ในโลกที่ภาพลักษณ์และทักษะการสื่อสาร กลายเป็นแต้มต่อสำคัญ ทั้งการทำงานและการดำเนินชีวิต ครูน้ำฝน ภักดี CEO & Founder สถาบันสอนบุคลิกภาพ Pronality Academy by Kru Fon คือบุคคลที่ได้การยอมรับว่า เป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวตน ให้เป็นอาวุธลับแห่งความสำเร็จ
“สถาบันสอนบุคลิกภาพของเราเป็นที่รู้จักแบบปากต่อปาก เพราะเราไม่ค่อยได้ทำการตลาดเท่าไรนัก นอกจากลงคลิปให้ความรู้แบบไม่มีกั๊ก ประกอบกับเนื้อหาเป็นแนวสนุกๆ ที่ใช้ได้ในชีวิตจริง คนจึงแชร์กันจนเป็นไวรัล ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง สิ่งนี้เลยเป็นจุดที่ทำให้ที่ผ่านมามีทั้งองค์กร ผู้บริหาร และศิลปินดารารู้จักและเข้ามาเรียนกับเรา เช่น ผู้บริหารของบริษัทชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน อย่าง บริษัท ปตท., KING POWER, มิชลิน, ธนาคารต่างๆ หรือนักแสดงที่มีชื่อเสียง เช่น เบลล่า-ราณี, ปอย-ตรีชฎา, น้ำตาล-ชลิตา เป็นต้น”
“ถ้าถามว่าจุดเด่นของเราคืออะไร ถึงเรียกคนให้เข้ามาเรียนได้เยอะขนาดนี้ ต้องบอกว่าเราไม่กล้าคิดไปเอง เราเลยพยายามรีเสิร์ชถึงความพึงพอใจจากคนที่เคยมาเรียน จนสกัดออกมาได้ 4 ข้อ คือ สนุก เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง และเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที สิ่งนี้จึงกลายมาเป็นสโลแกนของเรา และเป็นแกนในการพัฒนาหลักสูตรของสถาบัน ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจแบบรอบด้าน มันเป็นความท้าทายเหมือนกันนะคะ เพราะการสอนในรูปแบบของวิทยากร ก็เปรียบเหมือนโชว์ที่ต้องทำให้คนดูอยู่กับเรา ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่เบื่อ ไม่ง่วง และคนมาเรียนต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ว้าว ไม่เป็นที่จดจำ หรือน่าบอกต่อ”
“หากถามถึงความแตกต่าง ระหว่างการสอนผู้บริหารกับศิลปินดาราจะมี 2 อย่าง คือ เป้าหมายการเรียนและวิธีการสอน อย่างนักธุรกิจหรือผู้บริหารต้องการความน่าเชื่อถือ และความประทับใจแรกพบ นำไปสู่การทำให้คนเชื่อมั่น เชื่อใจ ส่วนศิลปินดาราต้องการสร้างเสน่ห์ สร้าง Magic Moment และสามารถเข้าไปนั่งในใจของผู้ชมได้ เป็นเรื่องบุคลิกและอินเนอร์ทั้งบนเวที หน้ากล้อง และหลังเวที เช่น การให้สัมภาษณ์ รวมถึงบุคลิกในชีวิตประจำวัน ซึ่งลูกศิษย์ที่มาเรียนก็มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งคนที่เฝ้ารออยากมาเรียนกับเรา หรือแม้แต่คนที่โดนบังคับมาเรียนก็มี เช่น คุณพ่อคุณแม่หรือบริษัทส่งมาเรียน ซึ่งกลุ่มหลังเราต้องจัดการกับมายด์เซตของเขาก่อน ถือเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเราที่ต้องทำให้เขายอมเปิดใจ มองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับ แล้วเขาถึงอยากจะพัฒนาตัวเอง เราจะไม่ไปครอบงำหรือบังคับให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ แต่เราจะชวนทบทวนทำให้เขาเห็นคุณค่าของเวลาใน 2 ชั่วโมงที่มีกับครู ว่ามันต้องสนุกและได้ประโยชน์กับตัวเขามากที่สุด”
“หลังจากมายด์เซตได้ ต่อมาคือเรื่องกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสอน ทั้งเรื่องบุคลิกภาพภายนอกและการพูดเลยนะคะ เพราะถ้าใจได้แต่กล้ามเนื้อไม่มีและใช้ไม่เป็นเลย บุคลิกภาพจะเกิดได้อย่างไร เราจะอธิบายให้รู้ว่าคุณกำลังใช้กล้ามเนื้อส่วนไหนในการเดิน ยืน นั่ง หรือการพยุงหลังอยู่ในตอนนี้ เหมือนเรียน Anatomy กลายๆ เช่น ต้องรู้ว่าถ้าหนีบสะบักหลังให้เข้ามาใกล้กันจะช่วยให้หลังคุณตรงขึ้นได้ การเตือนตัวเองอย่างเดียวไม่ได้ผล 100% ต้องฝึกกล้ามเนื้อไปพร้อมกันด้วย โดยเราจะมีท่าเอกเซอร์ไซส์ให้กลับไปทำต่อ และตอนนี้เรามีการจับมือกับฟิตเนสแห่งหนึ่ง กำลังพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน เพราะเรามีเจตนารมณ์เดียวกันที่จะส่งเสริมให้สุขภาพยั่งยืน และเมื่อเข้าใจเรื่องกล้ามเนื้อแล้ว ส่วนสุดท้ายคือการจัดวาง เช่น มือไม้ต้องเอาไว้ตรงไหน ขาทิ้งน้ำหนักอย่างไร วางเสียงแบบไหน โฟกัสสายตายังไง เป็นต้น จึงจะครบสมบูรณ์ค่ะ”
“ถ้าให้พูดถึงมุมมองความสำเร็จสำหรับตัวเอง คงอยู่ที่การทำงานในหนึ่งวันให้จบลงด้วยความพึงพอใจของลูกค้า และได้ผลลัพธ์ตรงตามเป้าที่เราตั้งไว้ สิ่งที่สำคัญมากสำหรับครูคือทีมที่ต้องมีเป้าหมายเดียวกัน คนที่เข้ามาอยู่ในสถาบันเรา เขาต้องชอบพัฒนาตัวเอง และเขาต้องเก่งขึ้น ครูมองว่าทีมมีผลมากๆ ในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เพราะลำพังครูทำคนเดียวคงไม่มีทางทำได้ขนาดนี้ รู้สึกภูมิใจที่เรามีทีมที่ดี ซึ่งในอนาคตเรามีแพลนที่จะต่อยอดเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับชาวต่างชาติหรือบริษัทต่างชาติ ครูมั่นใจในทีมงานของเราที่มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็น ‘โค้ชวูจู’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสื้อผ้าและการแต่งกาย ที่สอนได้ทั้งภาษาอังกฤษ ไทย และเกาหลี ‘ครูดอย’ เชี่ยวชาญเรื่องการพูดและงานบริการ ก็สื่อสารภาษาจีนได้ ส่วน ‘ครูมิ้นท์’ เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพและการพูด ก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้ รวมถึงทีมหลังบ้านที่แข็งแกร่งทุกคนด้วย แพลนใน 3 – 5 ปีข้างหน้า ครูอยากมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและบุคลิกภาพ รวบรวมให้อยู่ในที่เดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนที่สนใจเรื่องนี้ สามารถมาชอปกันได้ง่ายๆ และอยากให้มั่นใจว่านี่เป็นสิ่งที่ครูคัดกรองมาให้แล้ว”
“ครูคิดว่าไม่มีอาชีพไหนบนโลกนี้ ที่ไม่ใช้บุคลิกภาพและการสื่อสาร ถ้าไม่มีศิลปะในการสื่อสาร ไม่มีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ ก็ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ ภาพลักษณ์ภายนอกมีผลมาก รวมถึงน้ำเสียง คำพูด วิธีการสื่อสาร ตลอดจนมารยาทการเข้าสังคม การวางตัว ล้วนเป็นองค์ความรู้ที่ต้องมี นี่คือเครื่องมือที่จะทำให้คุณไปถึงผลลัพธ์ตามความต้องการได้ในทุกมิติ”
ติดตามอ่านได้ในนิตยสาร HOWE ฉบับ 127
สามารถสั่งซื้อ E-Book ผ่านทาง Meb : https://www.mebmarket.com/ebook-338612-Howe-No–127
