นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ในฐานะ Digital Life Service Provider นอกเหนือจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนความแข็งแกร่งของทุกอุตสาหกรรม และยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของทุกภาคส่วนแล้ว เรายังเชื่อมั่นในเรื่องของ Digital Partnership
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เอไอเอส เป็น Telecom Operator รายแรกของไทย ที่มีวิสัยทัศน์ในการสนับสนุน สร้างเวทีให้แก่ Startups กลายเป็นบทพิสูจน์ในระดับหนึ่งว่า ไอเดียจาก Startups เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการสร้างนวัตกรรมการบริการรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในสังคมอย่างชัดเจน
โดยจุดยืนในการทำงานกับ Startups คือ การร่วมกันทำงานภายใต้พลังจากคู่คิด (Digital Partnership) ที่จะอยู่เคียงข้าง สนับสนุนไม่ให้ SMEs และ Startups ต้องทำงานเพียงลำพัง หากแต่ใช้ศักยภาพทั้งจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม องค์ความรู้ ทั้งของ AIS และในกลุ่ม
Singtel รวมถึงการเชื่อมต่อกับกลุ่มพันธมิตรภายนอก และกลุ่มนักลงทุน เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน เสริมขีดความสามารถรอบด้านของกลุ่ม Startups เพื่อให้พร้อมที่จะแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการทำงานร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการเป็นหนึ่งในพันธมิตรของ LiVE Platform ในส่วนของ Scaling Up Platform ที่มุ่งเน้นสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ และการเตรียมความพร้อมในการระดมทุนของ SMEs และ Startups จัดให้มีหลักสูตรการอบรมเชิงลึกระบบงานที่สำคัญ การจัดให้มีการจับคู่ทางธุรกิจและให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่ง AIS ได้ระดมทีมผู้บริหารมาร่วมส่งมอบองค์ความรู้ เพื่อให้ SMEs และ Startups สร้างความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดทุน
ด้าน นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้พัฒนา LiVE Platform ขึ้นซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเตรียมความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและยกระดับศักยภาพ SMEs และ Startups ไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ผ่านความร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานพันธมิตร AIS เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จะช่วยปลดล็อคและขยายโอกาสของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ระหว่างการพัฒนา LiVE Exchange เป็นตลาดรองสำหรับ SMEs และ Startups คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565
โดยความร่วมมือกับ เอไอเอส ใน LiVE Platform ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1) การพัฒนาสื่อเรียนรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ในองค์ความรู้ที่เหมาะกับการแข่งขันทางธุรกิจ อาทิ โอกาสของธุรกิจในยุค 5G , ความสำคัญของภัยไซเบอร์, Cloud , การสร้าง Brand / การพัฒนาสินค้าและบริการในยุค Digital, Leadership ในโลกยุค Digital, การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล
2) การสร้างโอกาสในการเติบโตของผู้ประกอบการผ่านการเจรจาธุรกิจ ที่จะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ หรือ Business Matching พร้อมความรู้เกี่ยวกับระบบงานที่สำคัญ หรือ Enterprise system ตลอดปี 2565
โดยผู้ประกอบการ SMEs และ Startups สามารถเข้าร่วมเรียนรู้ใน LiVE Platform ได้แล้วทาง https://www.live-platforms.com/
สั่งจองนิตยสาร Howe ฉบับที่ 104 ฉบับเดือนพฤศจิกายน โดยไม่ต้องรอหาตามแผงได้ที่