แม้ต้องผ่านช่วงเวลาหนักๆ มาก็หลายครั้ง แต่เขาก็สามารถฟันฝ่ามาได้ถึงวันนี้ ถือเป็นความท้าทายที่ผู้บริหารและพิธีกรชื่อดังของประเทศไทยอย่าง “คุณตา-ปัญญา นิรันดร์กุล” ไม่เพียงแค่เอาชนะ แต่ยังเรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มพลังแห่งการต่อยอดไอเดีย ที่จะมาสร้างความแปลกใหม่ในการทำงานให้เกิดขึ้นต่อไป
คุณปัญญา นิรันดร์กุล ประธานบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงความท้าทายในการเป็นผู้บริหาร โดยเฉพาะในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วว่า “ความสำเร็จจริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วยเหมือนกัน อย่างแต่ก่อนถ้าพูดถึงปัญญาที่มาจากการไม่มีอะไรเลย ไม่มีกระทั่งทีวีจะดู จนถึงเรามีทีวี และกระโดดเข้ามาทำรายการได้อย่างไร มีคนมาร่วมงานได้อย่างไร หรือแม้แต่มาเป็นสถานีโทรทัศน์ได้อย่างไร ตรงนี้จะเรียกความสำเร็จหรือไม่ บางทีอาจบอกว่ามีความสำเร็จ และพอสำเร็จแล้วก็ต้องสำเร็จเพิ่มไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นการ จะบอกว่าเราประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราประสบความสำเร็จในช่วงเวลาใดมากกว่า”
ส่วนจะมีความสุขกับสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จหรือไม่นั้น พิธีกรชื่อดังกล่าวว่า หากจะให้นิยามความสำเร็จแล้ว เขาเรียกว่าประสบความสำเร็จมาโดยตลอด “อย่างเราเป็นประเภทรายการทีวี ก็จะมีรายการออกอากาศตลอด ความสำเร็จมีมาตลอด เราจะวัดเป็นความสำเร็จได้อย่างไร นั่นก็หมายความว่าสิ่งที่เราทำนั้นบางรายการก็ดีเหลือเกิน แต่เรตติ้งกลับไม่ดี ตรงนี้ ในส่วนของเวิร์คพอยท์แล้วถือว่าเป็นความสำเร็จ ส่วนเรตติ้งไม่ดีก็อาจเพราะไม่ได้รับความนิยม ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้หลายๆ อย่าง”
การวัดผลความสำเร็จสำหรับตัวของคุณปัญญาเองนั้น ส่วนใหญ่จะมองเป็นภาพรวม “เช่นว่ามนุษย์ทุกคนต้องมีการเติบโต มีสิ่งต่างๆ ที่งอกเงยขึ้น ต้นไม้ก็ใหญ่ขึ้น มีเหตุอะไรต่างๆ ที่เข้ามาส่งผลกระทบ เช่น แมลงก็อาจทำให้ต้นไม้ต้องเจอโรค ก็ต้องคอยดูแลกันไป เช่นเดียวกับบริษัทก็ต้องมีตรงนั้นตรงนี้เข้ามา พอเราดูภาพรวมแล้วยังไปได้ ทุนก็ยังมีอยู่ สรรพกำลังก็ยังมี ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องเป็นรายละเอียดที่เราจะเข้าไปหารือและปรึกษากัน ก่อนจะไปถึงเรื่องราวของเวิร์คพอยท์ว่าจะทำงานกันอย่างไรต่อไป แล้วมาประเมินภาพรวมอีกครั้ง บางทีเราดูไปดูมาก็จะเห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากไม่ใช่ก็ต้องกลับมามองกันใหม่ให้ดีๆ เพราะในเรื่องๆ หนึ่งอาจมีข้อมูลหลายอย่างซ้อนกันอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะมองในแง่ไหน แต่เชื่อว่าทุกอย่างมีประโยชน์ทั้งหมด อย่าให้กำลังและพลังหายไปจากตัวของเรา หยุดพักได้แต่ว่าคุณจะต้องมีพลัง พลังอาจจะมาจากตัวเองบ้าง มาจากการปรึกษาหารืออะไรต่างๆ บ้าง”
ในส่วนของการวางเป้าหมายความสำเร็จ คุณปัญญาบอกว่าเขาไม่มีการวางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน “เวลามีใครถามคำถามนี้ก็จะตอบไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่เราต้องเฝ้าระวังหากที่จะต้องมี สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งยุคนี้ก็จะเป็นเรื่องของออนไลน์ ออนแอร์ ออนกาวน์ ฯลฯ เราต้องเฝ้าระวังตลอดว่าตกลงจะเป็นอย่างไร แม้ว่าผลสรุปจะไปจบที่ตรงไหนไม่รู้ แต่ว่าเราต้องไม่ประมาท ฉะนั้นตอนนี้เราก็มีสถานี ซึ่งมูลค่าของความเป็นสถานีแต่ละรายการก็ยังสูงอยู่ แต่แน่นอนอย่างในเฟซบุ๊ก ในยูทูป ก็มีคนสนใจมาก และตอนนี้เรามียูทูปของตัวเอง มีเฟซบุ๊กของตัวเอง รวมไปถึงติ๊กต็อก ซึ่งยูทูปของเราวันนี้มีผู้ติดตามสูงสุด 39.5 ล้านฟอลโลเวอร์ ส่วนเฟซบุ๊กก็มียอดติดตามสูงสุดถึง 14 ล้านคน เมื่อเทียบกับสถานีอื่นๆ”
กระนั้นก็ตาม ความสำเร็จและสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานั้น ไม่ใช่แค่การทำงานหนักของทุกคนใน “เวิร์คพอยท์” เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของแนวคิดและหลักการทำงานด้วย ซึ่งประธานบริษัท เวิร์คพอยท์ฯ กล่าวว่า “เราต้องทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด เราอาจจะรู้เรื่องราวต่างๆ ไม่ได้หลายเรื่อง แต่เราเอาความเชี่ยวชาญของเรา เอาความชำนาญของเรา เอาความรักของเรามาเป็นอาชีพ สิ่งที่เรารักคืออาชีพของเรา เราก็ทำไป แล้วเราก็ไปรวมคนที่รักเหมือนกันจนกลายมาเป็นบริษัทใหญ่ แล้วบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็กก็เอามาเทียบกันไม่ได้ บางคนบริษัทเล็กคนไม่เยอะแต่รักเหมือนกัน และรวยกว่าบริษัทใหญ่ก็มีเยอะ เช่นเดียวกับคำว่า ‘มั่นใจในตัวเอง’ ไม่ได้แปลว่าจะต้องทะนงตัว แต่ความมั่นใจคือเชื่อมั่น สนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงนี้ อย่าไปเอาความท้อแท้เข้ามา เราผิดหวังได้ เราทุกข์ยากได้ แต่ต้องมองว่าสิ่งเหล่านั้นกำลังสอนอะไรเราอยู่ เดี๋ยวนี้เด็กเก่งๆ เยอะมาก เด็กหลายๆ คนก็สอนเราอยู่เหมือนกัน”
“ส่วนเรื่องของอนาคตจะได้เห็น ‘เวิร์คพอยท์’ เติบโตไปในทิศทางไหนนั้น เราก็หวังว่าจะได้เติบโตคู่ไปกับคนดูที่คอยเป็นกำลังใจให้กันเรื่อยมา แต่ส่วนของรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ตรงนี้ไม่รู้ เพราะเดี๋ยวนี้สิ่งต่างๆ ที่เป็นรายการอาจจะห่อไปกับสิ่งที่เป็นโบราณก็ได้ หรือจะเป็นไฮเทคร่วมด้วยก็ได้ เช่นเดียวกับประเภทรายการจะเป็นอย่างไรก็มาร่วมสร้างกัน ซึ่งคุณผู้ชมก็ต้องเป็นพวกเดียวกับผมด้วย เพราะว่าคุณกำลังร่วมสร้างกับผมอยู่ คุณอยากดูอะไรก็จะตีกลับมาที่เวิร์คพอยท์ แล้วเวิร์คพอยท์อยากจะทำอะไรก็ต้องตีกลับไปที่ผู้ดู แบบนี้ถึงจะจูนกันได้ เมื่อเจอกันก็พบกัน”
คุณปัญญาบอกด้วยว่า “เราพยายามที่จะเหนื่อยค้นหา หรือเรียกว่าเหนื่อยแบบมีความสุข คำว่าเหนื่อยไม่ใช่ว่าเหนื่อยแล้วหน่าย นักกีฬาทุกคนเหนื่อย ตอนไปฝึกมีเหงื่อออกแต่ได้เหรียญทอง เราก็พร้อมที่จะคว้าเหรียญทองจากความเหนื่อยของเรา กำลังใจจากท่านผู้ชม ถามว่าจะเป็นอย่างไร นั่นแหละที่เราอยากให้มาช่วยกันทำ ทีมงานพร้อม เงินทุนพร้อม บางรายการเรายอมทุ่มเงินแล้วเกิดผิดพลาดก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเราหวังว่าสิ่งนี้คนดูน่าจะชอบเราก็เลยทำ แต่สุดท้ายคนดูบอกว่าฉันไม่ชอบ ไม่สนใจว่าคุณจะใช้เงินเท่าไร เราก็ต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแล้วเราก็ไม่โทษคนดูด้วย ไม่เคยมีครั้งใดที่โทษคนดู คนดูเมื่อฟังแล้วยิ่งต้องมารักปัญญาเยอะๆ รักเวิร์คพอยท์เยอะๆ แล้วก็ส่งกำลังใจมาให้กัน อาจจะมีคำแนะนำต่างๆ ก็จะเป็นภาพที่ไม่ชัดเจนเท่าไรว่าจะเป็นอย่างไร แต่เราก็จะทำ หรือเฝ้าดูที่จะพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ ทั้งทีวี ทั้งออนไลน์ต่างๆ”
