THE GREAT WOMEN LEADERS 2023 “อังคณา ชากีร่า บำรุงสรณ์” ประธานกรรมการ บริษัท REGEN SMART CITY (THAILAND)

0
433

“หมอกี้-อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์” ประธานกรรมการ REGEN SMART CITY ( THAILAND ) Co., Ltd. หญิงสาวมากความสามารถที่ผันตัวเองจากสัตวแพทย์มาสู่การเป็นนักธุรกิจร้อยล้าน แม้ว่าวันนี้เธอจะประสบความสำเร็จ และถือเป็นผู้นำในการทำธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์ป้องกันการระเบิดในอุตสาหกรรมพลังงาน แต่เธอก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง และพร้อมต่อยอดชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่งคง ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำให้ทุกครั้งเมื่อมองเห็นโอกาสก็พร้อมที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ จนวันนี้เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจุดเริ่มต้นกับการวางแผนออกแบบ “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มาช่วยให้คนไทยมีชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีมากยิ่งขึ้น

“ปัจจุบันดิฉันเป็นประธานกรรมการ REGEN Solutions & Distribution Co., Ltd. ผู้นำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทป้องกันการระเบิดในอุตสาหกรรมพลังงาน รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท FK International ผู้นำเข้าอุปกรณ์ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นสำหรับหลุมขุดเจาะน้ำมัน และโปรเจกต์ล่าสุดยังได้นั่งเป็นผู้บริหารที่ REGEN Smart City ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการทำระบบเมืองอัจฉริยะ โดยเป็นการต่อยอดจากนวัตกรรมระบบ IOT (Internet of Things) หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง หมายถึงเครือข่ายรวมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกัน และเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ กับระบบคลาวด์ ตลอดจนระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง ซึ่งบริษัทเราได้ดำเนินธุรกิจอยู่ และได้มีการขยายบริการวางแผน รวมถึงออกแบบสำหรับเมืองอัจฉริยะร่วมกับภาครัฐ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่พัฒนาและเชื่อมโยงระบบต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่ออำนวยความสะดวก ยกระดับคุณภาพชีวิต และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน” “ดิฉันมองว่าเมืองอัจฉริยะไม่ใช่เรื่องไกลตัว การดำเนินการเรื่องนี้จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ส่งเสริมให้มีการติดตั้งระบบเมืองอัจฉริยะ หากเอกชนรวมถึงประชาชนให้ความสำคัญ และมีทัศนคติที่ดีกับโครงการนี้ รวมทั้งให้การสนับสนุนก็จะทำให้ประเทศเราจัดการระบบได้จนมีความทันสมัยเทียบเท่ากับนานาชาติ และประชาชนรวมถึงประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์จากโครงการมากยิ่งขึ้น” “สำหรับโครงการ Smart City จะมี 7 แกนเทคโนโลยีหลักที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนา Smart City ให้ครอบคลุมในทุกด้านของวิถีชีวิตผู้คน ได้แก่ สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) ซึ่งจะมีโซลูชันที่ใช้ตรวจสอบผลกระทบของสภาพภูมิ อากาศในเมือง สามารถติดตามวิเคราะห์และแสดงภาพผลกระทบของสภาพอากาศ, การบริการภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบบริการภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ โดยมุ่งเน้นความโปร่งใส การมีส่วนร่วม และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมบริการ, การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) ซึ่งจะพัฒนาระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนประเทศ โดยเพิ่มประสิทธิภาพและความเชื่อมโยงของระบบขนส่งและการสัญจรที่หลากหลาย เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” “พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เราบริหารจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสมดุลระหว่างการผลิตและการใช้พลังงานในพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดการพึ่งพาพลังงานจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลัก, เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เมืองเกษตรอัจฉริยะ เมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ เป็นต้น เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจในการพัฒนาให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมีสุขภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย อย่างการติดต่อสำนักงานเขต หรือโรงพยาบาลที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และพลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) ซึ่งจะนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ เปิดกว้างความคิดสร้างสรรค์ นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ปัจจุบันโครงการ Smart City ของไทยจะเริ่มต้นจาก Smart Environment ที่เข้ามาดูแลเรื่องค่าฝุ่น PM2.5 บางเมืองก็เริ่มพัฒนาในส่วนของ Smart Governance ทำให้การติดต่อกับหน่วยงานมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

“การที่บริษัทได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการทำโครงการ Smart City ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ เพราะเราอยากช่วยให้ชีวิตประชาชนคนไทยมีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะนวัตกรรมของเราจะช่วยเติมเต็มสิ่งดีๆ เรารู้สึกภูมิใจไม่ใช่แค่ในฐานะผู้ที่สร้างแพลตฟอร์มหรือนวัตกรรมเหล่านี้ขึ้นมา แต่ถือเป็นผู้ที่ช่วยให้สังคม ประเทศชาติ และผู้คนในประเทศได้ยกระดับความปลอดภัย คุณภาพการใช้ชีวิต รวมถึงสิ่งแวดล้อมให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม”

“วันนี้โครงการ Smart City อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเริ่มดำเนินการในไม่กี่จังหวัด โดยบริษัทของดิฉันก็รับผิดชอบงานในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่นำร่องการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย และนี่ถือเป็นความภาคภูมิใจของดิฉัน และบริษัท REGEN Smart City ที่เป็นกลุ่มคนที่ได้พัฒนานวัตกรรมและแพลตฟอร์มขึ้นมา เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสะดวกสบาย มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดิฉันเองอยากเห็นโครงการ Smart City เติบโตและเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ และเชื่อว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนจะดีขึ้นกว่าเก่าอย่างแน่นอนค่ะ”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.