เมื่อพูดถึงชื่อ “ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์” ทุกคนโดยเฉพาะสาวๆ ต่างรู้จักกันดีแน่นอน เพราะชายหนุ่มคนนี้เรียกได้ว่าเป็นพระเอกสุดฮอตที่กำลังมาแรงในวันนี้ก็ว่าได้
ชื่อเสียงและความโด่งดังที่เกิดขึ้น แม้หลายคนจะมองว่าเป็นความสำเร็จแล้ว ทว่าสำหรับ ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์ พระเอกหนุ่มจากช่องวัน กลับเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงความสำเร็จส่วนหนึ่งเท่านั้น มองว่านั่นเป็นบันไดของแสงสว่างที่ดีครับ ก่อนหน้านี้ผมอาจเคยเดินไปบนเส้นทางแบบมืดๆ มีแค่ไฟสลัวๆ มาตลอด พอมาถึงวันนี้เหมือนเราเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายทางเดิน ขณะเดียวกันก็เห็น Check Point ที่ทำให้เรารู้ว่าจะเดินไปทางไหนต่อ”
“ผมเป็นคนธรรมดา มีสีขาวสีดำ ถ้าจะดูผมเป็นตัวอย่าง ขอให้ดูมุมทำงานของผม ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานจะดีกว่า”
เช่นเดียวกับสิ่งที่หลายคนยอมรับให้หนุ่มไบร์ท เป็นหนึ่งใน Infuencer “คำนี้มีความหมายว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดของคนอื่น ซึ่งผมดีใจนะครับ แต่ต้องเล่าย้อนให้ฟังก่อนว่าผมเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่บังเอิญมีตัวตนขึ้นมา แต่ผมก็ไม่ได้อยากเป็นแบบอย่างให้ใคร เพราะผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้เป็นคนที่แสนดีขนาดนั้น ผมเป็นคนธรรมดา มีสีขาวสีดำ แต่ถ้าจะดูผมเป็นตัวอย่าง ขอให้ดูมุมทำงานของผม ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน Work Hard Play Hard จะดีกว่า”
“ผมเป็นคนที่ไม่ปฏิเสธโอกาส ไม่ว่าโอกาสนั้นจะคืออะไร และยิ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำ ผมไม่ปฏิเสธแน่นอนทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องไร้สาระ ผมเป็นคนที่ชอบ Explore The World อยากทำความรู้จักกับที่ใหม่ คนใหม่ตลอด อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ แปลกๆ ตลอดพร้อมที่จะลุย และพร้อมรับมือกับทุกอย่าง เพราะลึกๆ แล้วเราเชื่อว่าเรารับมือได้ ถึงแม้จะสาหัสสากันปางตาย แต่สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าเราจะรอด” ถือเป็นอีกนิยามอันเป็นเอกลักษณ์ของ “ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์” อย่างแท้จริง