เข้าสู่ปี “ปีเถาะ” พุทธศักราช 2566 อย่างเป็นทางการ แค่เริ่มต้นปีมาก็มีอะไรที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่า “กระต่าย” ในปีนี้ น่าจะมีอะไรให้รู้สึกคึกคักและน่าจับตามองอีกมากมาย ทั้งเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงเรื่องราวอีกมากมายหลายๆ เรื่อง ซึ่ง ดร.คฑา ชินบัญชร ได้ให้เกียรติมาทำนายดวงชะตาบ้านเมือง และวิเคราะห์ดวงของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร
เริ่มต้นเลย ดร.คทา ชินบัญชร นักโหราศาสตร์แถวหน้าของเมืองไทย ได้อ้างถึงเรื่องของ “ตรุษจีน” ซึ่งเรียกว่ามาเร็วเป็นพิเศษ โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ในปี 2566 ตามปฏิทินจีน ถือได้ว่าเป็นปี “กุยเบ้า” ก้านฟ้าอยู่บนธาตุไม้ และกิ่งดินอยู่ในธาตุน้ำ ทำให้ลำดับธาตุถูกจัดอยู่ในส่วนของธาตุน้ำ และทำให้ปีนี้เป็น “ปีกระต่ายน้ำ”
ขณะที่เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ยประจำปี 2566 มีพระนามว่า “ผ่วยชี้ไต่เจียงกุง” และยังเป็นปีที่มี “ดาวบิน” สีเขียวมรกต ธาตุไม้อยู่บริเวณกลางบ้าน ธาตุไม้หมายถึงการเจริญเติบโตและการผลิดอกออกผล ต้นกล้าจากเมล็ดพันธ์ที่หว่านไว้กำลังเติบโต ใครทำอะไรก็จะได้รับผลตอบแทนตามที่ลงทุนลงแรงเอาไว้ หากใครที่ทำความดีไว้ก็จะได้ความดีตอบแทน แต่ถ้าทำอะไรไม่ดีก็มีโอกาสจะได้รับผลกรรมตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้น สิ่งที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือเรื่องของสิ่งแวดล้อมและฟ้าฝน เนื่องจากเป็นปีที่เพิ่งจะมีการผลิใบ ยังเป็นต้นอ่อนและยังไม่กล้าแกร่ง
เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ฟื้นตัว
พูดถึงเรื่องราวและความหมายของปีกระต่ายไปแล้ว ดร.คทา ชินบัญชร ก็ยังได้พยากรณ์เรื่องของภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2566 กันบ้าง โดยตามพื้นดวงชะตาของประเทศในปีนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นปีที่จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวเร็วกว่าหลายๆ ประเทศ โดยในปี 2566 จะเห็นภาพผลลัพธ์ทุกอย่างมีความชัดเจนขึ้น พร้อมๆ กับการเฉลยให้รู้ว่านโยบายและการบริหารงานที่ผ่านมาของรัฐบาล “ถูก” หรือ “ผิด” และดีต่อประเทศมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนี้ยังอาจเป็นจังหวะเดียวกับที่ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อย อาจจะตัดสินได้ชัดเจนมากขึ้นว่าควรจะรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นไทย และพึงพอใจกับการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาของภาครัฐหรือไม่ แม้ก่อนหน้านี้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักตลอดปีที่ผ่านมา แต่พอเข้าสู่ปี 2566 อย่างเต็มตัว คนไทยก็อาจจะคิดว่าโชคดีแล้วที่ผ่านวิกฤตโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาได้ และอาจจะมองไปถึงคุณงามความดีที่รัฐบาลตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์แบบนั้น ซึ่งหากคะแนนเต็ม 10 ประเทศไทยก็อาจจะได้คะแนนสัก 8 – 9 คะแนน
นั่นจึงอาจขยายความได้ว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศไทยดีขึ้น และยังอยู่ในระดับที่ดี เมื่อนำไปเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นสักเท่าไร โดยประเทศไทยมีเกณฑ์การฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่น ๆ หรืออย่างน้อยก็อาจจะอยู่ในอันดับต้นๆ ที่ถือว่าดีไม่น้อยหน้าประเทศใดในโลก
การเมืองไทย
ส่วนเรื่องของการเมือง โดยเฉพาะเมื่อหลายคนมักจะถามคำถามเดียวกันว่าประเทศไทยในปี 2566 จะมีแนวโน้มได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่
จะว่าไปตามฐานดวงชะตาของประเทศไทย ก็มีโอกาสอย่างมากที่จะได้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในด้านการเมือง โดยเฉพาะการได้ผู้นำรัฐบาลคนใหม่ หรือ “นายกรัฐมนตรี” คนใหม่ ที่จะเป็นคน “ปีขาล” หรือ “ปีกุน” ซึ่งทั้งสองปีนักษัตรนี้มีความโดดเด่นที่สุดในปี 2566 เพราะมีดาว “ฮกแซ” หรือดาววาสนา นั่นจึงหมายความว่ามีผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือถึง 2 แรงกันเลย
นอกจากนี้ยังมี่ดาว “เทียนฮี้” หรือดาวฟ้ามงคล เข้ามาหนุนดวง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะมีความโชคดี อาจจะมีบุญหล่นทับ ส่วนปีที่มีความโดดเด่นรองลงมาและมีสิทธิ์ลุ้นอีก 2 ปี ก็คือคนที่เกิด “ปีมะแม” และคนที่เกิด “ปีจอ” เพราะทั้ง 2 ปีนี้มีดาว “บุ่นเชียง” หรือดาวนักปราชญ์ส่องชีวิตเข้ามาเกี่ยวพัน บ่งบอกให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านการงาน ขณะที่ “นายกรัฐมนตรี” คนเดิมที่เกิดในปีมะเมีย ในปีนี้อาจจะเป็นปีที่ทำให้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากขึ้น แม้ว่าจะมีกระแสการยอมรับของประชาชนมากขึ้น จากผลงานตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม
ภาคการเกษตรปังสุด
สำหรับภาคธุรกิจที่เรียกว่าโดดเด่นที่สุดในปีกระต่ายปีนี้ และมีโอกาสรับทรัพย์แบบปังๆ มีอยู่ด้วยกันถึง 3 ธุรกิจด้วยกัน เริ่มจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ธาตุน้ำ” ได้แก่ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจเครื่องดื่ม ธุรกิจการเกษตรแปรรูป ธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และธุรกิจด้านโภชนาการ โดยทั้งหมดนี้มีความโดดเด่นมากในปีกระต่ายปีนี้
ส่วนธุรกิจที่ปังรองลงมา จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ธาตุไม้” เช่น ธุรกิจขายจำหน่ายต้นไม้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิ่ตผลทางการเกษตร ธุรกิจด้านพืชผล และธัญญาอาหารต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังมีธุรกิจรับเหมาและการก่อสร้าง รวมไปถึง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ธาตุไฟ” ที่เชื่อมโยงไปถึงธุรกิจการขนส่ง และธุรกิจพลังงานทางเลือก
“คริปโต” เสี่ยงหนัก อยู่ช่วงขาลง
ธุรกิจปังปีเถาะไปแล้ว ก็ลองมาดูธุรกิจที่มีต้องเผชิญกับโอกาสเสี่ยงค่อนข้างสูงกันบ้าง ซึ่งในปี 2566 จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ธาตุทอง” เป็นส่วนใหญ่ อาทิ ธนาคาร การเทรดหุ้น และคริปโต เคอร์เรนซี อาจจะไม่ค่อยสู้ดีนัก เนื่องจากปีเถาะ มีธาตุไม้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ขณะที่ธุรกิจข้างต้นที่ว่ามานี้เกี๊ยวกับ “ธาตุทอง” ซึ่งตามความเชื่อ “ธาตุไม้ไม่ถูกกับธาตุทอง” ทำให้เกิดการปะทะชนกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้การลงทุนในธุรกิจกลุ่มดังกล่าวในปีนี้จึงอาจไม่มีการเติบโตสักเท่าไร และมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบและเสียหายตามมา ถ้าหากจะลงทุนก็ควรลงทุนระยะสั้นๆ แบบเข้าปุ๊บ ออกปั๊บเลย อย่าถือยาว เพราะปีนี้อาจจะได้เห็นภาพของการเปลี่ยนแปลงทางการเงินโลกที่ชัดเจนมากขึ้น จะเกิดธุรกิจใหม่ๆ เป็นธุรกิจต้นกล้าอ่อน อย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เครื่องดื่ม การเกษตร มากกว่า
นอกจากนี้ธุรกิจที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ ธุรกิจที่ทำลายธาตุไม้ อาทิ ธุรกิจเสื้อผ้า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกระดาษ และธุรกิจแพ็กเกจจิง เป็นต้น
พลิกโลก “จีน” ก้าวเป็นมหาอำนาจโลก
นอกจากภาพรวมทั้งเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศไทยแล้ว การเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ก็เรียกว่ามีส่วนสำคัญไม่น้อยเช่นกัน โดยภาพรวมของสถานการณ์โลกในปี “กระต่าย” จะเกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่สิ้นสุดยุค 8 ตามหลักฮวงจุ้ยของจีน และเป็นปีที่ก้าวเข้าสู่ยุค 9 ซึ่งจะครอบคลุมยาวไปถึง 20 ปี จนถึงปี 2587
โดยภาพรวมของสถานการณ์โลกในปีเถาะ โลกจะมีการเปลี่ยนขั้วไปสู่ทิศเหนือทิศตะวันออก ทิศใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลดีให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน รัสเซีย และชาติในอาเซียนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ในทางตรงกันข้าม ก็จะส่งผลให้เกิดความเสื่อมต่อประเทศที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มภูมิภาคยุโรป ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลี อาจจะมีอิทธิพลต่อสถานการณ์โลกลงไปค่อนข้างมาก