“น้องอร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ” อดีตนักร้องไอดอลวง “BNK48” ศิลปิน นักแสดง และบทบาทใหม่ของเธอคือการนั่งแท่นเป็น CEO ที่ UNEQ Entertainment ในวัยเพียง 26 ปี เธอบอกว่าการผันตัวจากศิลปินมาสู่ผู้บริหารค่ายถือเป็นเรื่องท้าทายความสามารถ เพราะการทำบริษัทต้องรับผิดชอบงานและผู้คนมากมาย แต่เธอก็พร้อมกับก้าวแรกบนเส้นทางนี้ และจะเป็นก้าวที่มุ่งมั่น มั่นคง เพื่อความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
“ที่ผ่านมาอรเป็นศิลปินมาเกือบ 10 ปี พอมานั่งเป็นผู้บริหารค่ายยูนีคก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากแต่ก็ท้าทาย ตอนที่เป็นศิลปินเรารับผิดชอบเฉพาะเรื่องของตัวเอง แต่พอมาทำค่าย เราจะเป็นคนวางแผนงาน วางกลยุทธ์ ตื่นเช้ามาก็เข้าประชุม เราต้องหา Core Value จริงๆ มันเป็นงานที่ใหม่มาก เพราะเพิ่งเปิดค่ายเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา แต่เราก็วางแพลนไว้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่ให้ศึกษาอีกเยอะ ซึ่งอรก็พร้อมจะเติบโตไปกับบริษัทอย่างเต็มที่”
“การที่เราก้าวจากศิลปินมาเป็นผู้บริหารค่าย ก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ คำว่าสำเร็จคือเราต้องมีงานทำไปเรื่อยๆ จนอายุ 60 70 80 ก็ยังมีงาน รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาเพื่อวงการบันเทิง”
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2023/06/อร-683x1024.jpg)
“แม้จะเป็น CEO ในวัย 26 แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด อะไรที่ควรพัฒนาต่อก็ทำไป แผนไม่สำคัญเท่ากับการดูงานภาคสนาม พอ “ก่อน” (วฑูศิริ ภูวปัญญาสิริ) “เนย” (กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล) และ “ตาหวาน” (อิสราภา ธวัชภักดี) มาสังกัดค่ายเรา ก็ต้องขอบคุณที่เขาไว้ใจ เพราะเราเพิ่งเริ่มทำค่าย ก็อาจจะมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ ธุรกิจด้าน Entertainment มันต้องพร้อมตลอดเวลา แต่ก็ตั้งใจเต็มที่ที่จะพาค่ายก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และทำให้ดีที่สุด”
“ส่วนตัวอยากมีค่ายในแบบฉบับของตัวเอง คนที่จะมาสังกัดก็จะต้องมีความแตกต่าง โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ทัศนคติก็ต้องสอดคล้องกับเรา เรื่องบริหารคนเป็นสิ่งที่ยากที่สุด คิดต่างกันมากๆ ก็คุยกันยาก การที่เราก้าวจากศิลปินมาเป็นผู้บริหารค่ายก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ คำว่าสำเร็จคือเราต้องมีงานทำไปเรื่อยๆ จนอายุ 60 70 80 ก็ยังมีงาน รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาเพื่อวงการบันเทิง การบริหารค่ายประสบความสำเร็จก็คือการที่เราหารายได้ดูแลพนักงาน ดูแลศิลปิน ทำให้ค่ายเติบโต ศิลปินในค่ายมีชื่อเสียง ปั้นเด็กในสังกัดแล้วรุ่ง นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ขอให้มีรายได้เข้าบริษัท มีกำไร ให้ผลตอบแทนศิลปินอย่างยุติธรรม นี่คือสิ่งที่ประสบความสำเร็จที่สุด ทำอย่างไรก็ได้อย่าให้ธุรกิจขาดทุน นี่คือสิ่งที่ตั้งใจไว้ค่ะ”