“ลูกคือสมบัติอันล้ำค่า” เปิดใจคุณแม่นักธุรกิจหมื่นล้าน น้ำผึ้ง – จารุวรรณ โชติเทวัญ ในมุมแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่พร้อมผลักดัน ญาร่า – ธันยพัต ลูกสาวคนเดียว เติบโตอย่างมีคุณภาพ

0
554

“น้ำผึ้ง เติบโตและโดนโคลนนิงจาก คุณพ่อ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ และคุณแม่ ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ ตั้งแต่เด็กว่าจะต้องกลับมาช่วยสืบสานธุรกิจและบริหารจสหฟาร์มหลังเรียนจบ จึงไม่ได้มีความฝันส่วนตัวว่าอยากจะทำอะไรเป็นพิเศษ เพราะเราเห็นคุณพ่อและคุณแม่เป็น Role Model ในการเป็นนักธุรกิจ จึงทำให้เรามีเป้าหมายตั้งแต่เด็กที่อยากเป็น Successful business women แต่ขณะที่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สไตล์การเลี้ยงลูกจึงแตกต่างกันเพราะเขาเป็นกลุ่มคนเจนใหม่ที่คิดต่าง เราจึงต้องทำความเข้าใจ เปิดใจเพื่อเติมเต็มช่องว่าง จุดนี้จึงทำให้น้ำผึ้งไม่ปิดกั้นไอเดีย ญาร่า – ธันยพัต ภักดีมงคลโรจน์ ลูกสาวคนเดียวของน้ำผึ้ง หากเขาสนใจอะไรก็จะสนับสนุน แต่ตอนนี้ลูกสาวเห็นแม่เป็นไอดอล จึงบอกว่าโตขึ้นอยากทำงานเหมือนแม่” นักธุรกิจสาวหมื่นล้านแห่งยักษ์ใหญ่สหฟาร์ม น้ำผึ้ง – จารุวรรณ โชติเทวัญ กล่าวอย่างอารมณ์ดี เมื่อได้มีโอกาสพูดคุยถึงบทบาทแม่เลี้ยงเดี่ยวยุคใหม่

              น้ำผึ้ง – จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายบัญชี การเงิน การตลาดต่างประเทศ และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร เล่าให้ฟังถึงบทบาทการเป็นคุณแม่ที่ต้องดูแลลูกในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น ให้แข็งแกร่งและให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยงานที่ล้นถาโถมและต้องรับผิดชอบ แต่เราจะสามารถทำได้ด้วยการจัดสรรเวลา ลำดับความสำคัญต่างๆ ให้ถูกต้องเพื่ออนาคตของลูก

พราะเวลาคือสิ่งสำคัญ และทุกคนมีเท่ากัน จึงอยากใช้ทุกโอกาสที่มีทำให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ

          ปกติน้ำผึ้งชื่นชอบที่จะดูแลตัวเอง ดังนั้นหากมีเวลาว่างก็จะมีไปออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น โยคะ พิลาทิส ต่อยมวย แต่ในบางช่วงก็จะมีขาดหายไปบ้างเนื่องจากมีงานเข้ามาให้บริหารจัดการตลอด ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ให้ความสำคัญคือการบริหารจัดการเวลา เพราะน้ำผึ้งคิดว่าทุกคนมีเวลาเท่ากัน และเวลาคือสิ่งสำคัญที่จะกำหนดคุณภาพชีวิตของเราหากเราจัดสรรอย่างถูกต้อง สำหรับในมุมของการเลี้ยงลูกน้ำผึ้งจึงมองว่า การให้เวลาคุณภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญแก่ลูกมากที่สุด เพราะลูกคือของขวัญ และสมบัติอันล้ำค่า ดังนั้นกิจกรรมต่างๆ ที่ทำก็ต้องสามารถเชื่อมต่อความรักความเข้าใจของครอบครัวได้ อย่างก่อนหน้านี้ที่ส่งลูกไปร่วมทำกิจกรรม ISV Club จิตอาสาของค่ายเสถียรธรรมสถาน ก็มีสิ่งหนึ่งที่เราสองคนได้กลับมาคือคำตอบในใจของแม่ลูกที่มีเหมือนกัน เช่น ที่ค่ายก็มีคำถามกลับมาเป็นการบ้านให้เราในฐานะที่เราเป็นแม่ ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงเพื่อลูกได้คืออะไร ซึ่งน้ำผึ้งได้ทบทวนและมีคำตอบในใจ ว่าเราควรมีเวลาให้ลูก และพอกลับมาถึงบ้านน้ำผึ้งก็ลองถามญาร่าว่า แม่ต้องปรับปรุงอะไรเพื่อลูก และสิ่งที่ลูกบอกกลับมาคือ ต้องการเวลาจากเรา จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเราสองคนแม่ลูกคิดตรงกัน และพร้อมจะปรับเข้าหาลูก ซึ่งช่วงที่ใช้เวลาร่วมกัน ญาร่าจะชื่นชอบให้น้ำผึ้งเล่าถึงเรื่องราว ประสบการณ์ต่างๆ จากมุมของแม่ เพราะเขาจะได้แง่คิดกับสิ่งที่น้ำผึ้งเล่าเสมอ

เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และรู้จักเอาตัวรอด

            ปกติญาร่าจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างเก็บตัว พูดน้อยเรียบร้อยและขี้อาย ดังนั้นกิจกรรมต่างๆ ที่น้ำผึ้งคัดสรรมาให้ญาร่าได้ลองทำจะเป็นกิจกรรมที่ฝึกให้มีความอดทน พัฒนาการเรียนรู้ ได้พบปะพูดคุยกับผู้คนใหม่ๆ รวมทั้งกิจกรรมที่พัฒนาสกิลในการดำรงชีวิต การทำงานบ้านต่างๆ อย่างค่ายจิตอาสาเสถียรธรรมสถาน ถ้าให้ญาร่าไปเองคงไม่อยากไป แต่น้ำผึ้งจะผลักดันลูก เราจะให้กำลังใจเขาและบอกว่าดีอย่างไร เพราะเราต้องการฝึกและเตรียมความพร้อมให้แก่ลูกก่อนออกไปสำรวจโลกภายนอก โดยซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้ ทางโรงเรียนก็จะมีจัดค่ายให้นักเรียนไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลูกก็ต้องเดินทางคนเดียวโดยไม่มีเรา แต่เรามีการปูพื้นฐานต่างๆ ไว้แล้วทำให้คลายความกังวลได้บ้าง

ระมัดระวังปัจจัยภายนอกและภายในที่อาจกระทบการเลี้ยงลูก

             สิ่งที่กังวลอยู่บ้างในตอนนี้คือ เรื่องการเล่นเกมและใช้สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับลูกในวัยรุ่น เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหลังหน้าจอนี้คือใคร ทุกคนสามารถเป็นใครก็ได้และจะมีอีกตัวตนนึงบนโซเชียลมีเดีย ดังนั้นเวลาที่ลูกใช้โซเชียลมีเดียจึงให้คำแนะนำเสมอว่า ให้ระวังมากๆ อย่าไว้ใจใครหรือบอกข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว และให้ใช้เวลามีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างในโลกชีวิตจริง น้ำผึ้งจะพยายามปรับโฟกัสเขา อย่างวันเสาร์ อาทิตย์ ก็จะให้เขาทำกิจกรรมต่างๆ ดึงเขาออกจากโลกออนไลน์ นอกจากนี้การเลือกคบเพื่อนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ‘คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล’ อย่างการเลือกคบเพื่อนน้ำผึ้งก็จะแนะนำลูก และช่วยสแกนบ้าง

         เพราะญาร่าเป็นลูกผู้หญิงคนเดียว ตอนนี้อายุเพียง 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ดังนั้นจะต้องระมัดระวังตัว และเคารพตัวเอง รู้เท่าทันอารมณ์และฮอร์โมนของตัวเอง โดยน้ำผึ้งจะอธิบายให้เขาฟังเสมอว่าในบางครั้ง เราอาจไม่ได้จู้จี้ แต่เป็นระดับฮอร์โมนวัยรุ่นที่จะรู้สึกว่าผู้ใหญ่พูดอะไรก็ขัดใจไปหมด ดังนั้นในส่วนนี้ญาร่าจะต้องมีสติ และรู้จักตัวเองให้มากๆ

          สำหรับในด้านอาหารการกินก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะลูกกำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต และน้ำผึ้งให้ความสำคัญกับส่วนสูงของญาร่า เพราะมีข้อดีในหลายๆ อย่าง ดังนั้นจึงพาเขาไปปรึกษาหมอ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เป็นเวลา นอนก่อน 3 ทุ่ม เพราะโกรทฮอร์โมนจะผลิตในขณะที่กำลังนอนหลับ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อสัตว์เลือกไก่พอลดีย์ ที่ไม่ใช้สารเร่งการเจริญเติบโต ปลอดภัย ซึ่งเราในฐานะผู้ผลิตก็มั่นใจ

            ด้านลูกสาวแสนสวย น้องญาร่า – ธันยพัต ก็เต็มไปด้วยความในใจอยากจะบอกคุณแม่เช่นกัน  ญาร่า  บอกว่า เป็นห่วงคุณแม่ และอยากให้คุณแม่ทำงานน้อยลง เพราะคุณแม่ทำงานทุกวันเหนื่อยมาก ทุกครั้งที่เห็นคุณแม่กลับบ้านมาก็จะหอบงานกลับมาทำต่อเสมอ ซึ่งสิ่งที่ญาร่าทำเพื่อคุณแม่ได้เวลากลับมาจากทำงานก็จะคอยอยู่ข้างๆ หากคุณแม่อยากให้ทำอะไร ญาร่าก็จะพยายามทำทุกสิ่งที่คุณแม่ต้องการ ไม่อยากให้คุณแม่เสียใจ เพราะญาร่ามีคุณแม่คนเดียวและรู้ว่าคุณแม่รักและเสียสละเพื่อญาร่ามากแค่ไหน สำหรับสิ่งที่ญาร่าอยากขอจากคุณแม่ ก็เพียงแค่อยากออกไปเที่ยวกับคุณแม่อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

           “คุณพ่อย้ำเสมอว่าการที่น้ำผึ้งประสบความสำเร็จมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เพราะพ่อที่อยากให้มาอยู่ในจุดนี้ แต่มันเป็นสิ่งที่สวรรค์ให้มา และตอนนี้น้ำผึ้งข้ามเส้นขนานที่ 38 ได้สำเร็จ” ปรัชญาจากคุณพ่อที่น้ำผึ้งได้มาในช่วงวัย 40 ซึ่งบนความภาคภูมิใจนี้ น้ำผึ้งตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้ลูกสามารถประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับน้ำผึ้งนี้ได้ในวัย 30 ซึ่งจะต้องเร็วกว่าน้ำผึ้งสิบปี ทั้งนี้การเป็นต้นแบบที่ดีขอคุณพ่อคุณแม่ส่งผ่านมายังน้ำผึ้ง ทำให้เราอยากจะเป็นอย่างแบบที่ดีและมั่นคงให้กับลูกสาวด้วยเช่นกัน

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.