“สุลักษมิ์ ศิริภัทรพงศ์” ความรัก แพสชัน และการเติบโต

0
839

การใช้ชีวิตด้วยแพสชันของ สุลักษธิ์ ศิริภัทรพงศ์ มิสแกรนด์สุราษฎร์ธานี ทำให้เธอรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมีชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และพร้อมที่จะใช้ชีวิตตามหนทางที่เธอต้องการจะเดินซึ่งเธอบอกกับเราว่า แม้เธอจะไม่ได้รับตำแหน่งในการประกวด MISS GRAND THAILAND 2022 แต่การที่เธอได้มีแฟนคลับมาซัปพอร์ตในทุกช่วงของชีวิต ถือเป็นการเติมเต็มความสุข และทำให้เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธออยากเป็น ซึ่งถือเป็นโชคดีที่ดีที่สุดในชีวิต

“หลังประกวดรู้สึกเป็นตัวเองมากขึ้น ได้กลับมาใส่รองเท้าผ้าใบหลังจากใส่แต่รองเท้าส้นสูงจนเท้าชา ช่วงที่ผ่านมาเตรียมตัวเข้าประกวดนางงามมา 3 – 4 ปี เคยลองไปประกวดนางงามครั้งหนึ่ง ไปประกวดเล่นๆ ตอนนั้นเพิ่งสอบติดมหาวิทยาลัยเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก็ยังเด็ก ช่วงแรกชีวิตไม่มีแพสชัน พอมาเจอแพสชันนี้ก็เลยเริ่มพัฒนาตัวเอง ออกกำลังกาย ซ้อมเดิน หัดแต่งตัว พัฒนาตัวเองให้เป็นนางงาม ศึกษาเกี่ยวกับนางงามเกือบ 5 ปี มาปีนี้เรารู้ว่าเราพร้อม เลยไปประกวดมิสแกรนด์สุราษฎร์ธานีจนได้ตำแหน่ง”

“การเข้าวงการประกวดมา ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น รู้เลยว่าตีกรอบตัวเองมากเกินไป มีคนเคยถามว่าเสียใจไหมที่เข้าประกวดแล้วไม่ได้เข้ารอบ ทั้งๆ ที่เป็นตัวเก็ง ก็รู้สึกเสียใจเพราะเตรียมตัวมานาน แต่สุดท้ายความสำเร็จไม่ใช่มงกุฎ แต่ความสำเร็จที่ได้มาคือการรู้จักตัวเอง มีคนที่รักในตัวตนเรามากขึ้น เมื่อก่อนหนูฝืนตัวเองมากเกินไปนิดหนึ่ง กลายเป็นติดสวย ต้องผมแบบนี้ ต้องแต่งหน้าแบบนี้ ต้องแต่งตัวแบบนี้ ชีวิตมีคำว่า ต้อง’ เยอะมาก พอหลุดจากคำว่านางงาม ทำให้เป็นตัวเองมากขึ้น มีแต่คนสงสัยเดี๋ยวนี้ทำไมแต่งตัวบอยจัง เมื่อก่อนเห็นใส่เดรส ใส่สันสูง พยายามตามเทรนด์หรือเปล่า แต่จริงๆ ตอนที่เรียนที่ลาดกระบังหนูก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีน แฟนคลับก็ชอบหนูแบบที่หนูเป็นอยู่ ชีวิตหนูก้าวไวเพราะความฝัน และหนูโชคดีที่อยากเป็นนางงาม ถึงไม่ได้ตำแหน่งก็ไม่ได้เสียใจ เพราะประสบการณ์ที่เราเก็บเกี่ยวฝึกฝนมา จากคนที่มีอีโก้ ก็เทน้ำออกจากหัวตัวเองไปค่อนแก้ว พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเติมลงไปเรายอมลดเพื่อให้ตัวเองเติบโตขึ้น ปรับ Mind Set หรือกายภาพภายนอก ดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้น”

“การประกวดมิสแกรนด์ดีตรงที่ไม่บังคับให้เราเปลี่ยนตัวเอง เรายังเป็นตัวของตัวเองได้เลย ซึ่งดีมาก วันนี้ไม่ได้รางวัลก็คิดว่าไม่ต้องไปแก้มืออะไร เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่ดี ได้อะไรกลับมาเยอะมาก มีคนถามว่าจะกลับไปแก้มือไหมที่ไม่ได้ตำแหน่ง หนูว่าถ้าคิดแค่จะกลับไปแก้มือก็คงไม่ เพราะตอนนี้หนูคือ Complete แล้ว ในพาร์ตนั้นหนูไปสุดทางแล้วเหลือแค่จะต่อยอดจากนี้ต่อไปอย่างไร”

“ถ้าถามว่าหลังประกวดชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไร ก็ตอบเลยว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก จากไม่เคยมีแฟนคลับ ตอนนี้ก็มีแฟนคลับ มีคนส่งขนมมาให้ มีคนทวิตถึงเรา มีคนวาดรูปให้ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีคนทำให้เราแฮปปี้ มีคนรู้จัก มีคนเข้ามาทักทาย ทุกอย่างที่ได้คือเปลี่ยนชีวิตหนูไปมาก มันคุ้มค่ากับสิ่งที่หนูทำมาแพ้ก็ไม่เสียใจ คุ้มกับ 4 – 5 ปีที่ผ่านมา เพราะหนูมีแฟนคลับที่เขาส่งกำลังใจให้ แฟนคลับหนูไม่เคยกดดันว่าหนูต้องได้มงนะ เขาบอกให้มีความสุขในทุกวัน เขาส่งของกินมาให้ แฟนคลับไม่เคยขออะไร ขอแค่หนูยิ้มเยอะๆ มีความสุขในทุกๆ วัน วันนี้เดินดีๆ นะ วันนี้หน้าผมสวยๆ นะ นี่คือสิ่งที่เติมเต็มชีวิตที่สุดแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ความกดดันมันลดไป หนูอยู่ได้เพราะแฟนคลับ”

“ความสำเร็จไม่ใช่มงกุฎ แต่คือการรู้จักตัวเองมีคนที่รักในตัวตนเรามากขึ้น เมื่อก่อนหนูว่าหนูฝืนตัวเองมากเกินไปนิดชีวิตมีคำว่า ‘ต้อง’ เยอะมาก พอหลุดจากคำว่านางงามทำให้เป็นตัวเองมากขึ้น”

” ‘การไม่คาดหวัง คือการไม่ผิดหวัง แฟนคลับหนูไม่เคยคาดหวัง ทุกวันนี้หนูทำตัวแปลก เขาก็ชอบที่หนูแปลก ก็แปลกใจว่าทำไมเขารับได้ที่เราเป็นแบบนี้มีความเด๋อๆ ด๋าๆ เมื่อก่อนหนูรู้สึกว่านางงามต้องเพอร์เฟกต์ หน้าผม บริบทการวางตัว ทุกวันนี้แฟนคลับทำให้เรากล้าปลดปล่อยความเป็นตัวเอง มันเป็นแรงผลักดัน มันทำให้หนูแฮปปี้ มีความสุขในทุกๆ วัน ส่วนเป้าหมายในชีวิตคืออยากเข้าวงการบันเทิง อยากเล่นซีรีส์สักเรื่อง เป็นนางงามแล้ว เป็นนางแบบแล้ว เหลือแต่งานแสดงที่ยังไม่ได้เล่นแบบจริงจัง ก็อยากลองทำ ปลายปีนี้ก็จะมีซีรีส์ แล้วก็มีงานพรีเซนเตอร์ ก็อยากฝากผลงานให้กับทุกคนด้วยค่ะ”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.