“ฟิล์ม – ธนภัทร” ทั้งงานทั้งชีวิตส่วนตัว…ทุ่มสุดแรงใส่หมดใจ

0
1988
จะบทบาทในชีวิตจริงหรือจะบทบาทในละคร ไม่ว่าจะบทบาทไหน ฟิล์ม – ธนภัทร กาวิละ พระเอกหนุ่มเจ้าบทบาทคนนี้ก็พร้อมที่จะทุ่มสุดตัวจัดเต็มในทุกงาน จะเห็นได้จากทุกๆ ผลงานที่ผ่านมา อาทิ เรือนเบญจพิษ, เมีย 2018 รักเลือกได้, หน้ากากแก้ว, ภูตพิศวาส, รักแลกภพ, ฟ้าเพียงดิน, คุณชาย และล่าสุดกับการแสดงเรื่องรักนี้ต้องเจียระไน ที่พลิกคาแรคเตอร์ใส่สุดสวมบทบาทดีไซน์เนอร์จิวเวอรี่ ผู้ที่หลงใหลความเร็วและชื่นชอบการแข่งรถ จนทำให้คนดูเชื่อสนิทใจว่าตัวละครที่ชื่อ ‘รัตติ’ นั้นมีอยู่จริง ไม่ใช่มีอยู่แค่ในละครเท่านั้น และก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เจ้าตัวรู้สึกรักและผูกพันในตัวละครที่ชื่อ ‘รัตติ’ นี้มากๆ
กับตัวละคร ‘รัตติ’ มีเสน่ห์ มีมิติยังไงบ้างที่น่าสนใจ

เสน่ห์ที่ผมรู้สึกว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่น ‘รัตติ’ เขามีความตรงไปตรงมา ถึงจะดูเป็นคนแข็งกระด้างแต่ก็เป็นคนอบอุ่น

ฟิล์มคิดว่าเหมือนหรือต่างจากตัวละครตัวอื่นที่เคยแสดงไหม

สำหรับผมคิดว่า ไม่เหมือนครับ รัตติมีความอบอุ่นอยู่ในหัวใจของเขา แล้วเขาก็มีหนวดครับ (มีหนวด?) อ้าว! ละครเรื่องอื่นผมไม่เคยไว้หนวดเลย นี่ก็เป็นความพิเศษอีกหนึ่งอย่าง เป็นหนวดจริงๆ ที่ผมต้องไว้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเลย ผมเลยรู้สึกว่าจะเป็นอีกผลงานหนึ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นความแปลกใหม่ของผมในละครด้วย แล้วก็อย่างที่ผมบอกไป รัตติเขาเหมือนเป็นคนที่ย้องแย้งในตัวเอง การเป็นดีไซน์เนอร์จะเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อน แต่เขาเป็นคนชอบความดิบ อย่างเช่น ความเร็ว ชอบการแข่งรถ อารมณ์พุ่งพล่าน อารมณ์เป็นเส้นตรง แต่ความเป็นดีไซน์เนอร์จะมีงานศิลปะถ้าเป็นลายเส้นคงเป็นเส้นที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เป็นเส้นที่คดงอวนไปวนมาที่ใช้อะไรหลายๆ อย่าง เช่น จะใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ แต่ในส่วนของความเร็วที่เป็นตัวรัตติ การที่เป็นแบบพุ่งไปข้างหน้า เป็นเส้นตรงที่มีอยู่ในคนๆ เดียวกัน

คาแรคเตอร์ของรัตติ มีความซ้ำกับคาแรคเตอร์ของตัวละครจากเรื่องก่อนๆ ที่เราเคยเล่นมั้ย

ถามว่ามีไหม มีอยู่แล้วครับ เพราะพลอตเรื่องไม่ได้หนีกันสักเท่าไหร่ แค่เปลี่ยนเส้นเรื่อง เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนอาชีพ แต่ความที่เขาพิเศษ ผมขอไม่ใช้คำว่า ‘พิเศษ’ เพราะผมรู้สึกว่าตัวละครอื่นๆ ที่ผมเล่นมาก็มีความพิเศษ ขอใช้คำว่า ‘แตกต่าง’ ละกัน คือการที่เราต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น ทำการบ้านในส่วนของคาแรคเตอร์ของตัวละคร คือ เราต้องรู้จักเขามากขึ้น รู้จักเขาลึกขึ้น เพื่อให้พลอตเรื่องที่มันไม่ได้ต่างจากเรื่องอื่นๆ สักเท่าไหร่ มันแตกต่างในความรู้สึกของคนดูให้ได้เท่านั้นเอง

จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่คนดูยังไม่เคยเห็นบ้าง

สำหรับในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ผมละเอียดอ่อนกับมันมากขึ้น ลึกขึ้น (ลึกระดับไหน?) ลึกระดับไหนผมตอบไม่ได้ แต่แค่รู้สึกว่ามันลึกขึ้นมันละเอียดอ่อนขึ้น

ความผูกพันกับตัวละคร

ทุกตัวละครที่ผมแสดง ผมผูกพันอยู่แล้วครับ ผมมีความรักกับตัวละครที่ผมเล่นทุกตัวอยู่แล้ว

สกิลด้านการแสดงที่เราได้เพิ่มจากการแสดงเรื่องนี้

ก็เป็นความละเอียดอ่อนเหมือนเดิม ผมรู้สึกว่า ความละเอียดอ่อน ความละเมียดละไมที่เราละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกในขณะที่กำลังเล่นอยู่

ด้วยคอนเซปท์คาแรคเตอร์ของตัวละครรัตติที่ว่า work hard play harder มันมีความเชื่อมโยงมาที่ตัวฟิล์มอย่างไร

มีนะครับ ผมเป็นคนทำงานหนักนะ แต่เวลาผมเที่ยวผมก็สุด (สุดขนาดไหน?) ถ้าให้ผมพูดเวลางานผมทำงานหนัก เวลาปาร์ตี้ผมหนักกว่า แต่เวลาทำงานก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกัน พอถึงเวลาพักไปเที่ยวผมก็จัดเต็มเหมือนกัน เวลาใช้เงินก็เต็มที่เหมือนกัน

แล้วถ้าความเป็นรัตติ มีความเต็มที่อย่างไรบ้าง

รัตติก็จะเต็มที่ในแบบของเขา เต็มที่ในที่นี้คือ เต็มที่ในงานอดิเรกของเขา การที่ชอบแข่งรถ เขาชอบความเร็วเขาก็ทำเต็มที่ และทำได้ดีด้วย ในส่วนของความรักเขาก็เต็มที่

การกลับมาเล่นละครคู่กับใบเฟิร์นอีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง

ด้วยแนวละครไม่ได้ต่างจากเรื่องอื่นๆ มาก แต่มีความต่างในบริบทของตัวละครมากกว่า และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สี่ที่ได้เล่นด้วยกัน

บรรยากาศในกองถ่ายเป็นอย่างไร

สนุกดีครับ ชิวดี ไม่ต้องซิงค์อะไรเยอะ ไม่ต้องพูดคุยอะไรกันเยอะ หมายถึงไม่ต้องมานั่งทำความรู้จักกัน มาถึงคือใส่เลย ส่วนเรื่องนอกบทก็มีบ้าง อย่างเวลาที่เล่นไปแล้วบางอย่างที่ในบทไม่มี เราก็มีใส่เติมเข้าไปในพาสที่เรารู้สึกว่า ณ โมเมนต์นั้นเราเล่นแล้วเรารู้สึกแบบนั้น เราอยากจะทำแบบนี้เราก็ทำ

เหมือนความกดดันในเรื่องเวลาที่เราแสดงก็ไม่มี

มีแค่เรื่องการถ่ายทำที่ยากลำบากมากกว่า อย่าง ฉากแอ็คชั่น ฉากขับรถ เวลาและการทำงานที่หนัก เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมพูดได้เลยว่า ถ่ายหนักที่สุดในชีวิตของผมเหมือนกัน

ความกดดันที่เรามีไม่ใช่กับใบเฟิร์นนะ แต่ความกดดันต่อแฟนคลับที่เขาจับเราจิ้นกับแจมมีมั้ย

ผมไม่รู้สึกกดดันนะ เพราะผมไม่ได้คิด ผมรู้สึกว่าทำไมต้องคิด ไม่รู้ว่าคิดไปแล้วได้อะไร มันคือผลงานของเรา เราเป็นนักแสดง เรามีหน้าที่ถ่ายทอดตัวละคร เราก็แค่ทำงานของเราให้เต็มที่ ไม่อย่างนั้นก็จะมีแต่เดี๋ยวคนนั้น เดี๋ยวอย่างนี้ ก็จะไม่มีงานอื่นเลยแล้วอีกอย่างหนึ่งคือ เราจะไม่มีความสุขในชีวิตสำหรับตัวเราด้วย ผมคิดแบบนั้นนะ

ในช่วงที่ต้องถ่ายงานติดๆกันหลายเรื่องเรามีวิธีเอาตัวเองออกมาจากตัวละครที่เราเล่นยังไง

ดูการ์ตูนครับ ดูเยอะมากมีหลายเรื่องเลยที่ผมดู ช่วงนั้นผมจำไม่ได้ว่าดูเรื่องอะไร แต่ว่าตอนนี้ดูหลายเรื่องมาก Demon Slayer , Dr.Stone , Gundam, Hunter x Hunter หรือแม้แต่ Attack on Titan ยิ่งถ้าช่วงไหนมีเวลาเยอะก็จะนั่งอยู่แต่หน้าทีวีนั่งดูไป แต่ถ้าช่วงไหนไม่มีเวลาก็จะดูอาทิตย์ละวีค

ช่วงที่ผ่านมามีแฟนมีตเดี่ยว แฟนมีตคู่ในประเทศไปเรียบร้อยแล้ว

ใช่ครับ แต่แฟนๆ ต่างประเทศเตรียมตัวเลยเดี๋ยวจะมีไปจัดแฟนมีตที่ต่างประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้แน่นอน รอติดตามได้เลยครับ

ภายในครึ่งปีหลังฟิล์มจะมีเห็นผลงานอะไรออกมาอีกบ้าง

นอกจากซีรีส์ที่เล่นเรื่องนี้ ก็จะมีซีรีส์ที่เล่นกับแจมเรื่อง Laws of Attraction มีผลงานละครเรื่องอื่นอีกด้วย และกำลังเตรียมตัวกับแฟนมีตที่ต่างประเทศที่จะได้เจอกันอย่างแน่นอนในโซนเอเชียครับ ไปหลายประเทศมาก ก็เจอกันแน่นอน

ถามถึงเรื่องการทำงานในวงการบันเทิง สร้างความสุขให้ตัวฟิล์มอย่างไรบ้าง

หนึ่งเลยคือผมได้เล่นละคร ละครคือชีวิตผม คือความสุขของผม สองคือผมมีความสุขเวลาที่ผมได้สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ให้แฟนละครได้ยิ้ม ยิ้มผ่านตัวอักษรในโซเชียลต่างๆ ที่เราได้อ่านหรือเวลามาเจอกันแล้วเราได้เห็นรอยยิ้มของเขา มันทำให้ผมมีความสุข

แล้วถ้าเป็นตัวฟิล์มเอง ณ วันนี้ความสุขของฟิล์มคืออะไร

นอกจากการแสดงหรอครับ ความสุขของผมหาได้ง่ายมาก ทุกวันนี้คือ กินนอนเที่ยวทำงาน แฮปปี้ แค่นี้ชีวิตไม่มีอะไรเลย แฮปปี้ แต่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีความสุขมากกว่าเมื่อก่อน

ถ้าวัดค่าความสุขเป็นตัวเลข

เมื่อก่อนก็สัก 4-5 มั้งครับ เพราะผมเอาความสุขไปผูกติดกับหลายๆ อย่าง ตอนนี้ก็สัก 7-8 สำหรับผมเต็ม 10 พอครับ เต็มร้อยก็คงไม่เหลือความสุขแล้ว ชีวิตคนเราจะเศร้าอะไรได้ขนาดนั้น

แล้วมีวิธีไหนที่จะสามารถมาเติมให้เต็มสิบ

ถ้าชีวิตเต็มสิบของผมคือ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ มีอิสรภาพในชีวิต ใช้ชีวิตในแบบของผมคือการที่เราไปไหนก็ได้บนโลก ทำอะไรก็ได้บนโลก เมื่อไหร่ก็ได้บนโลกแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน นั่นแหล่ะชีวิตที่เต็มสิบของผม ผมไม่รู้ว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าผมทำแบบนั้นได้คงจะดี คิดว่าก็คงเต็มสิบแล้วความสุข เพราะเราได้ตัดความกังวลในหลายๆ อย่างออกไป

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.