นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “AIS มีความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล ให้เกิดการพัฒนา และเติบโตร่วมกัน เราได้ดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำหลักเกณฑ์การประเมินองค์กรของ DJSI มาเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนการดำเนินงานองค์กรในด้าน คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียกับองค์กรอย่างรอบด้าน ผ่านการสร้างสินค้าและบริการด้านดิจิทัล ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมศักยภาพของธุรกิจให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สามารถนำไปใช้ได้ จนเกิดผลลัพธ์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง สอดคล้องกับบริบทของสังคม จนได้รับการจัดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ทั้งใน กลุ่มดัชนีโลก และดัชนีตลาดเกิดใหม่ (DJSI World and Emerging Markets Indices)
ในปีที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรกว่า 80 ราย ในด้านต่างๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ เราได้สร้างสินค้าและบริการผ่านนวัตกรรมด้านดิจิทัล และโครงข่าย AIS 5G เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และเสริมศักยภาพของภาคธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาระบบการป้องกันภัยไซเบอร์ และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้มีมาตรฐานที่เชื่อถือได้
ด้านสังคม AIS ได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างพนักงานให้มีความพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง รองรับการขยายตัวของธุรกิจ ในบริบทของ Digital Disruption ภายใต้แนวคิด “FIT FUN FAIR” อันเป็นวัฒนธรรมองค์กร ที่สร้างความหลากหลายทางความคิด สนับสนุุนให้พนักงานพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่่อตอบรับความท้าทายทางธุุรกิจ และสร้างเป้าหมายการทำงานร่วมกัน อีกทั้ง มุ่งสร้างคุณภาพความเป็นอยู่ให้กับสังคมไทย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย และเหมาะสมให้แก่คนไทย
ด้านสิ่งแวดล้อม มีโครงการหลัก 3 ด้าน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบไปด้วย การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ติดตั้งอุปกรณ์วิทยุสถานีฐาน ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายเทคโนโลยี และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า ขยายระบบ Virtual Machine Sever ช่วยประหยัดพลังงาน สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 75,590 ตันคาร์บอน
เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บริเวณสถานีฐานไปแล้วกว่า 2,747 สถานี และติดตั้งที่ศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และชุมสายรวม 4 แห่ง ทำให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 3,503 ตันคาร์บอน/ปี
การลดปริมาณขยะ โดยชวนลูกค้าให้มีส่วนร่วมกับการช่วยสิ่งแวดล้อม ลดการใช้กระดาษ เปลี่ยนมาใช้ e-bill ซึ่งวันนี้ เรามีผู้ใช้งานแบบ e-bill กว่า 6.7 ล้านราย รวมถึงสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี สร้างจุดทิ้งกว่า 2,400 จุดทั่วประเทศ สามารถรวบรวม E-Waste ได้กว่า 234,463 ชิ้น
“การได้รับเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในกลุ่มดัชนีโลก และดัชนีตลาดเกิดใหม่ หรือ DJSI World Index และ DJSI Emerging Markets Index ในปีนี้ นับเป็นกำลังใจ และยืนยันถึงความตั้งใจในการทำงานของชาว AIS ที่ร่วมกันสร้างการเติบโตและความแข็งแรง ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เพื่อคนไทยอย่างยั่งยืน” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย
สั่งจองนิตยสาร Howe ฉบับที่ 103 โดยไม่ต้องรอหาตามแผงได้ที่