ฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษ สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยกับนิทรรศการรวบรวมประวัติศาสตร์ บอกเล่าเรื่องราวอันทรงคุณค่า

0
309

สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยจัดงานแถลงข่าวครบรอบ 20 ปี แห่งความสำเร็จผ่านนิทรรศการ 2 ทศวรรษบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาและเหตุการณ์สำคัญอันเปี่ยมคุณค่า พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งสมาคมฯ ที่หมายยกระดับกีฬาขี่ม้าโปโลไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล  โดยมี กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยนำโดย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, อภิเชษฐ์  ศรีวัฒนประภา, พลอย ปิ่นแสง และชนม์นฤทธ์ โตมงคล นักกีฬาขี่ม้าโปโลดาวรุ่ง ร่วมพูดคุย ณ โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ

กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมขี่ม้าโปโลในไทย ก่อตั้งขึ้นจากความชอบ และหลงใหลในกีฬาขี่ม้าโปโลของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ในปี 2541 และจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลเรื่อยมา จนกระทั่งในปี 2547 ได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทยให้เป็น “สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” โดยในปี นี้ เป็นวาระครบรอบ 20 ปี ผมรู้สึกเป็นเกียรติและประทับใจ ที่สร้างให้คนไทยได้รู้จักกีฬาประเภทนี้มากยิ่งขึ้น  รวมถึงต่างประเทศได้รู้ถึงศักยภาพ และให้การยอมรับว่าเราพร้อมเป็นศูนย์กลางของการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลในเอเชีย  สำหรับเป้าหมายที่สมาคมฯ กำลังเร่งดำเนินการ คือ การพยายามให้กีฬาขี่ม้าโปโลถูกบรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี พ.ศ.2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยสมาคมฯ เรามีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งขัน ม้า บุคลากรที่มีความพร้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานสากล

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา นักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้สร้างชื่อเสียงด้านกีฬาขี่ม้าโปโลอย่างต่อเนื่อง ผมในฐานะตัวแทนนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมฯ ในการส่งเสริมให้กีฬาชนิดนี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทย และในระดับโลกผ่านการเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ  และในปี 2567 ทางสมาคมฯ มีการเตรียมความพร้อมให้นักกีฬาฯ ได้เข้าร่วมการแข่งขันฯ ในทัวร์นาเมนต์ที่จะจัดขึ้นทั้งหมด 4 รายการ โดยประเดิมรายการแรกด้วยรายการ  All Asia Cup ในวันที่ 4 – 10 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีทีมเข้าร่วมแข่งขันจาก 5 ประเทศ ได้แก่ บรูไน จีน ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย และไทย โดยนักกีฬาไทยได้เตรียมตวามพร้อมมาเป็นอย่างดี และคาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เพราะเชื่อว่าทุกทีมฝึกซ้อมกันมาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ จะมีการจัดการแข่งขันอีก 3 รายการสำคัญ ได้แก่ รายการ The Ambassador Cup รายการขี่ม้าโปโลหญิง International Ladies’ Polo Tournament ในเดือนมีนาคม และปิดท้ายทัวร์นาเม้นต์ด้วยรายการ Thailand Polo Championship ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นสนามสำหรับนักกีฬาหน้าใหม่เพื่อพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวไปสู่นักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยในอนาคต

พลอย ปิ่นแสง นักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย เผยว่า จุดเริ่มต้นของการเล่นโปโลของพลอยเกิดจากการแนะนำของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เมื่อพลอยได้ลองเล่นก็รู้สึกชอบและหลงเสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้ การเล่นกีฬาขี่ม้าโปโลใช้ทักษะหลายด้านประกอบกัน ทั้งการบังคับม้า การวางแผนกลยุทธ์ และความแข็งแรงของร่างกาย เรียนรู้การเล่นเป็นทีมเวิร์ค การได้เป็นนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย นับเป็นเกียรติและเป็นสิ่งที่พลอยภาคภูมิใจมากค่ะ

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จ และเหตุการณ์อันน่าประทับใจในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในหลายๆ รายการที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับสมาคมฯ รวมถึงได้คว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศจากการแข่งขันทั้ง 4 รายการ ได้แก่ All Asia Cup, The Ambassador Cup, International Ladies’ Polo Tournament และ Thailand Polo Championship ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาจัดแสดงในงานนี้ด้วย พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้ผู้ชื่นชอบในกีฬาขี่ม้าโปโล ร่วมงาน อาทิ  ซอนย่า คูลลิ่ง, ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช, อนุสรณ์ มณีเทศ (โย่ง อาร์มแชร์) และณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ เป็นต้น

สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลประจำปี 2567 ได้รับการสนับสนุนหลักจาก บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บจก. แพลน บี มีเดีย (มหาชน) และบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเกี่ยวกับกีฬาขี่ม้าโปโลเพิ่มเติม พร้อมชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ที่ Facebook / Instagram: Thailand Polo Association

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.