THE 50 INFLUENTIAL PEOPLE 2023 “ชาลอต โทณวณิก” ผู้หญิงทำงาน และสร้างปรากฏการณ์ใหม่

0
515

ในแวดวงการเงินการธนาคารในอดีต หากพูดถึงชื่อ “ชาลอต โทณวณิก” ทุกคนจะรู้จักกันดีในฐานะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Retail Banking อย่างยิ่งยวด แต่สำหรับวันนี้เธอมีบทบาทในฐานะของการเป็นผู้ผลิตสื่อ ซึ่งแต่ละรายการได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมาแล้ว

คุณชาลอต โทณวณิก ประธานบริษัท อชิโต จำกัด และที่ปรึกษาด้านสื่อสารองค์กร บริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าถึงการทำงานในอดีตจนถึงปัจจุบันว่า “ในอดีตงานที่ทำจริงๆ จะเป็นสายการเงินการธนาคาร ซึ่งทำมาประมาณ 22 ปี ทั้งงานตรวจสอบบัญชีที่ Price Waterhouse จากนั้นก็มาบริหารงานอยู่ที่ Citibank และมาจบที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งผลงานเด่นที่ยังจำได้คือ การทำรีแบรนด์ตัวธนาคารกรุงศรีอยุธยา ด้วยการปรับภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัยและสดใสขึ้น จนมีภาพลักษณ์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน” ด้วยการทำงานในแวดวงธนาคาร โดยเฉพาะด้านสินเชื่อ บ้าน ทำให้เธอได้รับฉายา “เจ้าแม่สินเชื่อเคหะ”

“เพราะว่าเราเริ่มมาตั้งแต่สมัยที่ทำอยู่ที่ Citibank แต่ว่าในช่วงที่ถอยไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ธนาคารของไทยยังไม่ได้ทำสินเชื่อรายย่อยเยอะ แต่วิชาต่างๆ ที่เราเรียนมาจาก Citibank และรวมถึงช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ธนาคารของไทยต้องกลับมารับลูกค้ารายย่อยมากขึ้น ช่วงนั้นจริงๆ ส่วนตัวเติบโตมาจากสินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้าน ก็เลยมาใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่ทำให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มาเป็นผู้นำทางด้านสินเชื่อเคหะ และ Retail Banking

ทว่าวันนี้คุณชาลอตได้ถอดรูปจาก “เจ้าแม่ สินเชื่อเคหะ” และก้าวสู่แวดวงสื่ออย่างเต็มตัว “ต้องย้อนกลับไปช่วงที่เกิดวิกฤตอย่างตอนต้มยำกุ้ง ซึ่งหลังจากที่มีการแก้ไขวิกฤตได้แล้ว แบงก์ต่างๆ ของไทยก็ถูกต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้น หรือเทคโอเวอร์ ทำให้เกิดภาพลักษณ์เรื่องของรีเทลแบงก์กิ้งรายย่อยขึ้นมา ทั้งเรื่องของบัตรเครดิต สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบุคคล รวมไปถึงสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องทำการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปด้วย” และในเวลานั้นเอง คุณชาลอตเล่าว่า เป็นช่วงเดียวกับที่ธนาคารกรุงศรีฯ กำลังมีการปรับภาพลักษณ์ “เราก็ถูกตั้งให้เป็นโฆษกแบงก์ และเรียกว่าเป็นแบงก์เดียวที่มีโฆษกของธนาคารก็ว่าได้ ทำให้ช่วงนั้นต้องทำงานร่วม กับสื่อมวลชนเกือบตลอด 360 วัน”

คุณชาลอตเล่าอีกว่า พอเข้ามาดูแลด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ รวมถึงเป็นโฆษกของแบงก์ด้วย เราก็เลยเป็นด้านที่ให้ข้อมูลกับสื่อและทำงานร่วมกับสื่อค่อนข้างเยอะ เลยทำให้เวลามีเรื่องอะไร สื่อเกือบทั้งหมดก็จะมาตามจากเรา หรือว่าหากมีประเด็นอะไรก็จะมุ่งมาที่เราก่อน เพราะเราเป็นคนทำงานมิใช่ในลักษณะที่ตอบเฉพาะที่รู้ แต่เรายังเป็นเหมือนเซ็นเตอร์ในการรับคำถาม แล้วนำไปติดตามจากในองค์กรเพื่อให้สื่อได้ข้อมูล และกำหนดเวลาต้องตอบ ซึ่งเราจะรู้ว่าสื่อต้องปิดหน้าให้ทันเวลา เพราะสมัยนั้นสื่อ หลักก็จะเป็นสื่อหนังสือพิมพ์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เรามักมีข่าวออกมาตลอดทั้งปี”

คุณชาลอตเล่าด้วยว่า ต่อมาในปี 2550 แม้ตอนนั้นเธอยังคงทำงานอยู่กับธนาคาร “แต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับทางการตลาดของช่อง 7 เพราะว่าทางผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารกับทางช่อง 7 เกี่ยวข้องกัน เลยได้ไปทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาด และพอมาช่วงหลังก็มาเป็นประธานบริษัท บีบีทีวี โปรดักชั่นส์ จำกัด (ในเครือช่อง 7) เป็นการผลิตคอนเทนต์ให้กับช่อง เลยเริ่มมาดูเรื่องของการผลิตรายการมาสเตอร์พีซ คือจัดประกวด Miss Universe 2005 ซึ่งทำร่วมกับช่อง 7 และบริษัท แม็ทชิ่ง จากนั้นพอออกจากแบงก์ก็ได้มาเป็น CEO บริษัท มีเดียออฟมีเดีย จำกัด (ปัจจุบันเป็นมีเดียสตูดิโอ) เลยกลายเป็นว่าเปลี่ยนจากการเป็นนักการธนาคาร มาเป็นคนทำงานในวงการบันเทิงแทน” สำหรับผลงานรายการเด่นที่เธอร่วมเป็นส่วนผลิต มีหลายรายการ ทั้งเช้านี้ที่หมอชิต ประเด็นเด็ดเจ็ดสี รวมถึงการผลิตรายการอีกมากมายที่ได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมาแล้ว และนอกจากช่อง 7 ก็ยังคงผลิตรายการให้กับอีกหลายช่อง

เมื่อพูดถึงแนวทางการบริหารงานในสไตล์ของคุณชาลอตว่าเป็นอย่างไร เจ้าตัวตอบอย่างชัดเจนว่าเป็นการบริหารแบบเปิดกว้างที่จะเรียนรู้ เป็นคนทำงานไม่มีกรอบ “เรียกง่ายๆ ว่าเป็นคนนอกกรอบ ชอบที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ และโชคดีที่ได้อยู่ในองค์กรที่เขาให้อิสระทางความคิด ซึ่งทำให้เราได้สร้างโอกาสใหม่อยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นในช่วงที่ถามว่าเป็นตัวตนมากๆ และสร้างตัวตนมากๆ น่าจะเป็นช่วงที่อยู่ธนาคารกรุงศรีฯ และการมาอยู่ในสายเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งจะเป็นการบริหารแนวคิดต่างๆ แต่การบริหารทีมงาน แล้วมีทีมงานใหม่เข้ามา ก็จะใช้วิธีแยกน้ำแยกปลา ก่อนศึกษาเขาให้เร็วที่สุดว่าใครอยู่ในระดับไหน ท็อปเทียร์หรือมิดเดิลเทียร์ หรือบัวใต้น้ำ แยกให้ถูกเพื่อจะใช้คนให้ได้ถูกต้องต่อไป”

อย่างไรก็ตาม แม้วันนี้เพื่อนๆ ในวัยเดียวกันของคุณชาลอตจะเกษียณกันไปหมดแล้ว แต่สำหรับคุณชาลอตเรียกว่ายังมุ่งมั่นกับการทำงานอย่างต่อเนื่อง “การที่ได้เข้าไปร่วมงานกับ DTGO บริษัทแม่ของ MQDC ที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นที่ซึ่งเราได้กลับมาเรียนรู้ เพราะ MQDC มีหลายมิติ และมีเรื่องของศูนย์วิจัยต่างๆ รวมถึงยังมาทำด้านเมตาเวิร์ส และต้องศึกษาเกี่ยวกับเทรนด์ดิจิทัลไฟแนนซ์ซิ่ง ดิจิทัลมันนี่ หากจะบอกว่าเราประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่ หรือต้องการอะไรในชีวิตอีก ก็ต้องบอกว่า ทุกอย่างเกิดจากที่เคยตั้งเป้าหมายในชีวิต แต่เราเคยเจอปัญหาหนักในชีวิตมาแล้ว และสามารถกลับมายืนตรงนี้ได้ ก็ถือว่าเกินความคาดหมายไปมากๆ แล้ว ดังนั้นถือว่าเราประสบความสำเร็จแน่นอน แต่ถามว่าจะหยุดไหม คงจะไม่ได้หยุด เพราะถ้ายังมีอะไรให้ทำ ก็จะทำอยู่เรื่อยๆ ไม่ทำงานธุรกิจอย่างเดียว การกุศลก็ทำ โดยเป็นคณะกรรมการศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย รวมถึง ทางสำนักงานตำรวจ Cyber ยังตั้งให้เป็นที่ปรึกษาคณะทำงานอีกด้วย”

คุณชาลอตยังทิ้งท้ายด้วยว่า “ตอนนี้มีหลายมิติที่ในชีวิต และวันนี้เราก็ไม่ได้เป็นเหมือนสมัยสาวๆ ที่ทำงานอย่างเดียว แต่เรายังมีงานที่ให้เราคิด และให้เราทำในแบบที่ได้มีส่วนเข้าไปช่วยสังคม มีครอบครัวที่ดี มีสมาคมเพื่อนฝูง เพียงเท่านี้ก็เติมเต็มชีวิตแล้ว” หากจะว่าไปแล้ว คุณชาลอต โทณวณิก จึงไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่มีแบรนด์ แต่ยังเป็นคนที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ขณะเดียวกันเธอยังเป็นคนซื่อสัตย์ จริงใจ และมีความตรงไปตรงมา อย่างที่สุดอีกคนหนึ่งด้วย

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.