คุณสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วันนี้ทิศทางของธุรกิจประกันชีวิตเริ่มกลับมามีชีวิตชีวา ประชาชนให้ความสำคัญและเข้าหาประกันชีวิตและประกันสุขภาพกันมากขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากโลกที่มี Dynamic มากขึ้นเช่นกัน ธุรกิจจึงจำเป็นต้องรับมือและปรับตัวเองให้เร็ว ในยุคหนึ่งการคิดผลิตภัณฑ์ออกไปขาย จะมาจากข้างในคิดว่าจะทำอะไรขายดี หรือ Inside Out แต่ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนแปลงไปเป็นมุมมองแบบ Outside In ต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แล้วนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเอาไปตอบโจทย์ในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ และจะทำให้เราอยู่ได้อย่างยั่งยืน”
เมืองไทยประกันชีวิตได้อยู่เคียงคู่คนไทย พร้อมคอยส่งมอบความสุขและ รอยยิ้มเป็นเวลายาวนานกว่า 73 ปี เดินหน้าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และสนับสนุนการเข้าถึงประกันชีวิตให้กับทุกๆ คนในสังคม (Democratizing Insurance) ธุรกิจมีการขยายอย่างแข็งแกร่ง และยังมีการศึกษาถึงการขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง “ล่าสุดผมเพิ่งไปเข้าร่วมประชุมผู้บริหารที่ประเทศกัมพูชา มีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างดี และทุกครั้งที่ผมไปได้เห็นตึกใหม่เกิดขึ้นหลายแห่ง ในยุคเดิมก็อาจมีแค่ที่อยู่อาศัย แต่วันนี้มีตึกใหญ่โตมากมาย รวมไปถึงธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นๆ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศเหล่านี้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน ทำให้ผมรู้สึกดีใจว่า ณ วันนั้น ผมตัดสินใจถูก” คุณสาระกล่าวเปิดใจด้วยรอยยิ้ม ด้านการบริหารงาน คุณสาระให้มุมมองแบบตรงไปตรงมาว่า “โลกใหม่ใน ทุกวันนี้ เราจะเอาแต่พูดอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีผลลัพธ์ออกมาให้เห็นด้วย การบริหารองค์กรอะไรที่มองเป็นแฟชั่นเราไม่เอา เรามองที่ความยั่งยืน องค์กรรุ่นใหม่จะแค่หาอะไรเพื่อมาเล่าเรื่องอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำได้จริงๆ ทำแล้วมีผลลัพธ์อย่างไรต้องวัดได้จริง ธุรกิจประกันชีวิตเป็นเรื่องของความเชื่อใจ (Trust) สิ่งที่เรานำมาใช้วัดได้ก็อย่างเช่นตัวคะแนน Net Promoting Score (NPS) ที่ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำไปลูกค้าพึงพอใจแค่ไหน หรือจะเป็น Employee Engagement ที่เป็นตัวชี้วัดถึงความรู้สึกผูกพันของพนักงาน หรือมุมมองที่เขามีต่อองค์กรนั่นเอง”
สำหรับเรื่องของ “ความท้าทาย” ซีอีโอเมืองไทยประกันชีวิตยอมรับว่า นอกจากเรื่องของโอกาสในธุรกิจแล้ว “คน” ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญและยากที่สุด “เพราะคนมี Mindset ที่แตกต่างกันเยอะ ทั้งการมองบวกและมองลบ ท่ามกลางการพลวัตของโลก แต่นั่นก็ถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่สวมหมวกผู้บริหาร เพราะฉะนั้นการจะเปลี่ยน Mindset ของคนได้นั้น จะต้องมีการสื่อสาร และการใช้โครงสร้างในการทำให้คนทำงานด้วยกันได้ และบริษัทประกันชีวิตเป็นเรื่องของคน 2 กลุ่ม คือ คนภายในองค์กร และตัวแทนประกันฯ ซึ่งถือเป็นช่องทางหลัก และในกลุ่มตัวแทนประกันก็ยังมีกลุ่มคนที่เก่ง และมีความสามารถที่จะปรับตัวให้กับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป กล้าที่จะออกจาก Comfort zone มอง Mindset ที่เป็นมุมบวก และอีกกลุ่มคือกลุ่มที่กล้าๆ กลัวๆ แต่ตรงนี้เราสามารถที่จะแนะนำ และทำให้เขารู้สึกออกมาขายในสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยได้ เพราะโลกเปลี่ยนไป”
