“คุณคิม-กวิน นิทัศนจารุกุล” CEO บริษัท K-Nex Corporation จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกชัก “Otteri Wash & Dry” ที่เล็งเห็นโอกาสจากการเดินทางแล้วสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่คุณคิมอยากเห็นความสำเร็จของบริษัทไม่ใช่แค่ยอดรายได้ การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ หรือการพาบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ แต่สิ่งสำคัญคือการที่ต้องรู้จักแบ่งปันช่วยเหลือสังคม และดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
“ผมเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไซส์ร้านสะดวกซัก ‘Ofteri Wash & Dry’ ปัจจุบันนี้มีอยู่ราวๆ 900 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจของผมเริ่มต้นจากการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศและได้เห็นโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งผมมองว่าธุรกิจ Laundromat น่าจะมีโอกาสในการขยายธุรกิจในไทยได้ดี ผมก็เลยเริ่มทำธุรกิจนี้เป็นรายแรกตั้งแต่ปี 2016 ธุรกิจผมตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จและได้บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTOR เข้าถือหุ้นราว 40% (1,105 ล้านบาท) ทำให้ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากธุรกิจในประเทศแล้ว ผมก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยัง CLMV (กัมพูชา ลาว สหภาพเมียนมาร์ และ เวียดนาม) รวมถึงภูมิภาคอาเซียนในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า”
“ถ้าถามผมว่าการที่เป็นคนสร้างธุรกิจด้วยตัวเองจนประสบความสำเร็จมันท้าทายหรือสนุกกับการทำธุรกิจอย่างไร ผมว่ามันท้าทายแหละ แต่ก็ไม่ได้สนุกหรอกครับ (หัวเราะ) แต่มันเป็นความภาคภูมิใจมากกว่า เพราะเราสามารถสร้างตัวตนและความสำเร็จในฐานะที่เราเป็นคนก่อตั้ง ความสำเร็จของคนที่สร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยตัวเองอย่างผม ก็จะมีความกดดันว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จไหม ธุรกิจจะดีไหม จะไปรอดหรือเปล่า”
“การช่วยเหลือสังคม ธุรกิจไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ เราสามารถทำได้ การทำธุรกิจเราคงไม่สามารถโฟกัสแค่เรื่องของกำไรอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมองในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย”
“ตอนนี้ธุรกิจผมอยู่ใน Milestone ของบริษัทที่ตั้งใจไว้ และใน 3 – 4 ปีข้างหน้าก็มีแผนที่จะพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้มากยิ่งขึ้น เราอยากให้บริษัทเป็น Regional Company เมื่อมีโอกาสเราก็อยากให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องและอยู่อย่างยั่งยืน ถ้าถามผมว่าอยากลงทุนทำธุรกิจอื่นๆ อีกไหม ผมยังไม่มีแพลน เพราะอยากโฟกัสกับธุรกิจ Laundromat ที่ทำมากกว่า”
“สำหรับแผนการใช้ชีวิตของผมในอนาคตหลังจากที่วางมือในส่วนของการทำธุรกิจแล้ว ก็อยากทำงานเพื่อสังคมมากขึ้น ที่ผ่านมา ‘Otteri Wash & Dry’ ได้ร่วมมือกับมูลนิธิกระจกเงาในการเปิดให้กลุ่มคนไร้บ้านได้เข้ามาอาบน้ำ และซักเสื้อผ้ากับทางร้าน ผมมองว่าการช่วยเหลือสังคม ธุรกิจไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ เราสามารถทำได้ ซึ่งผมก็ทำกิจกรรมเหล่านี้มาหลายปีแล้ว การทำธุรกิจไม่ควรโฟกัสแค่เรื่องกำไรอย่างเดียว เราต้องมองมุมอื่นที่ได้รับผลกระทบจากธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมและลังคม เราต้องออกแบบธุรกิจที่สามารถแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับเรื่องของกำไรด้วย นี่ถึงจะเป็นการทำธุรกิจที่ดีและมีธรรมาภิบาล”