“มิโด” (MIDO) เปิดตัวเรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชัน จากคอลเลกชันระดับตำนานรุ่น “Ocean Star Decompression Timer 1961 Limited Edition” นาฬิกาดำน้ำที่โดดเด่นด้วยเสน่ห์สไตล์วินเทจของสเกลตารางบอกเวลาหลากสีสัน

0
208

“มิโด” (MIDO) เอาใจเหล่านักสะสมและคนรักกิจกรรมดำน้ำ เปิดตัวเรือนเวลารุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน ดีไซน์ล่าสุดจาก คอลเลกชันโอเชี่ยน สตาร์ (Ocean Star) กับรุ่นพิเศษที่ชื่อว่า “โอเชี่ยน สตาร์ ดีคอมเพรสชั่น ไทเมอร์ 1961 ลิมิเต็ด อิดิชัน” (Ocean Star Decompression Timer 1961 Limited Edition) นาฬิกานักดำน้ำที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หลากสีสัน ของสเกลตารางบอกเวลาก่อนขึ้นสู่ผิวน้ำบนหน้าปัดตัวเรือนสีดำสุดสปอร์ต ที่จัดจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 1,961 เรือนทั่วโลกเท่านั้น พร้อมให้คนรักนาฬิกาดำน้ำได้เลือกสะสมพร้อมกันแล้ววันนี้

“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน

โดย “มิโด” (MIDO) ได้ตอกย้ำถึงประวัติศาสตร์การเป็นแบรนด์ผู้บุกเบิกด้านการกันน้ำนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 และได้เปิดตัวนาฬิการุ่นโอเชี่ยน สตาร์ สกิน ไดเวอร์ วอทช์ (Ocean Star Skin Diver Watch) อันโด่งดังในปี ค.ศ. 1961 โดยนาฬิกาเรือนนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักดำน้ำในขณะนั้นด้วยฟังก์ชันช่วยให้อ่านค่าบอกระดับขั้นของเวลาพักเพื่อลดแรงดัน ขณะขึ้นสู่ผิวน้ำ ในดีไซน์ตารางหลากสีที่กลายเป็นตำนานอย่างรวดเร็ว และในปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา ทางมิโด (MIDO) ได้เปิดตัวเรือนเวลารุ่น “โอเชียน สตาร์ ดีคอมเพรสชัน ไทม์เมอร์ 1961” (Ocean Star Decompression Timer 1961) ที่ได้รับการตีความใหม่โดยใช้วัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและยังคงยึดมั่นในสุนทรียภาพดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของหน้าปัดเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องอีกหลายๆ รุ่นต่อมา ทั้งในปี ค.ศ. 2021 และ 2023

ในปี ค.ศ. 2024 นี้ “มิโด” (MIDO) พร้อมเปิดตัวเรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชันสุดพิเศษในชื่อว่า “โอเชี่ยน สตาร์ ดีคอมเพรสชั่น ไทเมอร์ 1961 ลิมิเต็ด อิดิชัน” (Ocean Star Decompression Timer 1961 Limited Edition) ที่มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงาเคลือบ PVD สีดำเข้ม ให้ลุคที่ดูสปอร์ตน่าค้นหา ในขนาดหน้าปัดตัวเรือน 40.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับเรือนเวลาในอดีตพร้อมกันนี้การตกแต่งหน้าปัดยังคงเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ได้เชื่อมโยงถึงโลกใต้ท้องทะเล ด้วยตารางหลากสีไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง, สีเขียว, สีชมพู และสีน้ำเงิน ที่เป็นตัวบอกระดับขั้นของเวลาพัก เพื่อลดแรงดันขณะขึ้นสู่ผิวน้ำ พร้อมกรอบหน้าปัดอะลูมิเนียมหมุนได้ทิศทางเดียวทำหน้าที่นับถอยหลัง มีช่องหน้าต่างบอกวันที่ (Date) บริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมจุดเรืองแสงขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยการอ่านเวลา ซึ่งนาฬิกาประเภทนี้ ความชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะอยู่กลางแสงแดดหรืออยู่ใต้น้ำลึก ด้วยการเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) บนเข็มชั่วโมงและนาทีรูปทรงแบบไดมอนด์คัตและหลักชั่วโมงแบบขัดเงา พร้อมการตกแต่งโลโก้ MIDO ในสไตล์วินเทจขัดเงาบนหน้าปัดเพิ่มความโก้หรู ครอบทับหน้าปัดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงกลาสบ็อกซ์ ชวนให้นึกถึง Plexiglas ในอดีต ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วย กลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ที่สามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง เสริมความแข็งแรงด้วยบาลานซ์สปริงผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยต้านทานต่อแรงกระแทก และสนามแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี ด้านฝาหลังตัวเรือนถูกสลักด้วยรูปปลาดาวที่เป็นตัวแทนของคอลเลกชั่นโอเชี่ยน สตาร์ (Ocean Star) นับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ในการระลึกถึงความเชี่ยวชาญของ MIDO ด้านการกันน้ำ และตัวเรือนรุ่นนี้สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร พร้อมกันนี้ยังมีสายนาฬิกาที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ 3 แบบ ได้แก่ สายสแตนเลสสตีลตาข่ายมิลานิสสีดำแวววาวให้ลุคสปอร์ตเท่ สายหนังลูกวัวแท้สีดำเข้มให้ลุคคลาสสิก และสายยางสีน้ำเงินผิวกึ่งเงาให้ลุคแคชชวลที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยสายนาฬิกาแต่ละสายช่วยเพิ่มสัมผัส และสไตล์ที่แตกต่างกันให้กับนาฬิการุ่นนี้ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและรูปลักษณ์แบบวินเทจสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการดำน้ำอันน่าตื่นเต้นในยุค 60s ได้เป็นอย่างดี โดยนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นนี้ มีจำนวนจำกัดเพียง 1,961 เรือนทั่วโลก บรรจุในกล่องดีไซน์สุดพิเศษ โดยภายในกล่องประกอบด้วยใบรับรองรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และชุดสายนาฬิกา 3 สาย ได้แก่ สายตาข่ายมิลานีสสแตนเลสสตีลขัดเงาเคลือบ PVD สีดำ สายยางสีน้ำเงินผิวกึ่งเงา และสายหนังลูกวัวแท้สีดำ พร้อมระบบเปลี่ยนสายแบบง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ที่สามารถเปลี่ยนลุคให้เหมาะกับแต่ละโอกาสได้อย่างสะดวกสบาย

ด้าน “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะนำเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาสะสมสำหรับนักสะสมมือใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยในการเลือกเรือนเวลาสำหรับการเก็บสะสม โดยมีข้อคำนึงดังนี้

  • ประวัติและความสำคัญของแบรนด์ นาฬิกาจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีประวัติยาวนาน  และควรเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะแบรนด์เหล่านี้มักจะมีมูลค่าและคุณค่าที่เหมาะสำหรับการเก็บสะสม
  • รุ่นและการผลิต รุ่นที่มีการผลิตจำนวนจำกัดหรือมีการผลิตในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ มักจะเป็นที่ต้องการของนักสะสม ควรพิจารณารุ่นที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์หรือรุ่นที่มีคุณสมบัติพิเศษ
  • กล่องและใบกำกับ เอกสารรับประกัน, คู่มือ, และกล่องที่เป็นของแท้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับนาฬิกา หากคุณมีครบทุกอย่าง จะช่วยให้การขายในอนาคตง่ายขึ้น
  • ตลาดและแนวโน้ม การติดตามแนวโน้มของตลาดนาฬิกาและการศึกษาความต้องการของนักสะสมสามารถช่วยให้มีตัวเลือกที่ดีขึ้น รู้ว่าอะไรเป็นที่ต้องการในตลาดสามารถช่วยในการตัดสินใจ
  • ความชอบส่วนบุคคล การสะสมควรเริ่มต้นจากความชอบและความสนใจของตัวคุณเอง ควรเลือกนาฬิกาที่คุณรู้สึกเชื่อมโยงและมีความชื่นชอบอย่างแท้จริง
  • การบำรุงรักษาและการบริการ: นาฬิกาสะสมต้องการการดูแลรักษาอย่างดี การตรวจสอบและการบริการหลังการขายสามารถช่วยรักษาคุณภาพและมูลค่าในระยะยาวได้ด้วย

ร่วมเป็นเจ้าของเรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชั่นสุดพิเศษ จากแบรนด์ “มิโด” (MIDO) กับคอลเลกชัน “โอเชี่ยน สตาร์ ดีคอมเพรสชั่น ไทเมอร์ 1961 ลิมิเต็ด อิดิชัน” (Ocean Star Decompression Timer 1961 Limited Edition) ที่มีจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 1,961 เรือนทั่วโลกเท่านั้น นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์  www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.