“นพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” กูรูธุรกิจสุขภาพ “ยาอินไทย” ในเครือโรงพยาบาลยันฮี

0
688

ธุรกิจเพื่อความงามและสุขภาพ ในทุกวันนี้มีอยู่ด้วยกันหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม ซึ่งอาหารเสริมก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังได้รับกระแสตอบรับเป้นอย่างดีจากผู้บริโภคในวันนี้เช่นกัน

นพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยาอินไทย จำกัด บริษัทในเครือโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่าธุรกิจสุขภาพและความงามเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และโรงพยาบาลยันฮีก็เล็งเห็นถึงความสำคัญและการเติบโตของธุรกิจสายนี้ “เราจึงเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลขึ้นมารองรับและตอบสนองความต้องการของลูกค้า- และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายในทุกกลุ่ม “เราจึงก่อตั้งบริษัท ยาอินไทย จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยา อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ เพื่อมาตอบโจทย์ที่เพิ่มมากขึ้นในจุดนี้ ไปพร้อมกับการกระจายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึง ทั้งในประเทศไทยและขยายออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน- วันนี้ จึงเรียกว่าทุกคนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลยันฮีได้ง่ายมากขึ้นในหลายช่องทางทั้งร้านละควกซื้อ ร้านขายยา ห้างลรรพลินค้า หรือจะเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆ

เช่นเดียวกับแนวโน้มของธุรกิจที่ว่านี้ ประธานกรรมการบริหารอินไทยเชื่อว่า ธุรกิจสุขภาพและความงามยังจะเติบโตได้อีกไกล “เพราะปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจในการดูแลตัวเองและรักษาสุขภาพมากขึ้น เป็นการกระตุ้นตลาดให้มีความหลากหลายและผู้เล่นมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะลมกับตนเอง” เช่นเดียวกับบริษัทยาอินไทย ที่ยังเน้นย้ำถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง “เรายังคงศึกษา คันคว้า และทำการวิจัย เพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร อาหารเสริม และเครื่องสำอางต่างๆ” ส่วนเป้าหมายทางการตลาด ประธานกรรมการบริหารยาอินไทย ยอมรับว่า วันนี้ยอดขายและการขยายล่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทเดิบโตขึ้นทุก ๆ ปี “เรามีลินค้า Hero ที่คนเห็นก็จะนึกถึงเรา อาทิ ครีมแก้ปวดโคเพน ที่เจาะกลุ่มวัยทำงานถึงวัยสูงอายุ หรือจะเป็นเมล่าครีมลดกระฝ้า เซรั่มวิตชีบำรุงผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ และอาหารเสริมบำรุงผิวพรรณเพื่อรักษารูปร่างต่างๆ ก็เจาะกลุ่ม ผู้หญิงวัยรุ่นถึงวัยทำงานได้อย่างดี” ยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด “ยาฟ้าทะลายโจร” และ “กระชายขาว- ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของยาอินไทย ที่ช่วยทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว “ในปีนี้การเติบโตในช่องทางE-Commerceของบริษัทไตรมาล 1 – 2 ของปี 2565 เติบโตขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่เป็นการเพิ่มและพัฒนาช่องทางการขาย และตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน

หากพูดถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามของยาอินไทย นอกจากการควบคุมการผลิตที่อยู่ภายใด้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญในทุกขั้นตอนแล้ว นพ.สรรพสิทธิ์ ย้ำว่า ไม่ใช่แค่การคิดค้นและวิจัยอย่างเข้มข้น แต่ยังต้องติดตามผลลัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง “ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวไหนใช้แล้วดีเห็นผลจริง และไม่มีผลข้างเคียง เราถึงจะเริ่มกระบวนการผลิตรวมถึงเรายังคัดสรรถ่วนประกอบที่มาจากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพรเป็นหลัก และไม่มีสารปรอทเจือปน ดังนั้นผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของยาอินไทยใช้แล้วปลอดภัยได้มาตรฐานแน่นอน”

กระนั้นก็ตาม วันนี้เทรนด์ของการดูแลสุขภาพและความงาม อาจเรียกว่าเดิบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมีอยู่มากมายตามไปด้วย เพื่อรองรับกระแสความต้องการของผู้บริโภค แต่ประธานกรรมการบริหารยาอินไทยก็ยังเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามของยาอินไทย จะยังคงได้รับความนิยม และตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้อย่างดี “ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ของเรายังมีราคาที่เข้าถึงและจับต้องได้ และจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งลามารถขายตัวเองได้ รวมถึงทำให้ผู้บริโภคซื้อซ้ำ และเกิดการบอกต่อไปเรื่อยๆ ด้วย”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.