Special Interview : วิน พรหมแพทย์ สร้างเพื่อเปลี่ยน

0
839

หลังจากที่ “คุณวิน พรหมแพทย์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามารับผิดชอบงานด้านไฮเน็ตเวิร์ธ เราได้เห็นความเคลื่อนไหว และการเติบโตในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของกรุงศรี ยอดเงินผู้ที่ให้กรุงศรีบริหารสินทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นเป็น 8 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักลงทุนก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่คุณวินให้ความสำคัญก็คือ การใช้จุดแข็งของตัวเองมาเสริมพัฒนาทีมและบริการให้มีความทันสมัย น่าเชื่อถือ มีความสอดคล้อง รวมทั้งให้ความรู้กับกลุ่มลูกค้าและพนักงานด้านการลงทุน เพื่อสร้างโอกาส และเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรให้เป็นที่ยอมรับ และได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น 

“ภาพลักษณ์ของกรุงศรีวันนี้ไม่ใช่เป็นธนาคารที่มีดีแค่การให้บริการของสาขา

แต่เรายังพัฒนาตัวเองให้ทันสมัยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน

และมีบริการใหม่ๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถต่อยอดความมั่งคั่งของตนเอง และครอบครัวได้อีกด้วย”

“ปัจจุบันผมเป็นหัวหน้าทีมดูแลลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธของกรุงศรี ซึ่งมีลูกค้าอยู่ประมาณ 82,000 คน จะมีกลุ่ม Krungsri Exclusive ที่มีเงินฝาก และเงินลงทุนกับธนาคาร 5 ล้านบาทขึ้นไป มีอยู่ประมาณ 80,000 คน กลุ่ม Private Banking ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนกับธนาคารมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป จะมีประมาณ 2,000 คน ซึ่งเราเพิ่งเปิดบริการไปเมื่อปีที่แล้ว และลูกค้าชื่นชอบมาก ผมเข้ามารับผิดชอบดูแลลูกค้าเรื่องการลงทุน สิทธิประโยชน์ และบริการพิเศษ รวมทั้งดู Investment Advisory ซึ่งเราจะมีทีมวิเคราะห์ข้อมูลให้กับลูกค้าว่าจะลงทุนอะไรดี โดยจะผนึกกำลังกันทั้งเครือ ไม่ว่าจะเป็นทีมวิจัยของกรุงศรี ทีมดูแลเรื่องค่าเงิน ทีมดูแลด้านการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี และหลักทรัพย์กรุงศรี โดยจะวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเราจะมีทั้งเอกสาร และบทความที่เผยแพร่ให้ลูกค้าได้อ่าน รวมทั้งมีรายการบนยูทูบและเฟซบุ๊กชื่อว่า ‘Krungsri The COACH’ ซึ่งเป็นรายการที่ให้ความรู้ และอัปเดตทิศทางการลงทุน รวมทั้งยังมีการจัดสัมมนา เป้าหมายคืออยากให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีคนแนะนำการลงทุน โดยเฉพาะการบริหารธุรกิจครอบครัว อย่างกลุ่มลูกค้า Private Banking ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจก็อยากได้วิธีส่งต่อธุรกิจ และสร้างเม็ดเงินสินทรัพย์ที่มีอยู่”

“อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจำนวนมากสนใจที่จะให้ธนาคารเข้ามาช่วยบริหารสินทรัพย์ โดยตอนนี้กรุงศรีมีเม็ดเงินที่ลูกค้าให้เราบริหารสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 ล้านบาท ซึ่งนี่เป็นส่วนที่ผมรับผิดชอบ และไม่นับลูกค้าทั่วไปที่มาให้เราช่วยดูแลในเรื่องของการลงทุนอื่นๆ โดยในส่วนของลูกค้า Krungsri Exclusive มีการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 6% ส่วน Private Banking โตประมาณ 16% ซึ่งทำให้เห็นว่าลูกค้าไว้ใจเรามากขึ้น และมีกลุ่มนักลงทุนที่สนใจเรื่อง Wealth Management เพิ่มมากขึ้นด้วย”

“ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลการลงทุน เพราะถ้าตลาดผันผวนลูกค้าก็จะไม่สบายใจ ทำให้เราต้องมีการอัปเดตข้อมูลตลอดเวลา ทำให้เรามีทีม Krungsri Investment Intelligence รวมทั้งรายการ ‘Krungsri The COACH’ ที่เป็นช่องทางให้ความรู้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เพราะตลาดบ้านเรายังไม่ปกติ ก็ทำให้หลายคนวิตกกังวล เราก็จะต้องเป็นที่ปรึกษาเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพื่อความสบายใจของลูกค้าทุกคน ฉะนั้นเราต้องหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เช่น กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เป็นของรัฐบาลไทย 100% ซึ่งผลตอบแทนคาดหวัง อาจจะได้เพียง 2% แต่ลงทุนแล้วสบายใจไม่เสี่ยงโดยเป็นกองทุนที่ขายดีมาก 3,000 ล้านบาทขายหมดภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้รู้ว่าในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวนก็มีกลุ่มนักลงทุนที่อยากได้ผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนแล้วมั่นใจว่าได้ผลกำไรแน่นอน”

“ปัจจุบันกรุงศรีถือเป็นธนาคารที่มีกลุ่มลูกค้านิยมมาฝากเงิน เพราะมีความมั่นคงสูง ด้วยบริษัทแม่เราคือ MUFG ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้กรุงศรีเป็นแบงก์ที่มีเรตติ้ง AAA ก็ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเราก็ไม่แพ้ธนาคารอื่นๆ ซึ่งแผนธุรกิจในปีนี้และปีหน้า เราเน้นการสร้างเซอร์วิสใหม่ๆ และขยายความหลากหลายของการลงทุนให้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่สนใจการลงทุนที่มีความซับซ้อน และแปลกใหม่มากขึ้น ทั้งการลงทุนในต่างประเทศ การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด  (Private Assets) และการลงทุนโดยใช้ AI (Artificial Intelligence) ทำให้กรุงศรีต้องพัฒนาบริการให้ทันสมัย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งการเทรดหุ้นบนมือถือเองผ่านบริการ ‘KSS iGlobal’ ที่ให้บริการซื้อหุ้นต่างประเทศผ่านมือถือได้ด้วยตัวเอง และจะมีบริการใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในปีหน้าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”

“การเข้ามาทำงานที่กรุงศรีถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะผมมาจากสาย Investment แต่แน่นอนว่าผมก็มีจุดแข็งเรื่องการลงทุน ทำให้ผมอยากพัฒนาบริการ ทำคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า และสร้างทีมที่ปรึกษาการลงทุนที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ต้องยอมรับว่าตลาดธุรกิจด้านบริหารความมั่งคั่งมีการแข่งขันสูง แต่กรุงศรีก็มีบริการพร้อมอยู่แล้ว คู่แข่งทำให้เราผลักดันตัวเอง สร้างความแข็งแกร่งเพื่อที่จะก้าวไปสู่การเป็น Investment Wealth Advisory Bank ที่ให้สิทธิประโยชน์ การดูแล และมีคำแนะนำในการลงทุนที่ดี ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบใช้บริการที่สาขา เพราะเรามีบริการที่ดี สิ่งที่ผมอยากทำก็คือให้พนักงานที่รับผิดชอบงานด้านการลงทุนมีความรู้ที่จะแนะนำลูกค้าได้ เพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น ผมมองว่าภาพลักษณ์ของกรุงศรีวันนี้ไม่ใช่เป็นธนาคารที่มีดีแค่การให้บริการของสาขา แต่เรายังพัฒนาตัวเองให้ทันสมัย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และมีบริการใหม่ๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถต่อยอดความมั่งคั่งของตนเองและครอบครัวได้ด้วยครับ”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.