนอนเหมือนกัน ซึ่งเรามีความมั่นใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาการนอนของกลุ่มลูกค้าได้ เพราะทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบหมอนและที่นอน รวมไปถึงการปรับให้พอดีกับสรีระของแต่ละคน ล้วนอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนักกายภาพบำบัดโดยเฉพาะ”

“ธุรกิจของเราเน้นเจาะกลุ่มที่มีความเฉพาะมากกว่าธุรกิจที่นอนทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหม่สำหรับวงการที่นอนในไทย อาจเห็นได้ว่าหลายๆ แบรนด์หันมาสนใจในเรื่องของการทำที่นอนเพื่อสุขภาพมากขึ้น แต่ธุรกิจของเราจะเน้นการดูแลลูกค้าแบบเคสต่อเคส โดยวิเคราะห์จากปัญหาการนอนของลูกค้าแต่ละคน และออกแบบหมอนและที่นอนให้พอดีกับลูกค้า และดูแลต่อเนื่องหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าปัญหาการนอนจะได้รับการแก้ไขจนกว่าจะดีขึ้น”

“เราเปิดบริษัทตั้งแต่ช่วงเริ่มมีสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นวิกฤติ แต่เรากลับมองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจอย่างหนึ่ง ลูกค้าเมื่อได้อยู่ที่บ้านนานขึ้น เริ่มสังเกตถึงปัญหาการนอนของตัวเองชัดเจนขึ้น กลายเป็นว่าลูกค้าเข้ามาที่ร้านเพื่อให้เราช่วยแนะนำและแก้ไขปัญหาการนอนเพิ่มมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ Amaxing คือเราสามารถให้คำปรึกษาและวิเคราะห์การเลือกหมอนทรือที่นอนผ่านระบบออนไลน์ได้ เพียงแค่กรอกประวัติสุขภาพการนอนและส่งรูปถ่ายสรีระมาให้ นักกายภาพบำบัดจะนำรูปมาวิเคราะห์เชิงลึกร่วมกับการใช้ระบบ AI ช่วยวิเคราะห์ เพื่อเลือกหมอนหรือที่นอนให้เหมาะสมกับสรีระของลูกค้า ซึ่งระบบออนไลน์จะยิ่งทำให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องมาวัดที่ร้านอย่างเดียว อีกทั้งเรายังมีบริการให้คำปรึกษาปัญหาการนอนในรูปแบบการสมัครสมาชิกรายเดือน โดยลูกค้าสามารถเข้ามาปรึกษาที่ร้าน หรือปรึกษาผ่านออนไลน์ โดยนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาปัญหาการนอนในระยะเวลาที่ลูกค้าต้องการ และถ้าหากลูกค้าสนใจที่จะวัดคุณภาพการนอนของตนเอง Amaxing ยังมีบริการติดตั้งอุปกรณ์วัดคุณภาพการนอน โดยลูกค้าสามารถเช่าเซนเซอร์ไปวางใต้ที่นอนเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพการนอน ทั้งช่วงก่อนและหลังได้รับคำปรึกษา”

“สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต เรามองว่ากลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพการนอนนั้นมีหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่วัยรุ่นตอนตัน วัยทำงาน จนถึงวัยผู้สูงอายุ เราจึงวางแผนที่จะผลิตสินค้าของเราให้มีความหลากหลายมากขึ้นทั้งวัสดุและราคา เพื่อให้เหมาะกับ generation ต่าง ๆ โดยยังคงการให้บริการและใช้วัสดุที่ดีที่สุดเหมือนเดิม อีกทั้งเราเคยมีโอกาสทำที่นอน หมอน และอาสนะ ถวายแด่พระสงฆ์ ซึ่งที่นอนจะต้องมีความหนาตามหลักพระธรรมวินัยสงฆ์ แต่ยังให้ความสบายขณะนอนได้ จึงมองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจและต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับพระสงฆ์ต่อไปในอนาคต”

สำหรับการทำตลาดของ Amaxing ในช่วงแรกที่เปิดร้านจะเน้นเป็นการแนะนำแบบ “ปากต่อปาก” ผ่านลูกค้าที่เคยใช้แล้วรู้สึกว่าแก้ปัญหาการนอนได้ ซึ่งจะมีการแนะนำจากลูกค้าที่เป็นบุคคลทางการแพทย์ด้วย อีกทั้งมีคนที่มีชื่อเสียงได้เข้ามาใช้บริการและเข้ามารี่วิว ซึ่งก็ถือว่ามีลูกค้าเข้ามาจากช่องทางนี้ค่อนข้างมาก หลังจากนั้นจึงเริ่มทำการตลาดผ่านทางออนไลน์ควบคู่ไปด้วยกันเพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็ว และช่วยให้ Amaxing ได้สื่อสารกับลูกค้าได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลการให้บริการและสินค้าได้ที่ www.amaxing.co.th และเพจ AmaxingCustomMattress หรือ สามารถสอบถามผ่านช่องทาง Line:@amaxing หรือโทร 06-1451-4540

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.