ซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) เผยภาพรวมความสำเร็จในปี 2566 ที่มีการเติบโตตามเป้า หลังดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Fresh Premium Quality” ตอกย้ำความเป็นตัวจริงด้านอาหารตะวันที่ส่งมอบความสดใหม่และความพรีเมียม ที่เสิร์ฟบนกะทะร้อนเพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การส่งมอบความสดใหม่ ความพรีเมียม และคุณภาพ ผ่านการนำเสนอเมนูอาหารใหม่ ๆ และกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดความสำเร็จในปี 2567 ภายใต้แนวคิด “Over 66 Years of Sizzling Experience” นับตั้งแต่วันแรกที่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยการเดินหน้าเป็นผู้นำประสบการณ์ด้านอาหารตะวันตกในประเทศ ประเดิมด้วยการเปิดตัว 3 เมนูสเต๊กพรีเมียมในสไตล์อเมริกันแท้ในรูปแบบบาร์บีคิว ได้แก่ บาร์บีคิวเนื้อ & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส บาร์บีคิวหมู & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส และบาร์บีคิวปลากะพง และกุ้งลายเสือ & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส มาพร้อม 3 เมนูเครื่องดื่มใหม่ต้อนรับหน้าร้อน ได้แก่ ช็อกโกแลต บราวนี่ มิลค์เชค แบล็กฟอเรสต์ มิลค์เชค และซอล์ทเท็ด คาราเมล มิลค์เชค ควบคู่กับนำเมนูยอดฮิตกลับมาให้บริการอีกครั้ง พร้อมยกระดับเพิ่มความคุ้มค่าทั้งในด้านคุณภาพและราคา การเพิ่มเติมเมนูใหม่ในเล่ม และการมอบสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกเพิ่ม ทั้งหมดนี้เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเดิมและผู้บริโภคหน้าใหม่พร้อมเพิ่มความถี่ในการกลับมาใช้บริการ โดยคาดการณ์ว่าจะช่วยสร้างการเติบโตในปี 2567 ได้เป็นไปตามเป้า ย้ำภาพการเป็นร้านสเต๊กและสลัดบาร์อันดับ 1 ของไทยที่ส่งมอบประสบการ์ณที่ดีมัดใจผู้บริโภคทุกคน
นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2566 ของซิซซ์เล่อร์ที่ผ่านมาที่มีการเติบโตจากฐานลูกค้าไดน์อินที่เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบจากปี 2565 อันเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ส่งมอบความสดใหม่ ความพรีเมียม และคุณภาพ ผ่านเมนูสเต๊กในโอกาสสำคัญ อาทิ วันเด็ก วันแม่ วันพ่อ และวันขึ้นปีใหม่ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้บริโภคผ่านแคมเปญพิเศษอย่าง Cheese toast month การตอกย้ำความเป็นมาสเตอร์ตัวจริงเรื่องสเต๊กผ่านเมนู Sizzling ซีรีส์ต่าง ๆ ทั้ง The New Sizzling Experience, Sizzling Thai Experiences และ The New Sizzling Selected #CUTSที่ใช่ใครก็ชอบ ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและสามารถกระตุ้นยอดขายเมนูสเต๊ก พร้อมเพิ่มจำนวนผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการหน้าร้านได้มากขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2566 อีกทั้งการพัฒนาลอยัลตี้โปรแกรม ด้วยการมอบสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์สมาชิกแต่ละกลุ่ม ช่วยเพิ่มความถี่ในการกลับมาใช้บริการแบบไดน์อิน พร้อมเพิ่มจำนวนสมาชิกมากขึ้นเป็น 2 เท่า ส่งผลให้สิ้นปี 2566 ซิซซ์เล่อร์มีจำนวนสมาชิกอยู่มากกว่า 500,000 ราย ตลอดจนการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ โดยที่ผ่านมามีการขยายสาขาเพิ่ม 5 สาขา ประกอบด้วย สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา สาขาพาร์ค สีลม สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ สาขาเซ็นทรัล สมุย และเซ็นทรัล นครปฐม ที่เป็นสาขาเปิดใหม่ล่าสุดเมื่อต้นปี 2567 ทำให้ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มีสาขารวมกว่า 64 สาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ซิซซ์เล่อร์ได้จับมือร่วมกับพันธมิตรอย่างบริษัท โกลด์ซัน กรุ๊ป จำกัดในการเปิดสาขาแรกที่ประเทศเวียดนาม พร้อมวางแผนผลักดันสู่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคต่อไป
ในขณะที่ทิศทางของปี 2567 ซิซซ์เล่อร์ ตั้งเป้าเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์ “Extraordinary Experience”ผ่านการดำเนินกลยุทธ์รอบด้าน ทั้งการพัฒนาเมนูพรีเมียมสเต๊กใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเพิ่ม การนำเมนูสุดคุ้มกลับมาให้บริการเพื่อเพิ่มยอดผู้บริโภคแบบไดน์อิน อาทิ เมนูซี่โครงหมูบาร์บีคิว และเมนูสเต๊กเนื้อนิวยอร์คที่มีการเพิ่มปริมาณในราคาปกติ การเพิ่มเติมเมนูของหวาน และเมนูบรันช์ในเล่ม การปรับเมนูสเต๊ก Sizzling ซีรีส์ในราคาสุดคุ้มค่า การพัฒนาเมนูสลัดบาร์ในคอนเซปต์ใหม่ตามฤดูกาล ด้วยการนำเอาผลไม้ยอดนิยมตามฤดูกาลมาทำเป็นเมนูสลัดบาร์ ตลอดจนการพัฒนา ลอยัลตี้โปรแกรม หรือระบบสมาชิก มอบสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่และเน้นกระตุ้นการมาใช้บริการ เป็นต้น
สำหรับปี 2567 จะเป็นปีแห่งการพาผู้บริโภคท่องเที่ยวไปยังประเทศโลกตะวันตก ผ่านอาหารจานเด็ดที่เป็นซิกเนเจอร์ของแต่ละประเทศตลอดทั้งปี โดยช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เป็นช่วงที่ประกอบด้วยเทศกาลสำคัญอย่างเทศกาลสงกรานต์ ที่ผู้บริโภคนิยมมองหาร้านอาหารเพื่อเฉลิมฉลอง ซิซซ์เล่อร์จึงเดินหน้าสร้างการเติบโตผ่านเมนูใหม่ภายใต้ธีม The New Sizzling USA BBQ เมนูพรีเมียมในรูปแบบบาร์บีคิวเสียบไม้ และไก่ทอดราดซอสซิกเนเจอร์ตามแบบฉบับอเมริกันแท้ ที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การรับประทานรูปแบบใหม่ในสไตล์อเมริกัน ที่เป็นต้นกำเนิดของซิซซ์เล่อร์ ประกอบด้วย
- บาร์บีคิวเนื้อ & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส (SIZZLING BEEF SKEWERS & BUFFALO WINGS WITH RANCH SAUCE) บาร์บีคิวเนื้อวัวคุณภาพดีนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย หมักซอสบาร์บีคิวรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ย่างจนได้ที่ เสิร์ฟบนจานกระทะร้อน พร้อมซอสบาร์บีคิวเข้มข้นสูตร
ซิซซ์เล่อร์ ทานคู่กับปีกไก่บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส ในราคาจานละ 649 บาท (ปกติ 799 บาท) - บาร์บีคิวหมู & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส (SIZZLING PORK SKEWERS & BUFFALO WINGS WITH RANCH SAUCE) บาร์บีคิวหมูหั่นชิ้นพอดีคำ หมักด้วยซอสบาร์บีคิวรสชาติกลมกล่อมสูตรซิซซ์เล่อร์
เสียบไม้ย่างจนเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟบนกระทะร้อน พร้อมซอสบาร์บีคิว และ ปีกไก่บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส
ในราคาจานละ 599 บาท (ปกติ 749 บาท) - บาร์บีคิวปลากะพง และกุ้งลายเสือ & บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส (SIZZLING SEA BASS & TIGER PRAWN SKEWERS & BUFFALO WINGS WITH RANCH SAUCE) ทางเลือกสำหรับคนรักอาหารทะเลและชอบรสชาติสไตล์อเมริกัน ด้วยบาร์บีคิวปลากะพงและกุ้งลายเสือคัดสรรคุณภาพดี หมักด้วย
ซอสบาร์บีคิวรสชาติเข้มข้นสูตรซิซซ์เล่อร์ เสียบไม้ย่างจนได้ระดับความสุกแบบพอดีจนได้รสหวานของ
เนื้อปลาและกุ้ง เสิร์ฟบนกระทะร้อนพร้อมซอสบาร์บีคิว และ ปีกไก่บัฟฟาโลวิงส์แรนช์ซอส ในราคา
จานละ 599 บาท (ปกติ 749 บาท)
โดยในทุกการสั่งเมนูจานหลัก The New Sizzling USA BBQ ผู้บริโภคจะได้รับสิทธิ์ทานฟรีบุฟเฟต์สลัดบาร์ที่มีให้เลือกรับประทานได้ตามชอบมากกว่า 50 รายการ จำนวน 1 ท่านต่อเมนูอีกด้วย นอกจากเมนูอาหาร ซิซซ์เล่อร์ยังมี 3 เมนูเครื่องดื่มใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ ในราคาเพียงแก้วละ 129 บาท (ปกติ 199 บาท) ประกอบด้วย
- ช็อกโกแลต บราวนี่ มิลค์เชค (Chocolate Brownie Milkshake) ที่ให้สัมผัสความละมุนมาพร้อมรสชาติหวานมัน หอมช็อกโกแลต และความหนึบหนับจากชิ้นบราวนี่ที่ออนท็อปบนวิปครีม และเชอร์รี่หวานกรอบ
- แบล็กฟอเรสต์ มิลค์เชค (Black Forest Milkshake) เมนูเครื่องดื่มคลาสสิกที่ให้ความหวานอมเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รี ผสมผสานกับความเข้มข้นของช็อกโกแลต ทานคู่กับบราวนี่และวิปครีมสุดละมุน
เติมเต็มความสดชื่นควบคู่ได้ในทุกมื้อ - ซอลท์เท็ด คาราเมล มิลค์เชค (Salted Caramel Milkshake) เมนูเครื่องดื่มที่จะสร้างประสบการณ์
ที่แสนพิเศษสำหรับคนรักของหวาน ด้วยการผสมผสานระหว่างความหวานหอมจากคาราเมล
ที่มาพร้อมรสเค็มอ่อน ๆ ให้สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น ราดด้วยซอสคาราเมล เพิ่มรสชาติหวานมัน ทานคู่ท็อปปิ้งอย่างวิปครีมโรยด้วยขนมปังกรอบ เวเฟอร์ และเชอร์รี่ อีกหนึ่งทางเลือกพิเศษ ทานง่ายได้ความสดชื่นลงตัว
“จากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว ซิซซ์เล่อร์เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างเติบโตได้ตามเป้าหมายทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเมนูสเต๊กพรีเมียมใหม่ต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการที่จะส่งมอบประสบการณ์รับประทานอาหารที่พิเศษและประทับใจ เพื่อตอกย้ำการเป็นตัวจริงเรื่องสเต๊กและการเป็นผู้นำประสบการณ์ด้านอาหารตะวันตกที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคคนไทยและต่างชาติในทุกโอกาส” นายอนิรุทร์ กล่าวทิ้งท้าย