หากมองหาของขวัญแทนใจมอบให้กับคนรักในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้ แน่นอนว่าเรือนเวลาดีไซน์โดดเด่นมาพร้อมกับมาตรฐานการผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่สามารถมอบเป็นของขวัญที่มีคุณค่าแทนใจของกันและกันได้เป็นอย่างดี ล่าสุด “มิโด” (MIDO) ได้แนะนำคู่เรือนเวลาดีไซน์โดดเด่น ได้แก่ คอลเลกชั่นนาฬิกาดำน้ำดีไซน์สปอร์ตทั้ง “โอเชี่ยน สตาร์ 200” (Ocean Star 200) และ “โอเชี่ยน สตาร์ 36.5” (Ocean Star 36.5) ถัดมาที่คู่คอลเลกชั่นนาฬิกาแบบเปลือยที่เผยให้เห็นถึงกลไกอันน่าทึ่งทั้ง “มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก” (Multifort Skeleton Vertigo) และ “เรนฟลาวเวอร์ บลอสซั่ม” (Rainflower Blossom) ปิดท้ายที่คู่คอลเลกชั่นเรือนเวลาสุดคลาสสิกอย่าง “คอมมานเดอร์ บลู เฉด” (Commander Blue Shade) และ “คอมมานเดอร์ พิงค์ เฉด” (Commander Pink Shade) ที่เหล่าหนุ่มสาวสามารถเลือกสรรมอบเป็นของขวัญแทนใจ สวมใส่คู่กัน ช่วยเติมเต็มบรรยากาศแห่งความรัก สร้างความสุขและความประทับใจในช่วงวันวาเลนไทน์นี้ได้อย่างไม่รู้ลืม
“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Ocean-Star-200-Ocean-Star-36.5-2.jpg)
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Ocean-Star-200-Ocean-Star-36.5-3.jpg)
สำหรับคอลเลกชั่นที่ทาง “มิโด” (MIDO) ได้เลือกจับคู่สำหรับช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์มีดังนี้ เริ่มที่คอลเลกชั่น “โอเชี่ยน สตาร์ 200” (Ocean Star 200) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตเหมาะกับคนรักกิจกรรมดำน้ำ มาในขนาดหน้าปัด 42.5 มิลลิเมตร ด้านบริเวณขอบตัวเรือนและขอบเบเซิลผลิตจากสแตนเลสสตีลพร้อมเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ มีขีดบอกเวลาเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยมองเห็นในที่มืดหรือขณะดำน้ำ พร้อมเข็มนาฬิกาแบบโปร่งตรง 2 ตำแหน่งเวลา ได้แก่ 6 และ 12 นาฬิกา ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านเวลาเมื่ออยู่ใต้น้ำ นาฬิกาดำน้ำเรือนนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำลึกได้สูงสุดที่ 20 บาร์ หรือ 200 เมตร นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง จับคู่กับคอลเลกชั่น “โอเชี่ยน สตาร์ 36.5” (Ocean Star 36.5) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาด 36.5 มิลลิเมตร โอบรับกับทุกข้อมือหญิงสาวได้อย่างเหมาะสม นับเป็นครั้งแรกที่มิโดได้สร้างสรรค์เรือนเวลาดำน้ำที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกานักดำน้ำยุค 1960s ในเวอร์ชั่นสำหรับผู้หญิง ที่เป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำในดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความสวยงามที่ประณีตด้วยเฉดสีแห่งความสวยงามของกรอบตัวเรือน PVD เคลือบสีโรสโกลด์ พร้อมประดับตกแต่งด้วยเพชรเพิ่มความโก้หรู ครอบทับหน้าปัดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์สไตล์แบบ กลาสบ็อกซ์ (Glassbox) ชวนนึกถึงลูกแก้วอันน่าหลงใหลแห่งยุค 60 ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และกันน้ำลึกได้ถึง 20 บาร์ หรือ 200 เมตร
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Multifort-Skeleton-Vertigo-Rainflower-Blossom-1.jpg)
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Multifort-Skeleton-Vertigo-Rainflower-Blossom-2.jpg)
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Multifort-Skeleton-Vertigo-Rainflower-Blossom-3.jpg)
ต่อมาที่คู่คอลเลกชั่น “มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก” (Multifort Skeleton Vertigo) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ ขนาด 42 มิลลิเมตร ที่สามารถเผยตัวตนอันโดดเด่นผ่านรายละเอียดโครงสร้างและกลไกสุดประณีต โดยสามารถมองเห็นชัดบนหน้าปัด ด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge) ถ่ายทอดสู่แถบลายเส้นเจนีวาสีดำแอนทราไซต์สุดโดดเด่นตัดกับเข็มนาฬิกาและหมุดบอกเวลาได้อย่างงดงาม ด้านตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ด้วยคุณสมบัติทนทานเป็นพิเศษ มาพร้อมกับบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก พร้อมการสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง และคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร จับคู่กับคอลเลกชั่น “เรนฟลาวเวอร์ บลอสซั่ม” (Rainflower Blossom) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาดหน้าปัด 34 มิลลิเมตร ที่นับเป็นครั้งแรกสำหรับมิโด (MIDO) ที่ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาแบบเปลือยเผยให้เห็นโครงสร้างและกลไกของตัวเรือนบนนาฬิกาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ คอลเลกชั่นนี้พร้อมนำเสนอความกล้าหาญที่มีเส้นสายอันละเอียดอ่อน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมรูปทรงดอกบัวจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ (ArtScience Museum) ประเทศสิงคโปร์ โดยกลีบดอกบัวที่สะท้อนความอ่อนช้อยของผู้หญิง ที่แม้จะอ่อนโยนแต่เด็ดเดี่ยว ถ่ายทอดสู่ลวดลายดอกไม้ฉลุลายประดับบริเวณกลางหน้าปัดในโทนสีขาวไข่มุก พร้อมเผยโชว์ตัวเครื่องคาลิเบอร์ 80 (Calibre 80) ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุด ที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมความสามารถกันน้ำได้ที่ 3 บาร์ หรือ 30 เมตร
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Commander-Blue-Shade-Commander-Pink-Shade-1.jpg)
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Commander-Blue-Shade-Commander-Pink-Shade-2.jpg)
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2024/02/MIDO-Commander-Blue-Shade-Commander-Pink-Shade-3.jpg)
ปิดท้ายที่คู่คอลเลกชั่น “คอมมานเดอร์ บลู เฉด” (Commander Blue Shade) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ มาในขนาดตัวเรือน 37 มิลลิเมตร ที่มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของตัวเรือนทรงกลมคลาสสิกมาพร้อมกับหน้าปัดเฉดสีน้ำเงินไล่สีจนเป็นสีดำสนิทบริเวณขอบ ช่วยดึงดูดทุกสายตาให้ชวนหลงใหลในความสง่างาม ด้วยสไตล์การออกแบบย้อนยุคและมีกลิ่นอายดั้งเดิม อย่างตัวเรือนแบบโมโนค็อก (Monocoque case) เชื่อมตัวเรือนกับฝาหลังเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ เข้าคู่กับสายนาฬิกาถักแบบตาข่ายให้ความรู้สึกที่หรูหรา โดยตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ให้ความแม่นยำ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร จับคู่กับคอลเลกชั่น “คอมมานเดอร์ พิงค์ เฉด” (Commander Pink Shade) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาด 37 มิลลิเมมตร ตัวเรือนทรงกลมสุดคลาสสิกแบบโมโนค็อก (Monocoque case) ที่เชื่อมตัวเรือนกับฝาหลังเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ มาพร้อมกับหน้าปัดทูโทนที่ไล่เฉดสีเงินไปจนเป็นสีน้ำตาลเทาสุดโดดเด่น เข้ากับตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลพร้อม PVD เคลือบสีโรสโกลด์ได้อย่างงดงาม ด้านตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ให้ความแม่นยำและการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร
นอกจากนี้ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะนำเคล็ดการเลือกซื้อนาฬิกามอบเป็นของขวัญแทนใจกันและกันในช่วงวาเลนไทน์นี้เริ่มจาก เลือกจากสไตล์นาฬิกาให้เข้ากับกับการแต่งตัวและบุคลิกของคนรัก เช่น หากชอบแต่งตัวแนวคลาสสิก ควรเลือกนาฬิกาสไตล์คลาสสิกตัวเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดวงกลมแมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย หรือหากชอบแนวสปอร์ต ควรเลือกนาฬิกาสไตล์สปอร์ต มีฟังกชั่นการทำงานที่เพิ่มมาในตัวเรือนเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ต่อมาอาจจะเลือกจากขนาดที่รับกับข้อมือของคนรัก เพราะเรือนเวลาที่มีขนาดพอดีกับข้อมือจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความมั่นใจขณะสวมใส่ได้ด้วย ถัดมาสามารถเลือกเรือนเวลาจากวัสดุ โดยเลือกวัสดุที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรัก เช่น หากคนรักอยู่ในวัยทำงาน แน่นอนว่า ลุคที่มีความภูมิฐานจะช่วยเพื่มความน่าเชื่อถือได้ ควรเลือกนาฬิกาที่ทำจากวัสดุที่ทนทานและดูแลรักษาง่าย อย่างนาฬิกาที่มีตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีลก็ดูเหมาะสม แมทช์กับเสื้อผ้าวันทำงานเสริมลุคได้อย่างมั่นใจ หรือหากคนรักชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกนาฬิกาที่ทำจากวัสดุที่กันน้ำและกันกระแทกได้ดี และเลือกที่มีฟังก์ชัน อย่างการจับเวลา เพื่อช่วยทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การเลือกแบรนด์นาฬิกาก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ควรเลือกจากแบรนด์นาฬิกาที่ผลิตและได้รับมาตรฐานจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็จะการันตีถึงกลไกตัวเรือนและความเที่ยงตรงแม่นยำ ช่วยเพิ่มความมั่นใจยามสวมใส่ได้