นอกจากจะดำรงตำแหน่งรองประธาน บริษัท อาร์โต จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชุดแต่งและอะไหล่รถยนต์ ตลอดจนเป็นผู้จัดอีเวนต์รถยนต์ระดับประเทศแล้ว การเป็น “นักแข่งรถหญิง” เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทของ “เก๋-กิติยา สมิตชาติ” ที่ล่าสุดกำลังเตรียมพร้อมลงสนามแข่งรายการใหญ่ระดับประเทศ
คุณกิติยา สมิตชาติ เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่เธอจะลงแข่งขันรถยนต์ในรายการโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต 2023 “ที่ตัวเองตัดสินใจลงแข่งเพราะเราอยู่ในธุรกิจรถยนต์ และการขับรถก็เป็นสิ่งที่เราชื่นชอบอยู่แล้ว ทั้งสามีและลูกสาวคนโตก็เป็นนักแข่งรถเหมือนกันค่ะ ส่วนอีกเหตุผลในการตัดสินใจลงแข่งก็เพราะอยากจะท้าทายตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำให้สำเร็จ”
รองประธานบริษัทฯ เล่าให้ฟังด้วยว่า “กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นกีฬาของความเร็ว และเป็นกีฬาที่ทำให้เรารู้ว่าเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อที่จะลงแข่ง ซึ่งความพร้อมตรงนี้จะทำให้เรามีความกล้า และมีสติ ขณะที่การตัดสินใจเพียงแค่เสี้ยววินาทีอาจทำให้ผลที่ออกมาต่างกันโดยสิ้นเชิงอีกด้วย เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตหรือบริหารธุรกิจ ตัวของเราก็ต้องใช้ความรู้และสติที่มีความพร้อมเหมือนกัน เพื่อจะนำพาชีวิตและธุรกิจให้ดำเนินไปในทางที่เราต้องการต่อไป”
เมื่อถามว่าโลกใบนี้เปิดกว้างให้กับผู้หญิงมากน้อยแค่ไหน คุณกิติยา สมิตชาติ บอกอย่างชัดเจนว่า “ปัจจุบันมีนักแข่งผู้หญิงเยอะขึ้นมากในวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ประกอบกับรายการโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต ก็เป็นผู้จัดรายแรกที่เปิดโอกาสให้กับผู้หญิงที่ชื่นชอบในความเร็วเข้ามาแข่งขันในรุ่น Lady One Make Race โดยเฉพาะ และที่ผ่านมาก็มีน้องๆ นักแข่งผู้หญิงที่สามารถทำความเร็วได้ดีกว่าผู้ชายหลายๆ คนอีกด้วย” รองประธานบริษัทฯ ยังบอกด้วยว่า “ส่วนตัวแล้วมองว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ในแง่ของการตัดสินใจจริงๆ เรียกว่าไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าผู้หญิงเวลาตัดสินใจอะไรจะมีมุมมองที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้หญิงเรากับความคาดหวังของสังคมในปัจจุบัน ทำให้เราต้องรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการตัดสินใจ”
ทว่าคุณกิติยาย้ำว่า “หากเรามั่นใจในสิ่งที่คิดแล้ว และมีการ ตัดสินใจไปแล้ว ตัวของเราก็จะแฮปปี้กับผลที่ออกมา สังคมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรามองว่าเรื่องเพศไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว มีผู้หญิงที่เป็นผู้นำองค์กรอยู่หลายท่านที่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องธุรกิจและการใช้ชีวิต แถมยังเป็นบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับหลายๆ คนด้วย”
ในส่วนของปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการก้าวไปสู่การเป็นผู้นำองค์กรของผู้หญิง คุณกิติยามองว่าอุปสรรคของความสำเร็จจริงๆ แล้วคือตัวของเราเอง “บางครั้งที่เราไม่มั่นใจ หรือคิดว่ายังไม่พร้อม อาจทำให้การตัดสินใจหรือการลงมือเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างล่าช้าไปได้ แต่จะว่าไปแล้วผู้หญิงแต่ละคนก็มีจุดเด่นในตัวเองที่ต่างกันไป ทั้งความคิด ความรู้ ความสามารถ หรือแม้แต่ประเภทธุรกิจ ก็มีผลกับการบริหารงาน หรือการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับตัวของดิฉันเอง หากจะพูดถึงธุรกิจยานยนต์ที่เป็นมอเตอร์สปอร์ต ความเป็นทีมเวิร์กถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งเรื่องนี้เราได้มีการเน้นย้ำอยู่เสมอ”
ความเป็นผู้หญิงไม่ใช่แค่เรื่องของการทำงานเท่านั้น แต่อีกบทบาทสำคัญก็คือเรื่องของครอบครัว ซึ่งคุณกิติยาก็เรียกได้ว่ามีวิธีบาลานซ์ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้เป็นอย่างดี “ในฐานะที่เป็นทั้งภรรยา เป็นทั้งคุณแม่ของลูกๆ แน่นอนว่าเราต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับแรก แต่โชคดีที่วันนี้ ลูกๆ โตแล้ว จึงมีเวลามากพอที่จะไปโฟกัสเรื่องการบริหารงาน ในบริษัทรวมถึงทีมแข่งรถ เพราะต้องเดินทางตลอดเวลาเลยทำให้ต้องมีการวางแผน โดยเฉพาะเรื่องของเวลาเพื่อให้เกิดความบาลานซ์ ทั้งเรื่องของธุรกิจและเรื่องของครอบครัว”
อย่างไรก็ดี ในการทำงานหรือการใช้ชีวิตส่วนตัวอาจจะต้องเจอกับปัญหาหลายๆ อย่าง แต่สำหรับคุณกิติยาแล้ว เธอเป็นผู้หญิงเก่งอีกคนที่มีวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี “ก่อนอื่นเลยเราต้องยอมรับกับความผิดพลาดหรือปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน จากนั้นก็หาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป เพราะโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก และมีทางแก้ไขเสมอ ขณะเดียวกันเราเองก็ต้องนำเอาข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาเป็นบทเรียนสำหรับการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในอนาคตต่อไปด้วย”