บทเพลงมากกว่า 200 เพลง ทั้งเพลง ประกอบละคร ประกอบซีรีส์ รวมถึงเพลงของศิลปินที่โด่งดังมากมาย ใครจะเชื่อว่าผู้อยู่เบื้องหลังบทเพลงที่ได้รับความนิยมเหล่านั้นเป็น “ผู้หญิง” ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่กว่าเธอจะก้าวขึ้นมาเป็น “นักแต่งเพลง” เบอร์ต้นๆ ของวงการได้นั้น จะต้องฝึกฝนมาอย่างหนัก กว่าจะได้รับการยอมรับอย่างในทุกวันนี้
“แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์” คือโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงที่อยู่เบื้องหลังเพลงดังมากกว่า 200 บทเพลง ซึ่งรวมถึงเพลงที่แต่งเพื่อใช้ประกอบละครและ ซีรีส์ หรือบทเพลงที่แต่งเพื่อให้ศิลปินขับร้อง “ตั้งแต่เด็กๆ จะเป็นคนชอบฟังเพลงและชอบเล่นเปียโน มักชอบไปซื้อหนังสือคอร์ดกีตาร์มาหัดเล่น ส่วนใหญ่จะเล่นเพลงไทยที่เป็นเพลงป็อป” ซึ่งนั่นอาจเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณแอ้มได้เดินเข้าสู่เส้นทางของงานด้านดนตรีมาอย่างต่อเนื่อง
“ตั้งแต่เด็กเราจะรู้สึกว่าอาชีพในสายดนตรีนี้มีความลึกลับมาก ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง รวมถึงไม่คิดว่าเราจะทำได้ พอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้มาอยู่ในวง CU BAND แต่จุดเริ่มต้นที่ได้เข้าทำงานในสายดนตรีจริงๆ คงเป็นตอนที่เข้ามาทำไกด์ร้องคอรัสให้กับค่ายกามิกาเซ่ แล้วได้เจอกับทีมพี่ก๊อป-ธานี และ พี่ต่อ-ธรรศ ซึ่งทั้งสองคนเห็นว่าแอ้มน่าจะเขียนเนื้อเพลงได้ เลยชวนให้มาเป็นเด็กฝึกงาน จนได้เริ่มเข้ามาทำอัดเสียงร้องและเริ่มมาเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ในทีม ของพี่เขา และเพลงแรกที่ได้มีส่วนร่วมในการแต่งทำนองและเนื้อเพลงคือเพลง ‘รักได้รักไปแล้ว’ ให้ศิลปินโฟร์-มด ก่อนที่จะมีงานแต่งเนื้อเพลงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ ต่อมามีโอกาสได้เข้ามาทำเพลงประกอบละครให้กับทางเอ็กแซ็กท์ ชื่อเพลง ‘ไว้ใจฉันได้เสมอ’ ที่ร้องโดยคิว-สุวีระ ถือเป็นเพลงแรกที่ได้เขียนทั้งเนื้อร้องและทำนอง จากนั้นก็มีงานแต่งเนื้อเพลงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้”
ตลอดระยะเวลา 15 ปี ของการเป็นโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงของแอ้ม-อัจฉริยา แน่นอนว่าทุกบทเพลงที่ถูกถ่ายทอดออกมานั้น เชื่อว่าหลายๆ คนต้องรู้จัก อย่างเพลง “รู้งี้เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว (Safe Zone)” เพลงประกอบซีรีย์แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2, เพลง “สองใจ” ประกอบละครวันทอง, เพลง “ครึ่งชีวิต (ทั้งจิตใจ)” ของนิว-จิ๋ว, เพลง “Lonely Night” ของเป๊ก-ผลิตโชค, เพลง “คนเดิม” ของนิว-นภัสสร, เพลง “ลังเล” ของพีพี-กฤษฏ์, เพลง “ภาพจำ” ของป๊อบ-ปองกูล ซึ่งเพลงภาพจำ ก็เป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซที่เจ้าตัวสุดภูมิใจ และถือเป็นเพลงที่ช่วยปลดล็อกด้านความสามารถของเจ้าตัวในการเข้ามาทำงานสายอาชีพนี้ “เพลงภาพจำเป็นเพลงที่รู้สึกว่า ถึงแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เวลาไปไหนคนก็ยังขอเพลงนี้อยู่ เป็นเพลงที่อยู่มานานมาก ทุกวันนี้พี่ป๊อบ-ปองกูล ก็ยังคงร้องเพลงนี้ในทุกงานที่ไปขึ้นคอนเสิร์ต และเป็นเพลงที่ทำให้แอ้มรู้สึกว่า ถึงแม้เราจะเป็นผู้หญิง เราก็สามารถเขียนเพลงหรือทำเพลงออกมาให้นักร้องที่เป็นผู้ชายร้องได้เหมือนกัน”
วันนี้ หากเอ่ยชื่อของ แอ้ม-อัจฉริยา ก็เหมือนมีเครื่องหมายการันตีถึงความสำเร็จและการยอมรับในฝีมือการทำงาน ตรงนี้โปรดิวเซอร์คนเก่งกลับมองว่า “รู้สึกว่าเป็นความกดดันมาก และจะบอกเสมอว่าอย่าคิดอย่างนั้น เพราะไม่มีอะไรมาการันตี ได้ว่าทุกเพลงที่เราทำออกมานั้นจะดัง ตรงนั้นไม่เกี่ยว แต่สิ่งหนึ่งที่แอ้มการันตีได้คือ แอ้มเป็นคนตั้งใจทำงาน และทุกงานที่ทำออกมาจะไม่ใช่งานที่ทำออกมาชุ่ยๆ อย่างแน่นอน แอ้มรู้สึกว่าการทำงานเบื้องหลังเหมือนเรานับหนึ่งใหม่ในทุกชิ้นงาน”
“หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า วงการนักแต่งเพลงค่อนข้างมี ผู้หญิงเข้ามาทำงานทางด้านนี้น้อยมาก เพราะแต่ก่อนจะมีแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่วันนี้ก็เริ่มมีผู้หญิงเข้ามาทำงานทางด้านนี้เยอะขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินที่เป็นนักร้องอยู่แล้ว เช่น โบกี้ น้องบีม ซึ่งก็เป็นอีกศิลปินหญิงที่แต่งเพลงได้ดีมาก แต่ถ้าเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพจริงๆ และแต่งเพลงเป็นอาชีพ ผู้หญิงยังมีไม่เยอะ”
นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์หญิงคนเก่งบอกด้วยว่า โอกาสที่ผู้หญิงจะเข้ามาทำงานตรงนี้ได้ค่อนข้างเป็นเรื่องยากในอดีต “เอาจริงๆ เรื่องการทำงานไม่ได้เกี่ยวกับเพศเลย แต่ก็เคยมีคนพูดว่าผู้หญิงทำงานตรงนี้จะลำบาก ผู้หญิงจะคิดมาก ผู้หญิงจะทำไม่ไหว สำหรับแอ้มรู้สึกว่าไม่เกี่ยวเลย เพราะการที่เราเป็นผู้หญิง เราคิดละเอียดอาจจะดีก็ได้ อาจทำให้งานที่ออกมามีความลึกซึ้งกว่าก็ได้ ดังนั้นการพิสูจน์ด้วยผลงานน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” แอ้ม-อัจฉริยา กล่าว
อย่างไรก็ดี วันนี้ “แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์” ยอมรับว่าสังคมได้เปิดกว้างให้กับผู้หญิงมากขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นในอาชีพ ใดๆ ก็เห็นมีผู้หญิงเข้าไปทำมากขึ้น แต่อาจจะยังมีนิดๆ หน่อยๆ ที่ยังรู้สึกว่าถ้าต้องเอาผู้หญิงไปแข่งกับผู้ชาย หรือปะทะกัน เราก็อาจเสียเปรียบนิดหน่อย ซึ่งก็จะเป็นในหลายๆ วงการ แต่ก็ยังรู้สึกขอบคุณที่สังคมเปิดโอกาสให้กับผู้หญิงมากขึ้นในวันนี้” เรียกว่าเป็นอีกเสียงของผู้หญิงที่สะท้อนให้เห็นว่าวันนี้สังคมในประเทศไทย มีการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในทุกๆ ด้านของสังคมอย่างจริงจัง