อาจเรียกว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักและมีความเข้าใจในเรื่องของ “ความรัก” มากที่สุดคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะตลอดเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา กับการทำรายการ Club Friday ทำให้เธอได้รับฟังเรื่องราวความรักมาอย่างมากมาย จนวันนี้หลายๆ คนยกให้เธอเป็นเสมือนกูรูด้านความรัก
“คุณนภาพร ไตรวิทย์วารีกุล” นักจัดรายการวิทยุ และรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “Club Friday” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “พี่อ้อย” เล่าให้ฟังว่า “ในการจัดรายการวิทยุในแต่ละวัน รวมถึงการทำรายการโทรทัศน์ Club Friday Show ก็จะวนเวียนพูดคุยอยู่กับเรื่องราวความรักของผู้คน ซึ่งช่วงแรกๆ พี่อ้อยถึงกับเอ๊ะ! ว่าเรื่องราวความรักจะไปได้ถึงขนาดไหน แต่พอถึงวันนี้เราได้ค้นพบว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนในสังคมให้ความสนใจ หรือแม้แต่เรื่องดรามาที่เราเห็นอยู่ในทุกวันนี้ ก็มักเป็นเรื่องความรัก” เรื่องราวความรักก็มักจะเกี่ยวพันถึง “ผู้หญิง” ซึ่งปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าผู้หญิง
มีบทบาทในสังคมค่อนข้างมาก และพี่อ้อยยอมรับว่าเธอไม่เคยรู้สึกว่าจะต้องเรียกร้องความเท่าเทียมใดๆ ในสังคม “เราต้องยอมรับว่าทุกคนมีจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง ผู้ชายก็มีจุดอ่อนและจุดแข็งของเขา ผู้หญิงก็มีจุดอ่อนและจุดแข็ง ในแบบของเราเหมือนกัน เพียงแต่วันนี้พี่รู้สึกว่าสังคมยอมรับและให้โอกาสมากขึ้น แต่ก็ไม่ถึงขั้นรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงอย่ามาทำงานนี้เลย” พี่อ้อยยังบอกด้วยว่า วันหนึ่งได้เห็นผู้หญิงขับรถเมล์ก็รู้สึกว้าว ขณะที่ตัวของเธอขับไม่ได้ “แต่วันนี้ ผู้หญิงทำได้ โลกและสังคมยอมรับในความสามารถของผู้หญิง พี่คิดว่าแค่นี้คือการพัฒนาที่ทำให้มนุษย์ทุกคนเกือบจะเท่าเทียมกัน เพราะพี่เชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีใครสามารถเท่าเทียมได้เป๊ะๆ เหมือนกัน” พี่อ้อยอธิบาย พร้อมกันนี้พี่อ้อยยังได้ยกตัวอย่างให้ฟังด้วยว่า “บางคนเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้หญิงสามารถทำได้ แต่พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพ่อเลี้ยงเดี่ยวกับแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกันหรือไม่ ต่อให้วันนี้มีพ่อเลี้ยงเดี่ยวเยอะขึ้น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าเทียบกันใครจะสามารถดูแลลูกได้ดีมากกว่ากัน แต่เราไม่ได้เอามาแข่งกัน เราต้องยอมรับว่าทุกคนมีข้อดีและข้อด้อยของตัวเอง และวันนี้เราได้รับการยอมรับมากขึ้น หลายออฟฟิศหลายองค์กร คนที่เป็นผู้บริหารคือผู้หญิง พี่เลยรู้สึกว่าวันนี้ทุกอย่างได้รับการยอมรับมากขึ้นแล้ว”
ส่วนจุดเด่นของผู้หญิงนั้น พี่อ้อยเชื่อและมองว่า “บางทีพี่รู้สึกว่าความเป็นผู้หญิงอาจจะมีความละเมียดละไมบางอย่างซึ่งบางคนอาจมองว่าอ่อนแอ แต่พี่เชื่อว่าความอ่อนไหวของผู้หญิงทำให้ผู้หญิงเราแตกต่างไปจากเอไอตรงที่มีหัวใจ เพราะความเป็นผู้หญิง หากจะต้องดูแลใครสักคน ก็จะดูแลด้วยรายละเอียด ใส่ใจ สมมติว่าวันหนึ่งพนักงานคนนี้ทำงานไม่ดี ถ้าว่ากันด้วยเรื่องเหตุผลในระบบการทำงาน ก็จะดูแค่ว่าทำงานไม่ดี แต่หากเป็นผู้หญิงมอง ก็จะถามไถ่ในรายละเอียดว่าเขาคนนั้นมีปัญหาอะไรกับที่บ้านหรือเปล่า เพราะเวลาที่เรามีปัญหากับที่บ้าน เรามักจะมีความรู้สึกเปราะบางของใจ เลยทำให้เราไม่มีพลังใจในการทำงานก็ได้ พี่เชื่อว่านี่ก็เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของผู้หญิง แต่แน่นอนว่าเรื่องอารมณ์ของผู้หญิงก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน เห็นหรือไม่ว่าทุกคนต่างมีจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง แค่ยอมรับและภูมิใจในความเป็นเพศอย่างเราก็น่าจะพอแล้ว”
หากพูดถึงความภูมิใจในความเป็นผู้หญิง พี่อ้อยบอกว่า “พี่เป็นผู้หญิงใจสู้ ความใจสู้ของพี่คือ ไม่ว่าจะมีอะไรก็ตาม ถ้าอยู่ในมือเราก็จะทำออกมาให้ดีที่สุด แม้บางเรื่องอาจไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ อย่างพี่เป็นคนไม่ชอบทำรายการทีวีเลย แต่พี่ฉอดบอกว่า Club Friday Show เราต้องทำนะ และเมื่อไรที่งานมาอยู่ในมือ พี่ก็จะทำเต็มที่ ทำให้คนอื่นหมดห่วง เพราะเมื่อมาอยู่ในมือแล้วพี่สู้ตาย อาจจะต้องฝึกให้มากขึ้น จะต้องเตรียมทุกอย่างให้มากขึ้น จะต้องทำทุกอย่างที่อาจจะเหนื่อยกว่าคนอื่นก็ต้องทำ เพราะพี่ไม่ใช่มืออาชีพ แต่พี่ก็จะทำเต็มที่ และนี่อาจเป็นสิ่งที่พี่รู้สึกว่าเป็นความภูมิใจ หรือแม้แต่การดูแลที่บ้าน ต่อให้พี่จะงานเยอะแค่ไหน พี่ก็ต้องมีเวลามากพอให้ที่บ้านเสมอ”
พี่อ้อยนักจัดรายการวิทยุชื่อดังยังย้ำให้ฟังถึงความภูมิใจในตัวเองของผู้หญิงทุกคนด้วยว่า “ไม่มีใครด้อยค่าเราได้ ถ้าเรายังเห็นคุณค่าในตัวเอง และเข้าใจว่าผู้หญิงหลายคนมักจะมองคุณค่าตัวเอง หรือวัดคุณค่าตัวเองว่าอยู่ที่เขาจะเลือกหรือไม่เลือกเรา บางคนก็ไม่ควรค่าต่อหัวใจดีๆ ของเรา ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งสามารถพาตัวเองมาได้ถึงวันนี้ สุขทุกข์ขึ้นอยู่กับเรา อย่าเพิ่งเอาไปผูกขาใคร และคุณค่าของเรายังมีเต็มตัวและมี เต็มที่ ภูมิใจเถอะ ผู้หญิงคนหนึ่งที่เขามองว่าเป็นที่เพศอ่อนแอ วันนี้ผู้หญิงเพศอ่อนแอหลายๆ คนอยู่บนโลกนี้ได้แบบที่มีความสุข หัวเราะเสียงดัง เพราะฉะนั้นอย่าด้อยค่าตัวเอง เพราะเรา ก็คือส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกนี้สมบูรณ์ มีเพศชายก็ต้องมีเพศหญิง มีเพศอื่นใดๆ LGBTQ+ ก็ต้องมีผู้หญิงอย่างเราเช่นกัน”
