แม้จะเป็นนักธุรกิจที่มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมาย แต่คุณเรศ – เยาวเรศ ชินวัตร ก็ไม่เคยวางมือจากงานการกุศลที่ช่วยส่งเสริมและช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านและสตรีไทยให้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยความที่เธอเป็นคนไม่ชอบหยุดนิ่ง ชอบช่วยเหลือผู้คน และด้วยจิตอันเป็นกุศล จึงมักจะเห็นโครงการดีๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอยู่เสมอๆ เธอบอกกับเราว่า “การเป็นผู้ให้” สร้างความสุขได้เสมอ
“ตอนนี้ดิฉันทำธุรกิจส่วนตัวด้านอสังหาริมทรัพย์ รับซื้อ-ขายที่ดิน มีกิจการร้านอาหารเหนือแถวซอยพัฒนาการ 30 ชื่อ ครัวคุณเรศ ซึ่งที่นี่ขายอาหารเหนือรสชาติแบบออริจินอล ซึ่งได้การตอบรับและได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก รวมทั้งในช่วงต้นปีหน้าก็กำลังจะเปิดธุรกิจใหม่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลี ซึ่งเราจะมีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และที่เชียงใหม่ โดยจุดเด่นของซูเปอร์มาร์เก็ตของเราจะมีของใช้ในชีวิตประจำวัน มีวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลีจำหน่าย ซึ่งมีสินค้าหลากหลายมากๆ และนอกเหนือจากการทำธุรกิจแล้ว ดิฉันยังแบ่งเวลาให้กับงานสังคม และงานการกุศลต่างๆ พอสมควร”
“ที่ผ่านมากิจกรรมทางสังคมที่เป็นความภาคภูมิใจก็คือการเป็นผู้ขอพระราชทานวันสตรีไทย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในปี 2546 โดยได้พระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันสตรีไทย เพื่อให้ผู้หญิงไทยมีโอกาสแสดงถึงศักยภาพ ความรู้ ความสามารถในการพัฒนาประเทศควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม และผู้หญิงไทย สามารถเทียบเท่าสตรีสากลของหลายประเทศที่เจริญแล้ว”
“ในฐานะอดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ รู้สึกดีใจนะคะที่ผู้หญิงไทยในยุคปัจจุบันได้รับการยอมรับจากสังคมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ว่าทุกวันนี้ผู้หญิงมีบทบาทที่สำคัญต่อการร่วมพัฒนาประเทศในแทบทุกด้าน และอยากให้ผู้หญิงไทยได้พัฒนาความรู้ความสามารถให้ก้าวหน้า เพื่อเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับคู่ชีวิตอย่างเสมอภาค สร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติ จากที่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับกลุ่มสตรีในแทบทุกจังหวัด ทำให้ทราบว่าคุณภาพชีวิตของผู้หญิงในปัจจุบันได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี ในส่วนของการส่งเสริมและพัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มศักยภาพของสตรีไทยที่มีอยู่แล้วให้มีความรู้ และทักษะใหม่ๆ ให้เท่าทันกับยุคสมัยมากขึ้น”
“นอกจากนี้ ดิฉันยังเป็นผู้ก่อตั้งสภาสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ และก่อตั้งสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย (สธวท) ในหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต แพร่ ลำปาง ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี เป็นประธานก่อตั้งและประธานที่ปรึกษามูลนิธิพัฒนาวิชาชีพสตรี เป็นประธานที่ปรึกษาสมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย และในฐานะอดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมัยที่ 21 – 22 ซึ่งปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม”
“โดยเฉพาะกิจกรรมการคัดเลือกสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ และในฐานะประธานที่ปรึกษาสมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย ได้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม เช่น โครงการคืนถิ่นเมืองเหนือแจกผ้าห่ม เสื้อกันหนาวให้แก่ประชาชนทางภาคเหนือเกือบทุกปี ซึ่งแจกไปแล้วกว่า 1,000 ครอบครัว มีโครงการมอบทุนการศึกษา รวมทั้งมีกิจกรรมงานประเพณีที่สืบทอดวัฒนธรรมทางภาคเหนือ เช่น งานประเพณีตานก๋วยสลากภัต เป็นต้น ส่วนโครงการเพื่อการกุศลก็มีใหม่แทบทุกปีค่ะ เพราะมีกิจกรรมเพื่อสังคมให้ทำมากจริงๆ อย่างงานบำรุงพระพุทธศาสนาก็มีมาเยอะมากค่ะ ดิฉันก็เชิญชวนกัลยาณมิตรเข้ามาร่วมเป็นเจ้าภาพทุกครั้ง”
“การเสียสละและแบ่งปัน เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน เพราะเป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐาน ควรปลูกฝังให้กับเยาวชนให้รู้จักการเป็นผู้ให้และผู้รับ นึกถึงผู้อื่นก่อนตัวเอง ซึ่งจะช่วยสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”
“ดิฉันมองว่าการเสียสละและแบ่งปันเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป 2 คำนี้มีความหมายคล้ายกัน และเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐานที่ทุกคนในสังคมควรมี เป็นค่านิยมที่สังคมไทยควรมีการปลูกฝังให้กับเยาวชนให้รู้จักการเป็นผู้ให้และผู้รับ นึกถึงผู้อื่นก่อนตัวเอง ซึ่งจะช่วยสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตัวดิฉันเองชอบแบ่งปัน ชอบใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีความสุขโดยไม่เอาเปรียบคนอื่นและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าใครใช้ชีวิตได้แบบนี้ สังคมก็จะสงบสุข ไม่มีความขัดแย้งกันค่ะ”
