“บุคลากรทุกคน ทุกหน้าที่ในบริษัท ต่างมีความสำคัญทุกคน เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นแค่ใครคนใดคนหนึ่ง ทว่าเกิดจากทุกคน ทุกหน่วยงานในองค์กร ต่างร่วมแรงร่วมใจทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด” เป็นประโยคที่ เมอซีเดส สิรภัทร สาระคุณ ใช้เป็นหลักคิดในการบริหารงานบริษัท อีซูซุ เสนียนต์นครสวรรค์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถแบรนด์ ISUZU ที่มารับช่วงต่อจากครอบครัว
“เราเลือกทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จด้วยการแบ่งกลุ่มและมองเป้าหมาย ทั้งภาพเล็กและภาพใหญ่ให้ชัดเจน ต้องทำอะไร เมื่อไร ซึ่งนั่นจะทำให้เราวางแผนการทำงานในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่การย่อยวิสัยทัศน์ของเราให้เป็นภารกิจในแต่ละวัน ก็จะทำให้เราก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในทุกๆ วันเช่นกัน” ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับการพัฒนารูปแบบการสื่อสาร ทั้งการฟัง และการพูด ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่เธอมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำองค์กร “การตั้งใจฟังในสิ่งที่ทีมงานพูด ฟังให้ได้ยินสิ่งที่เขาต้องการแต่อาจจะไม่ได้พูดออกมา รวมถึงการพูดอย่างไรให้โดนใจ พูดให้ทรงพลัง เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พนักงานในองค์กรของเรา อยากทำงานและเห็นการเติบโตของบริษัท”
“เราเลือกทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จด้วยการแบ่งกลุ่มและมองเป้าหมาย ทั้งภาพเล็กและภาพใหญ่ให้ชัดเจน ต้องทำอะไร เมื่อไร ซึ่งนั่นทำให้เราวางแผนการทำงานในแต่ละวันได้อย่างดี หรือแม้แต่การย่อยวิสัมทัศน์ของเราให้เป็นภารกิจในแต่ละวัน ก็จะทำให้เราก้าวสู่ความสำเร็จในทุกๆ วันเช่นกัน”
ความแตกต่างด้านวัยวุฒิ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ สิรภัทร สาระคุณ เน้นย้ำในการทำงานร่วมกับทีมงาน “อันดับแรกเลย เราต้องมีใจที่เชื่อมั่นและวางใจในความสามารถของทีมงานทุกคน โดยมองว่าเราทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ทุกความเห็นและไอเดียจากทีมงานทุกคน เป็นสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่าอย่างมาก” เช่นเดียวกับ “โปรเจกต์เสนียนต์ 50 ปี” ที่ สิรภัทร สาระคุณ ย้ำชัดว่าเป็นโปรเจกต์ที่คุณพ่อของเธอวางเอาไว้ และตัวของเธอก็อยากจะสานต่อโปรเจกต์นี้ให้บรรลุเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจ “เป็นการวางแผนการทำงานล่วงหน้า ว่าจะต้องทำอย่างไรให้บริษัทสามารถอยู่ต่อไปได้ โดยรักษาอันดับ market share ให้เป็นอันดับ 1 ของตลาดในพื้นที่ ซึ่งเราครอบคลุมอยู่ต่อไปเรื่อยๆ จนถึง 50 ปี” นอกจากนี้โปรเจกต์เสนียนต์ 50 ปี ยังแฝงด้วยแนวคิดการทำงานที่ซื้อใจพนักงานทุกคน ให้มีความภักดีต่อองค์กร ต่อครอบครัวของเรา ซึ่งจะทำให้เขาเต็มใจทำงานแล้ววางใจที่จะช่วยดูแลคนรุ่นต่อไปที่จะก้าวเข้ามาดูแลบริษัทต่อไป “แนวคิดทั้งหมดนี้อาจะไม่ได้เกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ต้องอาศัยเวลา และการพัฒนาบุคลากรในองค์กร แผนงานต่างๆ รวมถึงตัวของเราเองด้วย”
อย่างไรก็ดี คอนเน็กชันที่ดีก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นมากๆ “หลักสูตร IMNEG จะทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น ได้เห็นมุมมองที่ต่างออกไปจากสิ่งที่เราเห็นทุกวัน และยังได้ความรู้ใหม่ๆ เสริมเข้ามาอีกมาก ซึ่งถือว่าจำเป็นและสำคัญกับผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่จะมาสืบทอดธุรกิจต่อจากครอบครัว ตลอดจนเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีทางสังคมให้เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อจะส่งต่อวิสัยทัศน์ในการทำงานให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น”