เจมส์-กวิน วิทยฐานกรณ์ นักธุรกิจหนุ่มผู้ถูกทางบ้านขัดเกลาทางด้านความรู้และวิสัยทัศน์เพื่อปูรากฐานการรับไม้ต่อกิจการของที่บ้าน เขาผ่านกระบวนการต่างๆ ค่อนข้างนานก่อนที่จะมาเป็นผู้จัดการการตลาดให้กับบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) ที่นำทัพดูแลแบรนด์สินค้าที่ดีมีคุณภาพ เช่น น้ำมันพืชตราองุ่น น้ำมันมะกอกตราโมนีนี่ (Monini) และสินค้า Trading อื่นๆ ซึ่งเป็นกิจการที่ทางบ้านหวังให้เขาสานต่อเป็นรุ่นที่ 3
“ผมต้องเข้าใจกระบวนการทั้งหมดขององค์กรตั้งแต่ศูนย์ถึงร้อย ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ผมเริ่มต้นทำงานจากการใช้แรงงานเพื่อให้ตัวเองเข้าใจว่าคนที่ทำงานหน้างานนั้นเขาคิดและรู้สึกอย่างไร ทำให้เราได้เห็นและเข้าใจบริบทและความตั้งใจของพนักงาน เพราะในอนาคตผมต้องมาคุมเขา ทำอย่างไรทุกคนถึงจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และสามารถพัฒนาบุคลากรไปได้พร้อมๆ กัน ผมจึงต้องเรียนรู้จากจุดเริ่มต้นเพื่อนำมาปรับและช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณพ่อยังสอนเสมอว่าต้องเป็นคนเที่ยงตรง ซื่อสัตย์ต่อคนอื่นๆและตัวเอง ไม่ว่าจะในมุมของการใช้ชีวิตหรือการทำงาน”
“ต้องเป็นคนเที่ยงตรง ซื่อสัตย์ต่อคนอื่นและตัวเอง
ไม่ว่าจะในมุมมองของการใช้ชีวิตหรือการทำงาน”
นอกจากการแก้ปัญหาแล้ว การต่อยอดธุรกิจก็เป็นสิ่งที่ Challenge เช่นกัน ซึ่งในปีนี้วิสัยทัศน์ที่ตั้งเป้าไว้กับตัวแบรนด์ คือ ความยั่งยืน (Sustainability) “จึงเกิดโปรเจกต์ที่บริษัทเราได้ดำเนินการอยู่ คือผลิตสินค้าที่ลดการใช้ทรัพยากร เพื่อเป็นมิตรต่อธรรมชาติมากขึ้น ด้วยวิธีลดการใช้พลาสติกและกระดาษให้น้อยลง มากกว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงขององค์กรที่เติบโตมานานกว่า 50 ปี การเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคใหม่นั้นเป็นเรื่องยาก จึงต้องค่อยๆ เรียนรู้ ปรับตัว เปลี่ยนวัฒนธรรมและทัศนคติการทำงานของคนในองค์กรอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้อยู่ร่วมกันอย่างดีที่สุด”
การเข้าร่วมหลักสูตร IMNEG เป็นเหมือนภาพสะท้อนการทำงานของกวิน “แม้ที่บ้านผมจะมีธุรกิจใหญ่อยู่แล้ว แต่การเรียนโปรเจกต์นี้ทำให้ผมได้ข้อคิดและได้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก เป็นเหมือนการตอกย้ำถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง และทำให้ผมกลับมานั่งทบทวนตัวเองมากขึ้น ประสบการณ์จากผู้สอนที่รับช่วงธุรกิจที่บ้านเหมือนเราล้วนเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถหาความรู้ภายนอกได้เลย ข้อมูลพวกนี้สามารถนำมาใช้ได้จริง และต่อยอดในการพัฒนาตัวเองได้อย่างดี”
