“แคทรียา อิงลิช” ประสบการณ์สร้าง “นักแสดง” มืออาชีพ

0
582

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ไม่ว่าจะได้รับบทบาทอะไร หรือเป็นตัวละครแบบใด เธอคนนี้ก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างถึงพริกถึงขิง รวมถึงยังเป็นคนที่คอยสนับสนุน และอยู่เบื้องหลังส่งเสริมนักแสดงรุ่นน้องให้ก้าวข้ามผ่านความท้าทายไปสู่การเป็นนักแสดงมืออาชีพ

แคทรียา อิงลิช นักแสดงสาวผู้มากฝีมือทั้งในเรื่องของการแสดงการร้องเพลง ที่เคยสร้างความประทับใจให้กับคนมาแล้วมากมายเล่าว่า เธออยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 30 ปี ซึ่งจากวันที่เธอเข้าวงการวันแรกจนมาถึงวันนี้ เธอได้พบกับการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างเรื่อยมา “ตอนที่เข้ามาในวงการบันเทิง ตอนนั้นน่าจะเป็นยุค 80 – 90 ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับตัวเอง เพราะเป็นยุคสมัยที่นักแสดงรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง ล้วนมีความสนิทสนมกันมากที่สุด”

ช่วงเวลาความประทับใจ
“แคทว่าช่วงเวลานี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมากที่สุดก็ว่าได้ค่ะ” นักแสดงสาวเล่าด้วยว่า ตอนนั้นเธอได้เห็นความสนิมสนมกันของนักแสดงรุ่นพี่และรุ่นน้องที่คอยช่วยเหลือกัน ได้มองเห็นความสัมพันธ์ของนักแสดงที่ต้องมาอยู่ร่วมกันในกองถ่ายละคร หรือกองถ่ายภาพยนตร์ จนกลายเป็นภาพที่ชินตา “แต่พอก้าวผ่านมาสู่ยุคที่มีเรื่องของโซเขียลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ภาพของวงการบันเทิงก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง นักแสดงหลายคนหลังจากที่ถ่ายละครในแต่ละตอนเสร็จ ก็จะวุ่นอยู่กับโลกโซเขียลกลายเป็นสังคมกัมหน้า ไม่ค่อยพูดคุยกันสักเท่าไร ทำให้ความสัมพันธ์และความเป็นพี่น้องของคนในวงการบันเทิงดูห่างเหินกันไปมากกว่าอดีต”

“หากพูดถึงเรื่องงาน การเล่นโซเชียลก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักแสดงรุ่นใหม่หลายๆ คนขาดการเอาใจใส่ หรือไม่มีสมาธิกับบทที่ได้รับไปด้วย ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง ซึ่งต่างจากที่แคทเคยผ่านชีวิตในยุค 80 – 90 อย่างมาก ตอนนั้นเราทุกคนมีชีวิตแบบเรียบง่ายมาก สบายๆ ง่ายๆ แล้วก็ยังสนุกกับงาน มีความสุขจริงๆ ค่ะ” นักแสดงสาวที่ได้รับฉายานางเอกเอวเอสบอกด้วยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอได้ทำในสิ่งที่เธอรักมากๆ ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานแสดง หรือการร้องเพลง “การเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ยังทำให้แคทได้มีโอกาสไปเห็นโลกที่กว้างขึ้น ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงได้รับประสบการณ์ด้านการแสดงมาเยอะมาก และที่สำคัญ ยังทำให้เราได้รู้จักคนมากขึ้นด้วย”

ประสบการณ์ที่พร้อมถ่ายทอด
ด้วยประสบการณ์ด้านการแสดงที่ถูกสั่งสมมานับตั้งแต่เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรก วันนี้ประสบการณ์เหล่านั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันที่ทำให้เธอมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือนักแสดงรุ่นน้อง ให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงแถวหน้า “น้องๆ บางคนที่เข้ามาในวงการบันเทิง บางคนอาจจะไม่ได้เรียนการแสดงมาก่อน แคทก็เลยอยากช่วยน้องๆ เหล่านั้นให้เขาสามารถเดินไปบนเส้นทางฝัน ถ้าน้องคนไหนอยากเรียนรู้ เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน และสอนเขาแบบให้ความรู้ทั้งหมดที่เรามีอยู่แบบฟรีๆ เลยเพื่อให้เขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ เพราะเราเองก็เติบโตมาในยุคที่นักแสดงแต่ละคนใช้ฝีมือลัวนๆ ในการทำงาน”

แคทเล่าย้อนอดีตให้ฟังด้วยว่าในสมัยนั้น กว่าจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นดาราหรือนักแสดงแถวหน้าได้ ต้องใช้ฝีมือล้วนๆ “กว่าที่แต่ละคนจะดังได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต้องก้าวไปทีละขั้น ทีละก้าว สมัยนั้นเราไม่มีโซเชียลเข้ามาเป็นตัวผลักดัน จะมีก็แต่นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์เท่านั้น ใครได้ถ่ายปกแมกกาซีนหรือลงหนังสือพิมพ์จะถือว่าเป็นดาราที่ดังมากในสมัยนั้น”

“แต่วันนี้มีโซเชียล มีมือถือ บางคนอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีความสามารถก็ดังได้ ส่วนเรื่องของคุณภาพงานอาจจะลดลง ส่งผลให้คุณค่าในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใดก็ตามลดลงตามไปด้วย เพราะได้มาง่ายๆ และสุดท้ายเราเองก็จะเป็นคนที่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งๆ นั้นเลย”

ไม่ยึดติดกับบทบาท
หากพูดถึงสิ่งที่มาผลักดันและทำให้แคทรียา อิงลิช ยังคงยืนหนึ่งอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างทุกวันนี้ คำตอบที่เจ้าตัวตอบอย่างหนักแน่นคือ เพราะเธอไม่เคยห่วงความสวยเลย “เรียกว่าใครให้บทอะไรมาก็ทำหมดเลย ที่เป็นแบบนั้นเพราะคำว่า ‘ฉันเป็นนักแสดง’ แคทมองว่าถ้าเรามัวแต่ห่วงสวย เราก็จะไม่ได้เล่นบทที่ผู้กำกับให้มาสักที แคทอยากเล่นในสิ่งที่ตัวเองเป็นในบท ไม่เช่นนั้นเราก็จะถูกมองว่าไม่ได้เป็นนักแสดงมืออาชีพ ก็แค่อยากเล่น และอยากเป็นไปตามบทบาทของตัวละครค่ะ”

“บางคนสวย แต่ได้รับบทว่าต้องลุย หรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นคือคาแรกเตอร์ที่เราต้องเล่น เราต้องยอมรับกับบทบาทที่ได้มา และต้องยอมรับในคาแรกเตอร์ที่เขาวางให้เราเป็น หากได้รับบทมาแล้วหรือรับเล่นแล้วมาบอกภายหลังว่าเล่นไม่ได้ คำว่าเล่นไม่ได้ไม่มีนะคะ ถ้าหากรับบทมาแล้วแล้วบอกแบบนี้ อาจทำให้กองถ่ายเสียเวลา และทำให้เกิดความเสียหายหลายๆ อย่างตามมาค่ะ” นางเอกสาวมองในอีกมุมด้วยว่า “หากเราคิดว่าบทที่ได้รับมีความท้าทาย แม้ว่าเราจะคิดว่าเป็นบทที่ยาก แต่หากเราพยายามใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ เราก็จะเล่นในบทบาทนั้นได้ และคุณก็จะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่พร้อมจะพัฒนาตัวเอง”

“อย่างตอนที่แคทกลับมาเล่นละครอีกครั้ง บทที่หนักที่สุดหลังจากที่ผ่านมากว่า 30 ปี คือบทในละครเรื่อง ‘เวราอาฆาต’ เป็นบทที่หนักมาก ทำเอาเครียดเหมือนคนเป็นไบโพลาร์เลย เพราะต้องร้องไห้ กรี๊ดแตกเกือบทั้งเรื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณป่าปกาสิต กิ่งศักดิ์ ผู้กำกับการแสดงที่ส่งบทนี้ให้ ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็ถือเป็นบทบาทที่สร้างความท้าทายให้กับตัวเอง และสะใจมาก หลังจากที่ไม่เคยได้เล่นบทเหล่านี้มาเลยก่อนหน้านี้”

“พิธีกร” บทบาทใหม่ที่ท้าทาย
วันนี้นอกจากจะมีผลงานละครทยอยกลับมาทำให้เธอรู้สึกท้าทายกับบทบาทการแสดงมากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งบทบาทใหม่ของนางเอกสาวคนนี้ก็คือการเป็นพิธีกรในรายการวาไรตี้ใหม่ล่าสุดทางช่อง MONO29 “จริงๆ วันนี้มีละครเข้ามาแล้ว 3 เรื่องค่ะ คือ “สร้อยนาคี’ ทางช่อง 7 ‘สายรุ้ง’ ทางช่อง One 31 และ ‘รักสุดใจยัยตัวแสบ’ ทางช่อง 3 ซึ่งละครแต่ละเรื่องก็ได้รับบทบาทที่แตกต่างกันไปค่ะ ที่ผ่านมาใครให้บทอะไรมาก็จะดูว่าเหมาะกับเราไหม ถ้าดูแล้วเหมาะก็จะรับเล่นค่ะ” ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่าเธอไม่เคยยึดติดเลยว่าจะต้องรับบทเป็นนางเอกตลอดไปสำหรับงานพิธีกร เธอยอมรับว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก “ยอมรับค่ะว่าไม่ใช่งานที่แคทถนัดสักเท่าไร และกลัวด้วยซ้ำ ก็ได้ลูกยุจากผู้จัดการส่วนตัวมากกว่า ที่ทำให้เรากล้าที่จะรับความท้าทายในหน้าที่พิธีกรรายการ The Ladies ผู้หญิงแถวหน้า’ ซึ่งหลังจากที่ได้ทำก็ทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลใหม่ๆ เกี้ยวกับผู้หญิงเยอะเลยค่ะ และทำให้รู้ด้วยว่าวันนี้ผู้หญิงอย่างเราๆ สามารถเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น ไม่ว่าจะเป็นนักบินหรือซีอีโอผู้หญิงก็สามารถเป็นได้หมดค่ะ”

อาชีพในฝัน
แต่อย่างไรก็ดี ใครจะรู้ว่านักแสดงสาวสวยคนนี้มีอาชีพในฝันของตัวเอง “แอ็กติ้งโค้ชในกองถ่าย เป็นสิ่งที่แคทอยากทำค่ะ เพราะเอาจริงๆ นะคะ จะให้เราไปเป็นครูสอนเต้น แคททำไม่ได้ค่ะ ต้องบอกว่าเราเต้นเป็น แต่สอนไม่เป็นนะ เรื่องเต้นกับเรื่องสอนคนละเรื่องกัน ถ้าให้คนอื่นมาสอนเรา สอนได้ค่ะ แค่เราไม่มีทักษะในการสอนคนอื่นเท่านั้น เราไม่รู้จะสอนอย่างไร เพราะเราไม่มีข้อมูล ไม่รู้จะอธิบายให้เขาเข้าใจอย่างไร”

“เหมือนกับการเป็นครูสอนแอ็กติ้ง เราก็สอนไม่ได้ แต่ถ้าให้เป็นแอ็กติ้งโค้ชในกองถ่าย เราทำได้นะ เพราะเราอยู่ในกองถ่าย เรารู้บทรู้คาแรกเตอร์ของตัวละคร เราสามารถปรับหรือเสริมให้เขา ในสิ่งที่เขามีอยู่แล้วได้ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นความสุขหนึ่งที่แคททำได้ ค่ะ เพราะความสุขของแคทคือการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และเราก็จะพยายามทำอย่างดีที่สุด” และไม่ใช่แค่เรื่องของการแสดงเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นความสุขของเธอ การได้ทำหน้าที่ของเธอในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของพี่สาว เป็นน้องสาว รวมไปถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องในวงการบันเทิง ก็ยังเป็นอีกสิ่งที่เธอยอมรับว่าเป็นความสุขของเธอโดยแท้จริง

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.