“ดาริน พันธุศักดิ์” ผู้หญิงที่เปรียบเหมือน “น้ำ”

0
1005

“น้ำ” มีความหมายมากมายเกินกว่าจะพรรณนาได้ แต่หนึ่งในความหมายที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน คือ การปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามสภาพและสถานการณ์ แม้บางครั้งจะต้องถูกระเหยด้วยความร้อนจนกลายเป็นไอน้ำ แต่สุดท้ายแล้วน้ำก็กลับมาชะโลมความร้อนเหล่านั้นให้กลับมาเย็นฉ่ำ และทำให้ทุกสิ่งรอบตัวฟื้นคืนชีวิตกลับมาสร้างความสดใสอีกครั้ง

กว่าจะมาเป็น “ดาริณ พันธุศักดิ์”
“ดาร์ลิ่ง” ทรีอ ดาริณ พันธุ์ศักดิ์ เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นหนึ่งในผู้บริหารเบื้องหลังคนสำคัญของ “ทิฟฟานี่โชว์” รวมถึงอีกหลายธุรกิจของครอบครัว “พันธุศักดิ์” ซึ่งกว่าจะก้าวมาเป็นผู้ช่วยครอบครัวดูแลกิจการได้นั้น เธอต้องผ่านหลากเรื่องราวมากมาย ที่สร้างประสบการณ์ และแนวคิดการทำงานเป็นผู้บริหารในแบบฉบับของตัวเธอเอง “ตั้งแต่เรียนจบมา โดยจบปริญญาตรีจากคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการบริหารระหว่างประเทศที่อเมริกา ในมหาวิทยาลัยธันเดอร์เบิร์ด แอริโซน่า และสาขาการเงินระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัย อิลลินอยส์ เออร์แบนา แชมเปญจน์ ก็มาทำงานกับองค์กรต่างๆ อย่างทำงานเป็นหน้าห้องด้านการร่างเอกสารต่างประเทศของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคืรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี รวมถึงสถาบันการเงิน และโรงแรม” ซึ่งเธอเล่าว่าตลอดระยะเวลาการทำงานมากว่า 10 ปี เธอได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ไว้อย่างมากมาย และเชื่อว่าการเรียนรู้เป็นลูกจ้างที่อื่นก่อน จะทำให้เราเห็นโลกกว้างและเข้าใจการทำงานทุกระดับจริงๆ

“จริงๆ ก็ต้องขอบคุณเจ้านาย และองค์กรที่เราเคยไปทำงานด้วยนะคะ ที่สอนให้เราเรียนรู้ทุกอย่าง โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีมเวิร์ก” เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานข้างนอกล้วนๆ และสามารถนำมาใช้ได้จริงเมื่อต้องกลับมาทำงานกับธุรกิจของครอบครัว “โดยนิสัยแล้วส่วนตัวชอบทำงานดูแลรอบนอก Coaching โดยนโยบายไม่พูดเยอะ ดูแลเรื่องการเงิน ซึ่งหลังจากที่กลับมาทำงานกับที่บ้าน(กงสี) ก็จะทำหน้าที่ช่วยดูแลนโยบาย และเรื่องการเงินเป็นหลักค่ะ เพราะเรามองว่าหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจได้นั้นอยู่ที่การเงิน คุณพ่อจะสอนว่าถ้าเรามีลูกน้องเป็นคนต่างประเทศ เราต้องให้เกียรติในการทำงานของเขาด้วย ถ้าเป็นบอร์ดเราต้องดูแลโดยกำหนดนโยบายแต่ให้อิสระการทำงานกับผู้บริหาร”

ปรับเปลี่ยน เพื่อการคงอยู่
ยิ่งช่วง “ทิฟฟานี่โชว์” ต้องปิดตัวเพราะพิษโควิด-19 นักท่องเที่ยวหายไป โรงละครแห่งนี้ก็ไม่ได้ประสบปัญหาหนักเหมือนธุรกิจอื่นๆ ในพัทยา “ด้วยนโยบายที่คุณพ่อสอนเราไว้ให้ระวังเรื่องการเงิน โชคดีที่เราเองก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการกู้หนี้สินเกินตัว ซึ่งก่อนเกิดโควิดเราก็เกือบจะไปสร้างโรงละครที่ภูเก็ตเหมือนกัน แต่เรายั้งได้ทัน แม้จะมีการเตรียมงาน เตรียมแผนไว้แล้วก็ตาม ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจของเรา เป็นการรับงานในลักษณะไพรเวทแทนและนักแสดงของเราทุกคนก็ยังได้รับการฉีดวัคซีน และตรวจ ATK อยู่เสมอ แต่คิดว่าอย่างเร็วเราจะกลับมาเปิดโรงละครที่พัทยาได้เดือนตุลาคมปี 2565 ในขณะเดียวกัน การประกวดมิสทิฟฟานี่โชว์ และมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน ซึ่งเราเป็น host จัดทุกปียังคงมีต่อไป และเราภูมิใจที่พูดได้ว่าทิฟฟานี่โชว์เป็นโชว์ Transgender ที่เป็นตำนานและเป็นที่หนึ่งของโลก (The First & Original Transvestite Cabaret in South East Asia and the Most Famous Transvestite Show in the World) และเราเคยติด 1 ใน 10 โชว์ในโลกที่นักท่องเที่ยวต้องมาดู (The Must-to-See Famous Show) และเราคิดจะให้มีงานมาดิกราส์แบบบราซิลมาจัดขึ้นในเมืองพัทยา เหมือนประเทศบราซิลที่จัดแบบยิ่งใหญ่ทุกปี จัดร่วมกันกับเมืองพัทยาให้สนุนสนาน เป็นงานรวมตัว LGBTQ ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวในระดับนานาชาติได้มากขึ้น ด้วยความพร้อมของศักยภาพการเติบโต EEC และสนามบินอู่ตะเภานานาชาติ ไม่ยากเลย”

“นอกจากนี้สิ่งที่เราต้องคิดต่อคือการมองไปที่การสร้างฟีเจอร์ใหม่ ขณะที่เราก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกที่ธุรกิจกำลังถูกขับเคลื่อนเข้าสู่โลกเสมือนจริง ซึ่งเราเองก็กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจแบบ NFT (Non-Fungible Token) ที่คล้ายกับคริปโตตัวหนึ่ง ที่จะเทิร์นงานศิลปะเข้าไปสู่โลกเสมือนจริง” ด้วยการผันเปลี่ยนของโลกที่รวดเร็ว เธอยังคงคิดอยู่หลายรอบว่าสิ่งที่คิดนั้นจะทำได้จริงหรือไม่ คิดไปจนถึงขั้นว่าจะมีคนยอมจ่ายเงินเป็นเปเปอร์วิว เพื่อเข้ามาดูโชว์เหมือนกับงานศิลปะหรือไม่ “แต่สุดท้ายก็มองว่าทุกธุรกิจต้องปรับตัว เป็นยุคที่เราต้องประยุกต์ความเป็นผู้นำให้เข้ากับทุกๆ เรื่องที่เจอ”

ผู้บริหารต้องปรับตัวเหมือน “น้ำ”
ด้วยแนวคิดและไอเดียที่ปรับเปลี่ยนธุรกิจไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ “ดาริณ พันอุศักดิ์” ผู้บริหารเบื้องหลังทิฟฟานี่โชว์คนนี้ เปรียบตัวเองเป็นเหมือนกับ “น้ำ” ที่สามารถปรับตัวได้ตลอด “ส่วนตัวมีความเป็นศิลปิน และชอบการร้องเพลงอยู่แล้ว เลยมีความรู้สึกว่างานศิลปะและงานแสดงต่างๆ ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย แต่เป็นการสัมผัสอายตนะทั้ง 6 ก็ยังอยากจะเก็บธุรกิจเหล่านี้ไว้ แต่ส่วนอื่นก็ต้องคิดและลองทำไปพร้อมกันด้วย ซึ่งวันนี้เราก็มีธุรกิจด้านอื่นๆ ด้วย ส่วนทิฟฟานี่ วันนี้เป็นเหมือนตำนานแล้ว เราก็เลยอยากทำหนังที่เกี่ยวกับ The Legend of Tiffany เข้าไปใน Netfix เพื่อคนอื่นๆ จะได้รู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของสาวประเภทสอง หรือ LGBTO ดูว่าเขามีชีวิตเป็นอย่างไร ซึ่งเราเองก็เชื่อว่านี่จะเป็นอีกโลกหนึ่งที่ทุกคนอยากรู้ และจะเป็นสิ่งที่ต่อยอดได้ดีกับเรื่องของงานโชว์”

ดาริณ พันธุศักดิ์ เชื่อว่าพิษโควิดที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ จะยังคงส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และจะยังไม่ฟื้นตัวในเร็ววัน “ตอนนี้เราก็เลยต้องใช้นโยบาย สู้ ซ่อม สร้าง กันไปก่อน ช่วง 3 -5 ปีนี้ ซึ่งสุดท้ายเราก็เชื่อว่าทั้งหมดอยู่ที่ใจของมนุษย์เอง ว่าจะสู้กับปัญหาตรงหน้าไหม เอาจริงๆ เลยนะ พี่มองว่าตัวเองเป็นคนคิดบวกและเหมือนกับน้ำสามารถปรับตัว และให้กำลังใจกับทุกคนมาตลอด ทุกอย่างอยู่ที่ใจ รวมถึงเชื่อว่าภายใน 5 ปีเราจะสามารถต่อยอดธุรกิจและมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะหลังจากที่เปิด EEC ในภาคตะวันออกซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวตามเข้ามาเยอะ และน่าจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นอีกมาก”

นอกจากธุรกิจโรงละครทิฟฟานี่ที่ต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ธุรกิจโรงแรม Woodlands Hotel and Resort Pattaya ตลอดจนร้านเบเกอรี La Baguette Bakery Cafe ภายใต้การบริหารงานของพี่น้องร่วมกัน (คุณอลิสา CEO และคุณวรัษยา CFO) ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วย เพื่อให้ธุรกิจทั้งหมดยังคงเดินหน้าต่อไป “อีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังทำอยู่เป็นธุรกิจส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับครอบครัว จะเป็นเรื่องของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการเลือกทำธุรกิจนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ EEC กำลังจะบูม และคิดว่าภายใน 5 ปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาจะดีขึ้นเพราะก่อนเกิดโควิด พัทยาเป็นเมืองที่มีคนต่างชาติเข้ามาอยู่เยอะที่สุด และเป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในภาคตะวันออก และคิดว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย พัทยาจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง”

ธุรกิจที่ต้องมาพร้อม “ความสุข”
ไม่ใช่แค่ “ความสุข” และ “ความรัก” ในงานที่ทำเท่านั้น การปลุกพลังในตัวเองก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้บริหารสาวคนนี้นำมาใช้ “ถ้าบอกกันตรงๆ เรียกว่าการทำงานแต่ละชิ้นนั้นต้องใช้ประสบการณ์หลายอย่างมาก แต่ส่วนหนึ่งที่ต้องมี คือ Think Posive และจะไม่มองทุกอย่างเป็นปัญหา อาจเป็นเพราะเราเป็นลูกคนโต ที่โตมาในช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ได้เห็นตอนที่ท่านลำบาก ซึ่งเชื่อว่าการเลี้ยงลูกคนหนึ่งจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเขา และนั่นก็ทำให้ได้ออกไปเจอกับโลกกว้างในหลากหลายด้าน ก่อนที่จะเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาช่วยครอบครัว และเป็นแบ็กอัปช่วยแก้ปัญหาได้หมด”

“ยิ่งตอนที่ช่วยคุณพ่อทำงานลูกเสือโลก ยังทำให้เราค้นพบว่าท้ายที่สุดแล้วชีวิตของเราก็เหมือนการโต้คลื่น ทุกคนต้องเจอคลื่นมีขึ้น มีลง เป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่คุณแม่เป็นคนที่ชอบเรื่องศาสนา(คริสต์) ขณะที่เราเองก็ศึกษาในหลักธรรมของศาสนาพุทธด้วย ก็ทำให้เราถูกหลอมรวมเข้ากับประสบการณ์ที่มีอยู่ ทำให้เรามองว่าการเดินทางสายกลางเป็นสิ่งดีที่สุด หมายความว่าไม่ว่าชีวิตจะโต้คลื่นอย่างไรเราก็ต้องมีพลังใจในตัวเอง เพราะหากเราไม่มีพลังใจเราก็จะเดินต่อไปไม่ได้ และคนที่เป็นลูกน้องก็จะตามเราไม่ได้เลย ดังนั้นเราต้องสู้ให้เขาเห็นก่อน เขาถึงจะสู้ไปกับเรา รวมถึงตัวเองเชื่อเรื่องการทำงานเป็นทีมเวิร์กเท่านั้นที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ คนเราจะทำอะไรด้วยตัวคนเดียวไม่ได้แน่นอน หากเจอปัญหาก็รอมีสติคิดนิดหนึ่ง ทำตัวให้เหมือนน้ำและโต้คลื่นไป ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์แล้ว ทุกคนเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาและเผชิญกับความท้าท้ายเป็นแบบทดสอบ”

ไม่ใช่ “PERFECTIONIST”
หากให้มองความเป็นตัวของเธอแล้ว คำตอบแรกที่ได้ยิน คือ การทำให้คนอื่นมีความสุข “ไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นคนที่เพอร์เฟกต์ชันนิสต์ แต่เป็นคนที่ชอบทำอะไรที่เป็นแบบธรรมชาติของตัวเองมากกว่า ไม่เคยคิดว่าจะต้องเก่งที่สุดหรือดีที่สุด อาจเป็นเพราะเราเคยตามคุณพ่อไปทำงานในต่างประเทศ อย่างงานลูกเสือโลกก็จะได้เห็นอะไรเยอะ ได้เห็นคิงสวีเดนทรงใช้ชีวิตในแคมป์ลูกเสือ ท่านทรงใช้ชีวิตเรียบง่ายมาก ทำให้เรามองว่าท้ายที่สุดแล้วเราควรทำทุกอย่างด้วยความสุข และทำให้คนข้างๆ มีความสุข ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่แฮปปี้ที่สุดแล้วจริงๆ”

“ถ้าถามถึงตัวตน ต้องบอกค่ะว่าเป็นคนที่มีตัวตนหลากหลาย เรนจ์กว้างมาก เป็นคนที่ลุยป่าก็ได้ เข้างานสังคมก็โอเค แต่ทุกอย่างต้องทำแล้วมีความสุขจริงๆ ถึงเราจะปรับตัวเองได้เหมือนกับน้ำ แต่สิ่งที่ต้องยึดถือและปฏิบัติตลอด คือ ความจริง พูดความจริง เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราทำสิ่งต่างๆ ถูกต้องแล้ว พระเจ้า หรือแม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะช่วยเรา และเป็นพลังใจให้เราเดินหน้าไปช่วยเหลือคนอื่นได้ต่อไป และวันนี้ก็จะต้องทำให้ได้ พาให้ทุกคนรอดพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้นได้”

ความแกร่งกำลังถูกส่งต่อ
ความเป็นคนแข็งแกร่งของ ดาริณ พันธุศักดิ์ ในวันนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างเป้าหมายความสำเร็จให้กับตัวของเธอเท่านั้น ทว่าความแข็งแกร่งและประสบการณ์ทั้งหมดที่มี กำลังถูกถ่ายทอดไปยังทายาทตัวน้อยที่เป็นสายเลือดของเธอ “ความแข็งแกร่งของพี่วันนี้ ไม่ใช่เพราะเป็นผู้หญิงเก่ง แต่ด้วยเพราะเราศึกษาศาสนาและปรัชญามาพอสมควร จึงเห็นว่าใจต้องมาก่อน ต้องเข้มแข็งก่อนจึงจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ และวันนี้ก็ตั้งใจว่าจะสร้างความแข็งแกร่งเหล่านี้ส่งต่อไปให้กับลูกชายที่อายุ 7 ขวบ ด้วยการให้เขาไปบวชเณรเพื่อฝึกสติสมาธิ” เหมือนเป็นการปลูกฝังหลักธรรมและปรัชญาต่างๆ ให้เหมือนกับที่เธอ เคยได้รับจากคุณแม่ แต่หากเค้าโตขึ้นจะเลือกศาสนาใดก็เป็นสิทธิ์ของเค้าค่ะ แค่เราต้องปลูกรากแก้วเรื่องธรรมะให้เขาตั้งแต่ยังเด็ก เผื่อเวลาโตขึ้นเจอปัญหาจะได้มีสติ

“ต้องขอบคุณคุณแม่ค่ะ ที่บังคับให้เราไปเรียนหลักธรรมศาสนาตอนเด็ก พอมาถึงตอนนี้เราเข้าใจแล้ว เพราะเมื่อลูกโตขึ้นมาระดับหนึ่ง เขาอาจจะไปสนใจอย่างอื่นแล้ว แต่อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ค่ะว่า การเลี้ยงลูกเราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้เขาก่อน จากนั้นก็จะให้เขาได้ออกไปเจอกับโลกกว้าง ก่อนที่จะมาทำงานที่เป็นธุรกิจของครอบครัวต่อไป”

“เราพยายามจะเอาสิ่งที่เขาเก่งออกมาให้มากที่สุด ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่คนที่อยู่เบื้องหลังอย่างเราต้องคอยเป็นแบ็กให้เขา และเมื่อวันไหนที่เขาต้องการให้เราช่วย เราก็จะเข้าไปช่วย และเราจะดีใจที่สุด ถ้าวันหนึ่งเขาเห็นว่าเราเป็นกำลังใจให้เขาได้ มีอะไรแล้วมาเรียกเรา เราก็พร้อมจะยินดีเข้าไปช่วย เพราะยุคนี้เป็นยุคของการปรับตัวอย่างแท้จริง” เป็นการตอกย้ำความเป็น “ดาร์ลิ่ง-ดาริณ พันธุศักดิ์- ผู้หญิงที่ไม่ใช่เป็นแค่ “น้ำ” ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังบวกเท่านั้น แต่เธอเป็นเหมือน “น้ำ” ที่เป็นแบ็กเบื้องหลังให้กับธุรกิจระดับตำนานอย่าง “ทิฟฟานี่โชว์” ดังคำกล่าว The Show Must Go On! ในระดับนานาชาติต่อไป ผู้สนใจอยากสัมผัสกับการแสดงโชว์ระดับตำนานและเลื่องชื่อในประเทศไทย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.tifany-show.co.th หรือโทร. 0-3842-1700

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.