ลัดเลาะพื้นที่แห่งความทรงจำ อัพเดทร้านน่าสนใจ จิ๊กซอว์ตัวใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อร่วมเติมเต็มย่านทรงวาด ซึ่งกลมกล่อมไปด้วยการผสมผสานความคลาสสิคแห่งวันวาน กับวิถียุคใหม่ สีสันของย่านการค้าที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ยังคงสืบสานต่อมาในปัจจุบัน พร้อมหลอมรวมกับความเปลี่ยนแปลงที่แทรกแซมอย่างไม่แปลกแยก ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ แกลอรี ฯลฯ เพื่อให้ย่านทรงวาดยังคงความเป็นชุมชนที่มีอัตลักษณ์เปี่ยมเสน่ห์ ในแบบฉบับของตัวเอง
กานต์ธิดา พิพัฒน์รัตนถาวร + สาธิตา ชี้เจริญ ผู้ร่วมก่อตั้ง SAAN
“ย่านทรงวาดเป็นย่านใหม่ที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ กำลังพัฒนาให้ไปในทิศทางที่เป็นหน้าตาของกรุงเทพฯ ได้ เราเลยอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของย่านนี้ ซึ่งเป็นย่านที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม มีทั้งไทย จีน อิสลาม รวมอยู่ในย่านนี้ ผลิตภัณฑ์ของร้านได้นำอัตลักษณ์ของทรงวาดเข้ามาสอดแทรก เช่น กระเป๋า Tote Bag ที่เรานำอัตลักษณ์ของตึกแถวคลาสสิก มาใส่เส้นกราฟฟิกให้ดูร่วมสมัย หรือการ์ดต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไป สามารถซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกได้ มีไอศกรีมโฮมเมดที่นอกจากจะใส่ผลไม้สดแล้ว เรายังใช้ผลิตภัณฑ์ของอบ ของแห้ง ที่มีขายในย่านทรงวาดมาใส่เป็นท็อปปิ้ง เช่น มะนาวอบแห้ง เปลือกส้มแปรรูป แล้วเรายังนำขนมไทยที่มีชื่อเสียงของจังหวัดต่างๆ เช่น ทองม้วนจากเพชรบุรี มะพร้าวกรอบและข้าวตังจากพระนครศรีอยุธยา มาใช้เพื่อนำเสนอรสชาติความเป็นไทยด้วย”
ธนาพล เตือนวีระเดช Co-Founder & Design Director ร้าน Copenn.
“ป๊อปอัพสโตร์แห่งนี้ของเราเพิ่งเปิดเมื่อต้นเดือนธันวาคม เราเป็นแบรนด์ไทยที่นำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ทั้งที่เป็น Art, Creation, Installation, Scent และความเป็นตัวตนของผลิตภัณฑ์ ซึ่งย่านทรงวาดค่อนข้างจะเป็น Nue Hybe เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม และมีความสำคัญทางการค้า เราพยายามดึงบริบทรอบข้างมาเกี่ยวเนื่องกับตัวผลิตภัณฑ์และดีไซน์ด้วย วัสดุในการตกแต่งก็อิงความเป็นธรรมชาติ อย่างหินแกรนิตและไม้อัดที่เผาให้บางส่วนเป็นสีดำ สำหรับตัวผลิตภัณฑ์ในส่วนของตัวกำยาน จะใช้กรรมวิธีดั้งเดิมคือปั้นด้วยมือ และในส่วนของปีนี้ยังมีกิฟต์เซ็ตคอนเซปต์ ความอบอุ่นในบรรยากาศช่วงปีใหม่ บอกเล่าเรื่องราวผ่านนกนางนวล กลิ่นที่โดดเด่นคือ ETHERAL ให้ความรู้สึกอบอุ่น ของโทนวูดดี้ มีความหวานเล็กๆ ช่วยส่งเสริมบรรยากาศในช่วงสิ้นปีนี้ได้อย่างดี”
ธเนศ อาจจินดา ผู้ร่วมก่อตั้ง Local Boys Coffee Co.
“ผมมองว่าย่านทรงวาดมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจผสมผสานแบบคนไทยเชื้อสายจีน มีเสน่ห์และคัลเจอร์ป๊อบบางอย่างที่ไม่เหมือนย่านอื่น ทั้งวิถีชีวิตของผู้คน อาคารสถาปัตยกรรม เลยคิดว่าความมีเสน่ห์ของตัวอาคารเก่าแก่ เหมาะกับแบรนด์ของเราที่ชื่อ Local Boys ซึ่งหมายถึงเด็กบ้าน เด็กในท้องถิ่น โดยซิงค์กับโลโก้ที่เป็นตัวหุ่นยนต์ เพราะอยากให้มีความเท่และเข้าถึงง่าย จริงๆ เรามีโรงคั่วกาแฟของตัวเองอยู่แล้ว แต่ตั้งใจมาเปิดที่นี่ให้เป็นร้านกาแฟแบบจริงจัง ไม่มีเบเกอรี ไม่มีอาหาร เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านจะเป็น Dirty Coffee และ Coconut Dirty Coffee แต่ถ้าอยากได้ฟีลของหวานก็มี Coco Box Coffee ด้านล่างใส่ไอศกรีมมะพร้าว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเราคือจะเสิร์ฟกาแฟเย็นในกระป๋อง เพราะเรามองถึงความยั่งยืน สามารถนำไปรีไซเคิลได้”
พัชรินทร์ ศรีจันทร์วันเพ็ญ ผู้ร่วมก่อตั้ง PLAY art house
“จุดเริ่มต้นของที่นี่จริงๆ แล้วเป็นโกดังเก็บรองเท้าของครอบครัวสามี (เกียรติวัฒน์ ศรีจันทร์วันเพ็ญ) มาก่อน มีความเก่าแก่กว่า 100 ปี เสาประดับแบบโรมันก็มีมาตั้งแต่เดิม พอดีสามีอยากหาสถานที่จัดแสดงงานของตัวเอง แต่ตอนนั้นเขายังไม่ได้มีชื่อเสียง เราเลยตัดสินใจใช้พื้นที่ตรงนี้เปิดเป็น Private Gallery ซึ่งในย่านทรงวาดยังไม่มีมาก่อน จากนั้นก็เปิดรับสำหรับศิลปินทั่วไป เพราะเราเข้าใจว่าการที่คนจะมี Exhibition ครั้งแรก มันค่อนข้างยาก โดยวิธีการคัดเลือกศิลปินมาจัดแสดง จริงๆ แล้วไม่ได้มีหลักการอะไรมาก พวกเราช่วยกันเลือกเองตามความรู้สึก ตามความสนใจ หากศิลปินท่านไหนอยากนำผลงานมาจัดแสดง ก็สามารถส่งพอร์ตเข้ามาได้ เรายินดีรับพิจารณาทุกท่าน”
ทรงวุฒิ ทองทั่ว CREATIVE DIRECTOR ร้าน RESS
“ด้วยความที่เราเป็นแบรนด์ Sustainable Fashion และมีความเป็น Contemporary ด้วย อยากจะหาสถานที่เปิดร้านในย่านที่คิดว่าเหมาะสมกับเสื้อผ้าของเรา แต่ไม่อยากเปิดอยู่ในห้าง พอมาเดินย่านทรงก็ได้เห็นบรรยากาศหลายอย่างของที่นี่ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างระหว่างเก่าและใหม่ไว้ด้วยกัน รู้สึกว่ามีเสน่ห์อะไรบางอย่างให้น่าค้นหา เลยคิดว่าเราอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของถนนสายนี้ เสื้อผ้าของเราจะเป็นการสร้างสรรค์แบบ Remade Reduce Redesign ใช้เสื้อผ้าเก่า ยีนส์เก่า เพื่อให้เกิดการลด Carbon Footprint ในกระบวนการผลิต ออกมาเป็นสไตล์เหมือน Hybrid wear หน่อยๆ แต่ก็มีเสน่ห์แบบไทยและมีความโมเดิร์นด้วย เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่อยากให้คนเข้าใจ และใส่ใจในเรื่องของโลกร้อนมากขึ้น”
ปวีร์ ศรีธัญรัตน์ เจ้าของร้าน วันละชาม
“ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสมาเดินเที่ยวย่านทรงวาด แล้วรู้สึกว่ามีเสน่ห์มาก เป็นย่านเก่าที่มีความผสมผสานของหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา เลยอยากมาเปิดร้านแถวนี้ โดยอาหารของร้านเราจะเป็นอาหารจีนโบราณ สูตรของอาม่าที่มาจากเมืองจีน รู้สึกว่ามีความเข้ากับย่านนี้ เมนูหลักของทางร้านจะเป็นข้าวหน้าไก่ไข่ดาว สูตรดั้งเดิมของอาม่าที่ชอบทำกินกันเองในครอบครัว เลยอยากให้คนอื่นได้ลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมกว่า 50 ปีกันดูบ้าง จุดเด่นอยู่ที่วิธีการหมักไก่และรสชาติของน้ำราดซึ่งมีความกลมกล่อม ไก่จะมีความนุ่มและชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหมักที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อ รสชาติของเราอยู่กลางๆ เน้นความกลมกล่อม เมนูแนะนำที่หลายคนชอบก็มี ข้าวหน้าไก่ไข่ดาว ที่เป็นซิกเนเจอร์ สูตรดั้งเดิมของร้าน ข้าวหน้าไก่ไข่ดาวหมาล่า ซึ่งมีการเพิ่มรสชาติของพริกหมาล่าเข้าไป ให้มีความหอม รสเผ็ดจัดจ้าน แล้วยังมี ข้าวไก่คั่วพริกเกลือ และผัดหมี่เบตง ที่หลายคนชอบสั่ง ส่วนอาหารทานเล่นก็จะมี เต้าหู้ทอด ซึ่งเลือกใช้เต้าหู้เจ้าเก่าแก่ดั้งเดิม ค่อนข้างหายาก เป็นร้านที่ครอบครัวเรากินกันมาตั้งแต่เด็ก”
สิตาภา สกุลดีเลิศ เจ้าของร้าน AGAR RAGA
“พาริเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของวุ้นผงตราโทรศัพท์ค่ะ บริษัทตั้งกิจการอยู่ย่านทรงวาดมาเกือบ 70 ปี ส่วนร้านนี้เราเปิดขึ้นเพื่อโชว์เคสว่าวุ้นทำอะไรได้มากกว่าของหวาน เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ เมนูต่างๆ เราก็คิดขึ้นมาให้เข้ากับย่านทรงวาด โดยจะเป็นอาหารไทยผสมจีน ใช้วัตถุดิบที่หาได้บนถนนทรงวาดเป็นหลัก เมนูฮิตที่หลายคนชื่นชอบก็เช่น ผัดไทยเส้นวุ้นกุ้งสด โดยเอาวุ้นมาผสมกับแป้งถั่วลันเตา ตัดเป็นเส้นแล้วตากแห้งให้มีความหนึบ ผัดกับน้ำซอสที่มีรสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ส่วนมะเขือคานาเป้ จะมีการทำคาเวียร์ด้วยเทคนิค Molecular Gastronomy เป็นคาเวียร์ที่ทำจากวุ้นและซอสศรีราชา เช่นเดียวกับซอสเจลที่เป็นซีอิ๊วขิง ส่วนของหวานฮอตฮิตก็จะเป็น น้ำแข็งใสวุ้นบอล ที่มีวุ้นผลไม้ 10 ชนิด แล้วก็ขนม Ispahan ที่มีลิ้นจี่ กุหลาบ ราสเบอร์รีเพียวเรย์ และกระเจี๊ยบบด ซึ่งวัตถุดิบอย่างกุหลาบกับกระเจี๊ยบ เราสั่งจากร้านเก่าแก่บนถนนทรงวาด เพื่อสนับสนุนร้านค้าในพื้นที่”
ธเนศร์ ลิมป์พวงทิพย์ เจ้าของร้าน THE OLD BREADSHOP
“ครอบครัวของผมเปิดบริษัทเจริญวัฒนา ทำธุรกิจในย่านทรงวาดมาตั้งแต่ปี 1941 ปัจจุบันเน้นสินค้าบริโภคและสินค้าเกษตร อาหารแห้ง เช่น ลำไยอบแห้ง มะม่วงหิมพานต์ ถั่วสำหรับทำเบเกอรี่ต่างๆ รวมไปถึงเครื่องเทศอย่าง อบเชย ยี่หร่า ออริกาโน ฯลฯ ด้วยความที่มีสินค้าเกี่ยวกับเบเกอรีค่อนข้างเยอะ เราจึงเปิดแผนกเบเกอรีขึ้นชื่อแบรนด์ Linsen’s แล้วพอทรงวาดเริ่มคึกคัก เลยนำพื้นที่โกดังสินค้าส่วนหนึ่งซึ่งเป็นตึกเก่า เข้ากับบรรยากาศของย่านนี้มารีโนเวทใหม่ เปิดเป็นร้าน THE OLD BREADSHOP เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ข้อได้เปรียบคือเราควบคุมคอร์สวัตถุดิบได้ เพราะใช้ของจากบริษัท อย่างผลไม้ นัทต่างๆ เราค่อนข้างจัดเต็ม หรืออัลมอนด์ที่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำเครื่องดื่ม ก็จะคั้นสดต่อวัน ซึ่งอายุการใช้งานจะสั้นกว่าร้านทั่วไป แต่เราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกค้า แม้อาจไม่ใช่ของที่ถูกที่สุดในตลาด แต่ผมมองว่าสมน้ำสมเนื้อ ราคาเหมาะสมในแบบที่ร้านอยู่ได้ และลูกค้าก็ได้สิ่งที่ดี คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป”