ตั้งแต่โควิด 19 มาเยือน หลายท่านอยู่ในไลฟ์สไตล์ของการ “เวิร์กฟอร์มโฮม” ยาวนานมาสองปี หลายบริษัทปรับนโยบายให้เป็นรูปแบบการทำงานอย่างถาวร บางบริษัทปรับเป็นแบบไฮบริด คือเข้าออฟฟิศบ้าง เวิร์กฟอร์มโฮมบ้าง บ้างคุ้นชินและปรับตัว ชื่นชอบกับการทำงานวิถีนี้ บ้างชื่นชอบที่จะเข้าออฟฟิศมากกว่า อย่างไรคงต้องหาจุดกึ่งกลางให้ลงตัวมากระหว่างพื้นที่งานกับพื้นที่ชีวิตส่วนตัวที่ทับซ้อนกัน
และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ของชีวิตและการงาน ขอนำเสนอ 5 เคล็ดลับช่วยจัดระเบียบไลฟ์สไตล์ ด้วยโลกออนไลน์ ให้ได้ผลงาน
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2022/04/1-ภาพประกอบการประชุม-1024x683.jpg)
ประชุมเท่าที่จำเป็น ทั้งคนที่เกี่ยวข้อง และช่วงเวลา
ตั้งแต่เวิร์คฟอร์มโฮมถูก(บังคับ)ใช้ ในช่วงสองปีก่อน สิ่งหนึ่งที่เพิ่มแบบพุ่งพรวดไม่แพ้จำนวนงานก็คือ “ประชุม” จนกลายเป็นว่าเวลางานมีไว้ประชุม แล้วเอาเวลาหลังเลิกงานมานั่งเคลียร์งานอีกที ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายๆ ประชุมที่เรายิงหากันนั้นเราทำเพื่อ “ยิงเผื่อ” ไว้ก่อน จะได้รู้เท่าๆ กัน ซึ่งจริงๆ แล้วเราในฐานะผู้ถูกเชิญให้ร่วมประชุม สามารถถามถึงวาระ รายละเอียด รวมถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อพิจารณาว่าเรา “จำเป็น” ต้องเข้าประชุมนั้นจริงๆ ไหม แล้วจะพบว่าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของประชุมที่นัดหมาย เราไม่จำเป็นต้องเข้าก็ได้…เอาเวลาไปเคลียร์งานจริงๆ ดีกว่า
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2022/04/2-ภาพประกอบติดต่องานเป็นช่วงเวลา-1024x683.jpg)
ติดต่องานด้วยความเหมาะสม
ในประเทศฝรั่งเศสและไอร์แลนด์มีกฎหมาย “สิทธิในการหยุดเชื่อมต่อ” เพื่อคุ้มครองมนุษย์งานจากการที่ต้องถูกเชื่อมต่อถึงตัวในเรื่องงานตลอดเวลา และกำลังถูกพิจารณาในอีกหลายประเทศ
ดูเหมือนกฎหมายนี้จะมีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่โรคระบาด จึงทำให้กลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง ไม่ว่าจะในฐานะหัวหน้า หรือ ลูกน้อง การติดต่อเรื่องงานที่ควรพิจารณาเรื่องความเหมาะสมทางเวลา
กลายเป็นอีกหัวข้อสำคัญที่มนุษย์งานยุคนี้ต้องหันมาใส่ใจจริงจังสักที เปลี่ยนจากการส่งอีเมล์ดึกดื่นเพราะเป็นช่วงเวลาที่สมองพรั่งพรู เป็นการพิมพ์ draft ไว้แล้วกดส่งในเวลาเช้า หรือลิสต์เรื่องที่จะถามลูกน้องทิ้งไว้
แล้วค่อยส่งข้อความถามพรุ่งนี้ก็ไม่เสียหาย
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2022/04/3-ภาพประกอบการจัดการเวลา-1024x683.jpg)
จัดเวลาการตามงานลูกน้อง และอัปเดตงานหัวหน้า
สืบเนื่องจากข้อก่อนหน้า วิถีการทำงานออนไลน์ที่ลงตัวสามารถสร้างได้ จากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งหัวหน้าและลูกน้อง การส่งข้อความตามงาน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พาลเอาชีวิตออนไลน์ในยุคนี้เต็มไปด้วยความเครียดวิตก
โดยเฉพาะที่เกิดจากการส่งข้อความตามงานตลอดทั้งวัน ซึ่งสามารถปรับจูนได้ด้วยการจัดเวลาอัปเดตงาน ตามงานระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง เป็นช่วงเวลาประจำของทุกวัน เพื่อจะได้ให้ช่วงเวลาที่เหลือของวันสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมารู้สึกวิตกโดยไม่จำเป็น
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2022/04/4-ภาพประกอบการจัดระเบียบโฟลเดอร์บน-LINE-864x1024.jpg)
จัดระเบียบแชตโฟลเดอร์ บนแอปพลิเคชั่น LINE
หลายคนใช้ LINE ในการสนทนาเรื่องงานระหว่างวันในหลายต่อหลายกรุ๊ปที่สร้างขึ้นมาคุยแยกโปรเจกต์ไหนจะกรุ๊ปเรื่องส่วนตัว ไหนจะบัญชีทางการที่เมื่อรวมๆ กันแล้วในแต่ละวันก็ชวนเอาตาลาย เผลอๆ ทำให้พลาดเรื่องสำคัญไป หรือคิดว่าตอบไปแล้วก็มี การจัดแชตโฟลเดอร์ จะช่วยจำแนกและจัดการกรุ๊ปแชตต่างๆ ไม่ให้ตกหล่น โดยสำหรับ LINE บน Desktop สามารถตั้งโฟลเดอร์ใหม่เพื่อจัดระเบียบกรุ๊ป LINE ตามหมวดหมู่เฉพาะตามต้องการได้ที่มุมขวาบนของหน้าแชตหลัก ขณะที่เวอร์ชั่นมือถือก็ปรับการตั้งค่า “เปิดแชตโฟลเดอร์” ได้ที่แท็บ LINE Labs บนหน้าการตั้งค่า เพื่อเปิดใช้งานแท็บจำแนกหมวดหมู่แชตอีกที
![](https://howemagazine.com/wp-content/uploads/2022/04/5-ภาพประกอบการใช้เวลาออฟไลน์-1024x683.jpg)
กำหนดเวลาออฟไลน์อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
เชื่อว่าชีวิตออนไลน์จะดีแบบยั่งยืนได้ (และไม่เจ็บปวดจนเกินไป) จากการที่เราๆ มีชีวิตออฟไลน์ที่ดีเช่นกัน นานแค่ไหนแล้วที่เราต้องหยิบมือถือขึ้นมาเช็คอีเมลหรือข้อความระหว่างพักร้อน หรือช่วงทำกิจกรรมส่วนตัวหลังเลิกงาน การวางมือถือแล้วหันไปโฟกัสกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นกีฬา เล่นกับหมา นวดแมว หรือแม้แต่ช่วงเวลากินข้าวสั้นๆ เป็นช่วงเวลาที่เราสามารถทำ Social Detoxification ได้ไม่ยากเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ในยุคที่ต้องเชื่อมต่อตลอดเวลา ขณะที่เราเองก็สามารถปิดการแจ้งเตือนชั่วคราวในหน้าการตั้งค่าบนแอป LINE ในช่วงเวลาที่เราต้องการพักจากการเชื่อมต่อจริงๆ ก็เป็นอีกช่องทางที่ช่วยได้
เหนือสิ่งอื่นใดความเห็นอกเห็นใจ และเคารพผู้อื่นแม้จะเป็นชีวิตออนไลน์ก็ตามเป็นข้อพื้นฐานที่เราๆ เหล่าชาวพลเมืองดิจิทัลควรคำนึงถึงและหันมาให้ความสำคัญในยุคนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะ “หัวหน้า” หรือ “ลูกน้อง” ก็ต่างเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อน Digital Well-being วิถีชีวิตออนไลน์ที่ลงตัวได้เช่นกัน