เมื่อเอ่ยชื่อ “สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” หรือ “พี่ฉอด” เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะผู้หญิงท่านนี้นอกจากจะเป็นผู้บริหารบริษัทธุรกิจด้านบันเทิงชั้นนำของไทยแล้ว เธอยังเป็นนักจัดรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์ ที่มาพร้อมการเป็นที่ปรึกษาหลากหลายเรื่องราวชีวิตให้กับแฟนรายการ และทุกครั้งก็มักจะมี “วลี” เด็ดให้แง่คิดอีกด้วย
คุณสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เช้นจ์ 2561 จำกัด เริ่มต้นเล่าถึงความท้าทายของการเป็นผู้บริหารในยุคปัจจุบันให้ฟังว่า.
“โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปไวมาก โดยเฉพาะความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างไว ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เองก็เรียกว่าเป็นโจทย์สำคัญของโลกใบนี้เช่นกัน ยิ่งพอเราเป็นผู้บริหารและผู้นำขององค์กรด้วย หากเราไม่สามารถรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้แล้ว เราก็จะกลายเป็นคนที่ถอยหลังไปเรื่อยๆ ซึ่งพี่ว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคนเป็นผู้บริหารในวันนี้”
เช่นเดียวกับบทบาทของความเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรด้วยแล้ว “ในมุมส่วนตัวของพี่ไม่เคยรู้สึกว่าการเป็นผู้หญิงจะด้อยกว่าผู้ชาย ตรงไหน ซึ่งอาจเป็นเพราะสังคมที่พี่อยู่ อาชีพที่พี่ทำไม่เคยมีการแบ่งแยกเรื่องเพศว่าเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ยิ่งวันนี้เราก็ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงหรือผู้ชายอยู่ในสังคมเท่านั้น แต่ยังมีเพศอื่นๆ อยู่ร่วมกันด้วย พี่เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าการเป็นผู้หญิงจะต้องคิดอะไร หรือต้องกลัวการไม่ได้รับการยอมรับ เพราะผู้หญิงทุกคนก็มีความสามารถและเก่งได้เหมือนกัน”
พี่ฉอดยังบอกด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คนทุกคนต่างมีข้อดีและข้อเสีย “นั่นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเลย ผู้หญิงบางคนตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำก็มีเยอะ ส่วนตัวพี่ไม่ค่อยรู้สึกว่าเรื่องเพศสภาพจะมีผลต่อการเติบโตในอาชีพ แต่อยู่ที่วิธีคิดของแต่ละคนมากกว่า โดยส่วนตัวของพี่ ปกติแล้วจะเป็นคนที่ไม่ได้มองอะไรไกลตัวมาก จะรู้สึกแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้น”
หรือแม้แต่เป้าหมายของการทำงาน พี่ฉอดก็เป็นผู้บริหารอีกท่านที่มีวิธีคิดที่แตกต่างออกไป “พี่ไม่ได้เป็นคนที่คาดหวังอะไรไกลๆ ยิ่งมาถึงวันนี้แล้วก็รู้สึกว่าทำอะไรมาเกือบหมดแล้ว ส่วนวันนี้อยากทำอะไรอีก ถ้าถามในเรื่องของงาน เช่นละครก็จะอยากทำแบบนั้น หรือทำคอนเสิร์ตก็จะอยากทำของคนนั้นคนนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของเป้าหมายระยะสั้นๆ ส่วนจะมองไปยาวๆ ตอนนี้ยังไม่มี เพราะเรายังแฮปปี้ดีกับสิ่งที่ทำวันนี้ พี่ว่านี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดนะ”
ส่วนหากให้เปรียบ CHANGE2561 เป็นผู้หญิงแบบไหนนั้น พี่ฉอดย้ำว่าก็คงต้องเป็นผู้หญิงกลางเก่ากลางใหม่ “เป็น ผู้หญิงที่บังเอิญเกิดมาในหลายยุคหลายสมัย เลยทำให้สามารถบาลานซ์ได้ถึงข้อดีข้อเสียของยุคสมัย ซึ่งพี่ไม่ได้อยากเป็น CHANGE2561 ที่ทันสมัยเปรี้ยวปรี๊ด และอยู่กับวันนี้อย่างเดียว เพราะรู้สึกว่าอดีตก็เป็นเรื่องที่มีคุณค่า และ CHANGE2561 ก็เป็นผู้หญิงซึ่งมีโอกาสได้เห็นและสัมผัสช่วงเวลาที่ผ่านมาในแต่ละช่วง แล้วสนุกกับแต่ละช่วงเวลา เก็บเรื่องของอดีตไว้ เป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียน แล้วก็พร้อมที่จะเดินไปข้างหน้า หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง และมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่”
สำหรับภาพของ CHANGE2561 ในอนาคต “เราวางให้บริษัทของเราเป็น Content Provider และ Content Creator ที่เราก็หวังว่าจะก้าวเดินไปเรื่อยๆ ในทิศทางตามแบบของเรา มีโอกาสได้สร้างสรรค์งานใหม่ๆ หรืองานที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอย่างวันนี้ที่เรามีโอกาสได้รู้ ได้เห็น และได้รู้จักกับงานระดับโลกที่กว้างขึ้น ซึ่งเราแอบรู้สึกว่าจะมีสักวันหนึ่งที่ละครและซีรีส์ของเราจะมีโอกาสก้าวไปไกลเหมือนเกาหลี แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็ยังอยากสนุกกับสิ่งที่ทำ เพราะพี่เป็นคนที่เชื่ออย่างหนึ่งว่างานของเราเป็นงานที่ทำให้คนมีความสุขและสนุก หากคนทำไม่สนุก ไม่มีความสุข เราก็จะทำให้คนอื่นมีความสุขไม่ได้ ดังนั้นงานที่พี่เลือกทำจะเป็นงานที่เรามีความสุขที่จะทำ อะไรที่ไม่อยากทำก็จะไม่เข้าไปยุ่งเลย” ซีอีโอ CHANGE2561 กล่าวทิ้งท้าย
