คงจะเป็นเรื่องยาก หากต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง “งานที่สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต” กับ “งานที่ตัวเองรัก” เพราะทั้งสองสิ่งนี้ต่างมีข้อดีที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งไม่ต่างอะไรจาก คุณเฟิร์น-ชนิกานต์ ตันบุญเพิ่ม ที่เลือกเรียนและทำงานด้านไฟแนนซ์ แต่ไม่เคยละทิ้งในความฝันด้านการเป็นเชฟ ที่มีความชื่นชอบ และคิดอยากเปิดคาเฟ่ช็อกโกแลต
จะว่าไปแล้ว คุณเฟิร์น-ชนิกานต์ มีความชอบเรื่องของการทำขนมมาตั้งนานแล้ว “ซึ่งจริงๆ ก็เริ่มต้นมาตั้งแต่ตอนที่เฟิร์นเรียนจบ ม.6 เคยขอคุณแม่ครั้งหนึ่งว่าอยากจะเรียนเป็นเชฟ และไม่ขอเอ็นทรานซ์ได้ไหม แต่ด้วยความที่คุณแม่เรียนจบเศรษฐศาสตร์มาก็บอกว่าไม่ได้ ยังไงก็ต้องเรียนมหาวิทยาลัยก่อน เพราะอย่างน้อยๆ การเรียนในคณะเศรษฐศาสตร์ก็จะทำให้เรามีพื้นฐาน และเข้าใจเรื่องของการเงิน รวมถึงหากเราต้องทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง เรื่องการเงินก็เรียกว่าเป็นพื้นฐานการทำธุรกิจที่สำคัญที่สุด เลยทำให้เราตัดสินใจเรียนมหาวิทยาลัยในคณะเศรษฐศาสตร์ แม้ว่าในใจตอนนั้นไม่อยากจะเรียนในสิ่งที่คุณแม่แนะนำก็ตาม” แต่คุณเฟิร์นก็เชื่อว่านั่นเป็นความปรารถนาดีของคุณแม่ และเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวของเธออย่างแน่นอน
“สุดท้ายเฟิร์นก็เรียนจบและเข้าสู่สายงานด้านการเงินกับธนาคารแห่งหนึ่งนานถึง 7 ปี พร้อมกับตำแหน่งงานที่มั่นคง ตอนนั้นเฟิร์นอยู่ในตำแหน่ง Assistance Manager ที่รับผิดชอบดูแลลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง ขณะเดียวกัน ตอนนั้นทั้งเฟิร์นและแฟนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วด้วยเหตุบังเอิญทำให้เราได้ไปเจอคาเฟ่แห่งหนึ่งที่เราก็คิดว่าน่าจะเป็นคาเฟ่ธรรมดา แต่พอเข้าไปกลับกลายเป็นร้านช็อกโกแลตที่มีความแปลกตาและน่าสนใจ จนคิดว่าที่บ้านเรามีร้านแบบนี้หรือยัง และนั่นก็เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เฟิร์นค้นหาข้อมูลเรื่องของการทำช็อกโกแลตในทุกด้าน” จนกระทั่งสุดท้ายแล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะมาเปิดคาเฟ่ช็อกโกแลตในที่สุด ซึ่งเธอยอมรับว่าเป็นภาวะที่หนักเอาการอยู่