เติมสีสันความสนุกให้การแต่งตัวในทุกวันด้วยเรือนเวลาดีไซน์ล่าสุดจาก “ทิสโซต์” (Tissot) คอลเลกชัน “Tissot PRX Powermatic 80 40mm” ประจำปี 2024 ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดหลากสีสันในตัวเรือนดีไซน์สุดคลาสสิก

0
116

พร้อมให้เหล่าหนุ่มสาวได้สนุกสนานกับการมิกซ์แอนด์แมทช์เรือนเวลาเข้ากับการแต่งตัวอย่างมีสไตล์ ด้วยเรือนเวลาดีไซน์ล่าสุดจาก “ทิสโซต์” (Tissot) ที่เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในคอลเลกชัน “พีอาร์เอ็กซ์ พาวเวอร์เมติก 80 40มม” (PRX Powermatic 80 40mm) ประจำปี 2024 ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิก ที่มาพร้อมกับหน้าปัดหลากสีสันที่จะช่วยเติมเต็มลุคการแต่งตัวให้ดูโดดเด่นในทุกๆ วัน

“ทิสโซต์” (Tissot) แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1853 โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 170 ปี ด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญ ในการสร้างสรรค์นาฬิกาประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่ความทันสมัยอย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้การยอมรับในแวดวงกีฬา ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเทคโนโลยี ระบบจับเวลาด้านความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด

สำหรับคอลเลกชัน “พีอาร์เอ็กซ์ พาวเวอร์เมติก 80 40มม” (PRX Powermatic 80 40mm) ประจำปี 2024 ทาง “ทิสโซต์” (Tissot) ได้นำคอลเลกชัน “พีอาร์เอ็กซ์” (PRX) เรือนเวลายอดนิยมจากปี ค.ศ. 1978 มาตีความใหม่ โดยเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยสีสันที่สดใส รวมถึงการใช้วัสดุอันทันสมัยที่ผสมผสานเข้ากับเรือนเวลาดีไซน์สไตล์วินเทจได้อย่างลงตัว เหมาะกับหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบแต่แฝงไปด้วยลูกเล่นของความสนุกที่น่าจับตามอง

โดยนาฬิกาดีไซน์ใหม่นี้มีความโดดเด่นทั้งวัสดุและสีสันของหน้าปัดที่หลากหลาย รวมถึงขนาดของตัวเรือนที่แตกต่างกัน นำโดยเรือนไฮไลท์ 2 รุ่น ที่ตกแต่งหน้าปัดไล่โทนสี (Gradient) จะมาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 40 มิลลิเมตร ที่มีหน้าปัด 2 แบบ คือหน้าปัดสีฟ้าไอซ์บลูเป็นสีน้ำเงินเมทัลลิกสะท้อนแสงชวนระลึกถึงสีของท้องฟ้าในยามรุ่งอรุณ และหน้าปัดไล่จากสีดำเข้มเป็นสีน้ำเงินเมทัลลิกสะท้อนแสงอย่างสวยงามชวนให้นึกถึงช่วงเวลาพลบค่ำ ต่อมาที่รุ่นหน้าปัดโทนสีเขียวมิ้นท์สดใส มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีล 2 ขนาด ได้แก่ 40 มิลลิเมตรและ 35 มิลลิเมตร ซึ่งทั้งรุ่นหน้าปัดไล่โทนสี (Gradient) และหน้าปัดสีเขียวมิ้นท์ จะมีรายละเอียดบนหน้าปัดที่เหมือนกันคือ ได้รับการตกแต่งลวดลายตารางแบบวาฟเฟิลที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชันนี้ มีช่องหน้าต่างบอกวันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติพาวเวอร์เมติก 80 (Powermatic 80) ที่สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง พร้อมเสริมความแข็งแรงด้วยบาลานซ์สปริงนิวาครอง (Nivachron™) บริเวณฝาครอบด้านหลังเป็นแบบซีทรูที่สามารถมองเห็นกลไกการทำงาน ส่วนตัวเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและนาทีถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยในการอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือแสงน้อย และความสามารถในการกันน้ำลึก 100 เมตร เข้าคู่กับสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิกได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้ด้วยตนเอง

ต่อมาที่รุ่นตัวเรือนกลไกควอตซ์ ใน 2 สีใหม่ ที่เหมาะสำหรับคนที่มีข้อมือเล็ก ด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 35 มิลลิเมตร โดยตัวเรือนแรกจะมีหน้าปัดสีขาวมุกที่ให้ความแวววาวยามสะท้อนแสง และอีกหนึ่งตัวเรือนจะมีหน้าปัดโทนสีชมพูพาสเทล โดยทั้ง 2 แบบมีรายละเอียดที่เหมือนกันคือ ช่องหน้าต่างแสดงวันที่บริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา มีเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีแบบบาตอง พร้อมขีดบอกเวลาเคลือบวัสดุเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ EOL ช่วยรับประกันความเที่ยงตรงและอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นพิเศษ โดยมีตัวแสดง EOL ซึ่งจะแจ้งเตือนผู้สวมใส่เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด มีความสามารถในการกันน้ำลึก 100 เมตร เข้าคู่กับสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลข้อต่อเดี่ยว พร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ด้วยตัวคุณเอง

ปิดท้ายรุ่นเรือนเวลาสุดไฮเทคในขนาดตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ผลิตจากฟอร์จคาร์บอนสีดำ ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติสุดพิเศษ คือให้ความแข็งแรงทนทาน แต่ทว่ามีน้ำหนักที่เบาสบาย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางกลางแจ้งที่ต้องการเรือนเวลาในรูปลักษณ์สปอร์ต เน้นความแข็งทนทาน โดยมีรายละเอียดการตกแต่งหน้าปัดด้วยลวดลายหินอ่อนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฟอร์จคาร์บอน (Forged Carbon) เพิ่มช่องหน้าต่างแสดงวันที่บริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา ด้านเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและนาทีถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยในการอ่านเวลาในที่แสงน้อย ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติพาวเวอร์เมติก 80 (Powermatic 80) ที่สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน (Silicon) เสริมความแข็งแรงทนทาน ซึ่งมีความสามารถในการกันน้ำลึก 100 เมตร เข้าคู่กับสายนาฬิกายางโทนสีดำที่ให้ความคล่องตัวเมื่อสวมใส่ อีกทั้งยังดูแลง่ายและสามารถถอดเปลี่ยนสายได้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้ทาง “ทิสโซต์” (Tissot) ยังได้แนะนำเคล็ดลับการเลือกเรือนเวลาหลากหลายสีสันพร้อมวิธีมิกซ์แอนด์แมทช์เพื่อเสริมลุคในแต่ละโอกาส เริ่มที่ ลุควันทำงาน ในชุดสูททางการหรือกางเกงสแลคแมทช์กับเสื้อเชิ้ตสีสุภาพ เรือนเวลาดีไซน์คลาสสิกที่มีตัวเรือนสแตนเลสสตีลก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยเสริมลุคที่ดูภูมิฐาน มีความน่าเชื่อถือ โดยอาจจะเลือกลูกเล่นหน้าปัดที่มีสีสันในโทนสีน้ำเงินหรือสีฟ้า ไล่โทนสีที่มีความสุภาพไม่เด่นจนเกินไป

ต่อมาที่ ลุควันท่องเที่ยว สีสันของนาฬิกาที่เป็นโทนสีเดียวกันกับสีของเสื้อผ้าหรือรองเท้าจะช่วยเสริมลุคให้ดูมีความสดใสมากขึ้น อย่างสีฟ้า, เขียวมิ้นท์, หรือสีชมพู โทนสีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและสดใส เหมาะสำหรับวันท่องเที่ยวที่ต้องการเพิ่มสีสันให้กับลุคดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ปิดท้ายที่ ลุคทำกิจกรรมกลางแจ้ง เสื้อยืดที่มีสีสันสวมใส่สบายแมทช์กับกางเกงขาสั้นหรือกางเกงจ็อกเกอร์เน้นความคล่องตัว ควรเลือกเรือนเวลาสวมใส่ที่มีความแข็งแรง ทนทาน พร้อมในทุกสภาพแวดล้อม และต้องมีน้ำหนักที่เบาสบาย อย่างตัวเรือนฟอร์จคาร์บอน (Forged Carbon) เหมาะสมเป็นอย่างมาก ซึ่งโทนสีสันและลวดลายอย่างสีดำหรือเทาก็จะช่วยเสริมลุคให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกเป็นตัวเรือนที่มีสายนาฬิกายางเพื่อความทนทานต่อน้ำและหงื่อได้ด้วย รังสรรค์ลุคให้ดูโดดเด่นในทุกวันด้วยเรือนเวลาคอลเลกชัน “พีอาร์เอ็กซ์ พาวเวอร์เมติก 80 40มม” (PRX Powermatic 80 40mm)  ดีไซน์ใหม่ล่าสุดประจำปี 2024 ได้แล้วที่เคาน์เตอร์ “ทิสโซต์” (Tissot) ทุกสาขาทั่วประเทศไทย

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.