ถือเป็นผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังวงการบันเทิงในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นที่ยอมรับของคนในแวดวงอุตสาหกรรมความบันเทิง ที่วันนี้ไม่เพียงสร้างคอนเทนต์ที่ตอบรับ กับผู้คนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังนำเข้า คอนเทนต์ดีๆ จากต่างประเทศ มาให้คนไทยได้ชมกันอีกด้วย
“จีน่า-จินา โอสถศิลป์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด (GDH) เล่าถึงหน้าที่ของเธอ ซึ่งนอกจากการบริหารงานในบริษัทแล้ว ยังต้องบริหารจัดการเพื่อให้บริษัทเติบโตไปข้างหน้า “เติบโตดีขึ้น ไกลขึ้น มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และเราก็อยากให้คอนเทนต์ของเราดีที่สุด และยกระดับไปให้ไกล ไปถึงระดับสากลและทั่วโลก เป็นอีกความตั้งใจของเรา”
“GDH ของเรามีความหมายมาจาก Gross Domestic Happiness ที่แปลว่าความสุขมวลรวมประชาชาติ ซึ่งต้องเริ่มจากหน่วยเล็กๆ อย่างครอบครัว ก่อน สำหรับพี่พนักงาน GDH ทุกคนคือคนในครอบครัว เราต้องสร้างความสุขให้พวกเขาก่อน แล้วเขาจะมีพลังในการสร้างสรรค์งานดีๆ ที่จะไปสร้างความสุขให้กับผู้ชมอีกทอดหนึ่ง จะว่าไปแล้ว GDH ของเราก็เปรียบเหมือนเป็นนักกีฬา ที่ไต่ระดับความสามารถจากการแข่งขันภายในประเทศ ไปสู่ระดับซีเกมส์ และจะก้าวไปถึงโอลิมปิกให้ได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องมีการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมของตัวเองให้ดีที่สุด และพร้อมที่จะต่อยอดโอกาสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในธุรกิจของเรา” คุณจีน่ากล่าว
การปรับตัวและต่อยอดพร้อมๆ กับการสร้างโอกาสใหม่ให้เกิดขึ้นในธุรกิจ เป็นอีกสิ่งที่ GDH ตั้งใจพัฒนาธุรกิจบันเทิงของตัวเองให้เดินหน้าต่อไป “การหา Content ที่สดใหม่ การหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ชมที่เข้ามาดูภาพยนตร์ในโรงฯ เป็นสิ่งที่เราพยายามอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นเมื่อปีก่อน เราได้ร่วมกับ Kubix หรือ ICO Portal ที่เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขาย Digital Token ออก Destiny Token โดยให้ผู้ชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส 2 ได้มีโอกาสเข้ามาเป็น ผู้ร่วมลงทุน และได้รับผลตอบแทนจากการที่มาชมภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจมากไปกว่าการเป็นแค่ผู้ผลิตภาพยนตร์” โดย GDH ถือเป็นธุรกิจภาพยนตร์ไทยรายแรกที่ออก Digital Token ซึ่งเรียกว่าได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากทั้งผู้ชม และชื่อเสียงของบริษัทได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในสายของนักการเงินการธนาคารอีกด้วย
สำหรับความเป็นผู้หญิงมีความท้าทายอย่างไรบ้างกับธุรกิจในวงการบันเทิง ซึ่งคุณจีน่าบอกว่า ปัจจุบันความเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายในสังคมที่เธอมองว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี มีการยอมรับในเรื่องของความเสมอภาคกันมากขึ้น “หากมองไปที่ภาพใหญ่ในระดับโลก วันนี้หลายประเทศให้การยอมรับผู้หญิงในการขึ้นมาเป็นผู้นำมากขึ้น ทำให้เราเห็นนายกรัฐมนตรีหญิงเกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ เช่นเดียวกับองค์กรและบริษัทต่างๆ ก็มีผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรมากขึ้น ด้วยอายุที่น้อยลงเรื่อยๆ ทำให้เรามองว่าเรื่องของเพศไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไปในวันนี้”
เช่นเดียวกับความโดดเด่นของผู้หญิงในฐานะผู้นำ “ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความช่างสังเกต มีความละเอียดอ่อน มีความอ่อนโยน แต่ไม่ได้อ่อนแอ และผู้หญิงยังเป็นเพศที่มีความอดทนสูงมากอีกด้วย” คุณจีน่ายังบอกอีกด้วยว่า “ถ้ามองในแง่ของมุมความคิด ผู้หญิงเป็นเพศที่คิดบวกค่อนข้างเยอะ คนอาจจะคิดว่าผู้หญิงมักมีมุมโลกสวย มองอะไรก็สวยงามไปหมด แต่ที่จริงแล้วเราเห็นทุกด้าน เพียงแต่เราพยายามโฟกัสในด้านดี เพื่อสร้างกำลังใจ และเป็นพลังบวกให้เราขับเคลื่อนทุกสิ่งต่อไปได้ ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นในตัวของผู้หญิงก็ว่าได้”
แต่หากคุณสมบัติและความสามารถในการเป็นผู้นำของผู้หญิงที่กล่าวไปข้างต้นยังไม่เพียงพอ คุณจีน่า-จินา โอสถศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ความสามารถพิเศษอีกอย่างของผู้หญิงคือ ความเข้าอกเข้าใจผู้คน เพราะผู้หญิงจะมองลึกลงไปในรายละเอียดได้ดี ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ผู้นำควรมี ผู้หญิงที่เป็นผู้บริหารมักมี People Skills ที่ดี เพราะการเป็นผู้นำจะต้องให้ความสำคัญกับการบริหารคนด้วย ยิ่งในองค์กรที่มีคนเก่งมารวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก เรายิ่งต้องเรียนรู้ที่จะบริหารความเก่งของคนเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแบบที่ลงตัวที่สุด เพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ โดยที่คนทำงานทุกคนยังรู้สึกภูมิใจ และมีความสุขในการทำงานของตัวเอง”