“สุนิตา ลีติกุล-พิชชารีย์ จรรยาธนากร” จับมือฝ่าปัญหาด้วยความเข้าใจ และใส่ใจ

0
893

วันนี้ คุณโบ-สุนิตา ลีติกุล หลังจากที่ได้ออกซิงเกิลเพลงใหม่ที่ร้องกับลูกสาว น้องฮานิ-พิชชารีย์ จรรยาธนากร ก็ได้พูดคุยอัปเดตเกี่ยวกับผลงานและชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งใครจะเชื่อว่าการที่มีพ่อแม่ที่มีชื่อเสียง ไม่ได้การันตีว่าจะได้รับการปฏิบัติแบบวีไอพีเสมอไป เมื่อฮานิเองต้องเผชิญชะตากรรมการถูกบูลลี่ในโรงเรียนจนสุดท้ายต้องย้ายโรงเรียน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่คุณโบบอกกับเราก็คือ การเป็นแม่ที่ดีต้องใส่ใจและเข้าใจลูก การเดินฝ่ามรสุมชีวิตสำหรับทุกคนอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเรามีความเชื่อมั่นและตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะแก้ปัญหา ทุกอย่างก็จะดีขึ้นได้

คุณโบ : ช่วงนี้โบจะเดินสายออกรายการของช่องวันบ้าง ช่องเวิร์คพอยท์บ้าง และล่าสุดก็ออกซิงเกิลใหม่กับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลง “รักตั้งแต่แรก” แต่งโดย “แทน Lipta” (ธารณ ลิปตพัลลภ) ซึ่งเป็นเพลงที่ดีมาก โบร้องเพลงนี้กับลูกสาว น้องฮานิ (พิชชารีย์ จรรยาธนากร) ก็อยากให้ทุกคนลองไปฟัง ส่วนชีวิตตอนนี้ก็ไม่มีอะไรหวีอหวา ช่วงโควิดที่ผ่านมาก็อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ทำธุรกิจอะไร เพราะไม่ได้เก่งด้านนี้ จะขายอะไรก็คิดไม่ออก อย่างสามี (คุณเล็ก-ฝันเด่น จรรยาธนากร) ก็บอกเราควรอยู่นิ่งๆ อย่างประหยัดดีกว่า คุณเล็กก็ยังทำงานเป็นจิตอาสาเหมือนเดิม ส่วนตัวไม่ได้ลงพื้นที่แบบสามีเพราะสู้ร้อนไม่ไหว ส่วนใหญ่โบจะช่วยบริจาคเงิน ส่วนคุณเล็กออกข้างนอกทุกวัน ไปบริจาคอาหารที่โรงพยาบาล ไปช่วยเหลือคนป่วย ถ้ามีอุทกภัยก็ไปช่วยชาวบ้าน เป็นทีมซ้อมรับมือภัยพิบัติ เขาก็ไปหมด คือทุ่มเทมากๆ โบก็จะคอยซัปพอร์ตเท่าที่จะช่วยได้

คุณโบ : ส่วนฮานิเขาก็ไม่ดื้อนะคะ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่คุยรู้เรื่อง ตอนนี้จะห่วงเรื่องการคบเพื่อน เราอยากให้เขามีเพื่อนดีๆ ตอนนี้โบให้เขาเปลี่ยนมาเรียนที่ Traill International School Bangkok แทน เพราะตอนที่เขาเรียนโรงเรียนไทยก็มีการบูลลี่กัน มีการเหยียดบ้านนั้นรวย บ้านนั้นเป็นอย่างนี้ ฮานิก็โดน โรงเรียนดัง โรงเรียนมีชื่อเสียงไม่ได้แปลว่ามันคือสังคมที่ดีสำหรับลูกเสมอไป

น้องฮานิ : ที่โรงเรียนเขาจะล้อเรื่องพ่อแม่ แกล้งให้เราเสียใจ พอย้ายโรงเรียนมาก็มีความสุขขึ้นค่ะ

คุณโบ : โรงเรียนที่ฮานิเรียนนักเรียนส่วนใหญ่จะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่ง เกิน 70 – 80 % ที่เหลือเป็นคนไทย ซึ่งเด็กญี่ปุ่นคือดีมาก ไม่แกล้งเพื่อน

น้องฮานิ : โรงเรียนเก่าหนูจะเน้นด้านวิชาการ แต่ที่ใหม่จะเน้นเรื่องของกิจกรรม ใครชอบกีฬา ใครชอบดนตรีก็จะมีให้เรียน หนูต้องเรียนว่ายน้ำ เรียนกีฬาชนิดอื่นๆ

คุณโบ : ซึ่งแม่ก็ว่าดีนะ เพราะลูกจะได้แข็งแรง

น้องฮานิ : หลักสูตร PE หนูรับได้ แต่ว่ายน้ำหนูแย่มาก ชอบแบตมินตันกับวอลเลย์บอลมากกว่า

Howe : เห็นว่าฮานิวาดรูปขายด้วย

น้องฮานิ : ค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้รับงานเพิ่มเพราะจะเปิดเทอม งานที่ทำเป็นแนวอนิเมะค่ะ แต่ยังไม่วาดแนวเหมือนจริง เดี๋ยวจะเริ่มเรียนอนาโตมี หนูจะรับงานครั้งหนึ่งไม่เกิน 5 รูป เพราะงานแต่ละชิ้นจะใช้เวลา บางรูปก็ใช้เวลา 3 วัน

คุณโบ : ความที่เขาอยากหาเงินก็เลยทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด เขาหัดวาดเองโดยดูจากยูทูบ

Howe : หรือนั่นจะเป็นเหตุผลในการมาออกชิงเกิลร่วมกับคุณแม่

คุณโบ : นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งค่ะ (หัวเราะ) แม่ชวนอยู่นานมาก พี่เล็ก (บุษบา ดาวเรือง) โทรมาหลายรอบ เกรงใจพี่เล็กมาก โบชวนฮานิตลอดแต่ก็ไม่ยอม ล่าสุดก็เลยบอกลูกว่าได้เงินมาก็จะได้เอาไปเติมเกมไง เขาหันกลับมาบอกหนูทำแม่ อ้าว.. ..ทำไมมันง่ายดายขนาดนี้ ที่บ้านเราไม่ค่อยบังคับกัน ถ้าลูกไม่อยากทำ โบก็ไม่บังคับลูกค่ะ ถ้าถามข้อห้ามหรือระเบียบในครอบครัวเราก็ไม่มีนะคะ ลูกอยากเรียน อยากทำอะไรได้หมด แต่ขอเรื่องนอนอยากให้นอนก่อน 4 ทุ่ม เพราะการนอนมีผลต่อส่วนสูงของเด็ก ตั้งแต่ปิดเทอมมาคือเที่ยงคืนตลอด ห่วงกลัวเขาจะไม่สูง

น้องฮานิ : จริงๆ หนูว่าหนูสูง 164 ก็พอแล้วนะ ตอนหนูอยู่โรงเรียนเก่าทุกคนในโรงเรียนสูงมาก มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งสูงเกือบ 180 แล้ว แต่พอย้ายโรงเรียนมา เพื่อนผู้หญิงสูงแค่ไหล่หนูเอง ส่วนเพื่อนที่เป็นผู้ชายก็จะสูงปรี๊ดไปเลย

Howe : ฮานิมีอะไรที่ห่วงแม่บ้างไหม

น้องฮานิ : หนูห่วงเรื่องสุขภาพแค่เรื่องเดียวค่ะ

คุณโบ : โบเป็นโรคความดันสูง อาจจะด้วยการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ก็เลยเป็นโรคนี้เร็ว ถ้าถามว่าห่วงอะไรฮานิ ก็ห่วงเรื่องการใช้เงิน การเก็บเงิน ก็จะสอนเขาตลอดว่าเราไม่รู้อนาคตเหมือนมีโควิด ถ้าบ้านเราไม่มีเงินเก็บแบบทุกวันนี้จะทำอย่างไร หลายครอบครัวมีปัญหาถึงขั้นฆ่าตัวตายก็มีเหมือนกัน

น้องฮานิ : อีกอย่างที่แม่ห่วงหนูคือสภาพจิตใจ

คุณโบ : ฮานิเป็นเด็กอ่อนไหว ร้องไห้ง่ายมาก เวลามีเรื่องอะไรเข้ามาคือเขาร้องไห้แล้ว

Howe : เรื่องที่แย่มากๆ กระทบจิตใจจนต้องปรึกษาแม่คือเรื่องอะไรคะ

น้องฮานิ : คงเป็นเรื่องที่โดนเพื่อนบูลลี่ที่โรงเรียนค่ะ

คุณโบ : ฮานิไม่ชอบออกกล้อง หรือต้องทำงานที่ไม่มีคนรู้ว่านี่คือเขา เพราะเขากลัวคนคอมเมนต์ หรือมีคนมาว่าเป็นลูกโบ-สุนิตาทำได้แค่นี้เหรอ เขาจะบอกตลอด ถ้าเลือกได้หนูก็ไม่อยากเป็นลูกดารา แต่โบก็บอกฮานิว่าแม่ก็เลือกไม่ได้เหมือนกัน ตัวหนูก็มาเองนะ (หัวเราะ) ฉะนั้นเราต้องทำใจยอมรับถ้ามีใครจะวิจารณ์เรา

น้องฮานิ : ตอนนี้สภาพจิตใจหนูก็ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่เมื่อก่อนคือแย่มาก

คุณโบ : คือเพื่อนเขาทำลายความมั่นใจ ความร่าเริง ความสดใส มันล้างไปจนเกือบหมด

“ในฐานะแม่ก็พยายามประคับประคองเขาให้ก้าวไปข้างหน้าก็สอนเขาเรื่องการปล่อยวาง แต่มันอาจจะยากสำหรับวัยเขา แต่เชื่อว่าในอนาคตทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”

น้องฮานิ : หนูโดนเพื่อนบูลลี่อยู่ 5 ปี ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เขาจะชอบตีความสิ่งที่หนูเล่าผิดตลอด เช่น หนูอยากได้ของในเกม พอได้มาก็บอกเขาว่าได้มาแล้ว แต่เขาจะตีความว่าหนูอวด เขาก็โกรธหนู ทั้งๆ ที่หนูคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสนิท ทะเลาะกันบ่อยมาก เขาเคยเบลมว่าหนูทำให้เพื่อนทั้งท้องไม่ชอบเขา แต่ความจริงมันก็คือตัวเขาเองที่ทำให้เพื่อนไม่ชอบ เขาทำกับหนูเยอะมากจนจำไม่หมด กับเพื่อนอีกคนคือโดนทำร้ายร่างกายด้วย

คุณโบ : ฮานิก็เคยโดนต่อยตาหนหนึ่ง โบพยายามยุ่งกับโรงเรียนให้น้อยที่สุด แต่เรื่องทำร้ายร่างกายนี่คือยอมไม่ได้ หรือการที่ครูสนุกกับการล้อเลียนลูกโบ แม่เธอเป็นนักร้องชื่อปาน (ธนพร) ไม่ใช่เหรอ นี่คือสิ่งที่ครูไม่ควรล้อเลียนพ่อแม่เด็ก เรื่องนี้ใบส่งจดหมายส่งไปหาครูประจำชั้นฮานิ สุดท้ายเขาก็มาขอโทษบอกว่าจะไม่ทำอีก จริงๆ โรงเรียนนี้ฮานิ อยากไปอยู่มาก พอไปอยู่ลูกไม่มีความสุข ร้องไห้เหมือนเด็กอนุบาล วันหนึ่งลูกมาบอกแม่พาหนูไปหาจิตแพทย์หน่อย ตกใจมาก เขาถามทำไมแม่เอาหนูมาทิ้งไว้ที่นี้ ตอนแรกโบก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ลูกอาจจะอ่อนไหว แต่สุดท้ายเราก็ต้องย้ายโรงเรียนให้ลูก เด็กสมัยนี้น่กลัวมาก ลูกเรียนที่นั่นมา 6 – 7 ปี แต่โบร้องเรียนโรงเรียนไป 2 ครั้ง คือใช้ความอดทนสุดๆ

น้องฮานิ : เวลามีใครมาว่าแม่กับป้าหนูจะโกรธมาก มีเพื่อนมาล้อแม่อ้วน ไม่สวย ตอนนั้นหนูไม่กล้าสู้กลับก็อดทน แต่แม่บอกว่าถ้าไม่ชอบต้องบอกเพื่อน

คุณโบ : พอแม่จะลดน้ำหนักฮานิก็ไม่ยอม แม่ต้องเก็บแขนกับพุงไว้ให้หนู (หัวเราะ)

น้องฮานิ : หนูว่าแม่หุ่นแบบนี้คือสวยมาก

คุณโบ : เห็นไหมๆ (หัวเราะ) โบอยากให้ลูกมีความสุข เรียนไม่เก่งก็ไม่เป็นไร

น้องฮานิ : ย้ายโรงเรียนมาก็เรียนดีขึ้นค่ะ เพราะใช้ภาษาอังกฤษที่หนูถนัด ทุกวันนี้หนูแฮปปี้มาก อยากไปโรงเรียนทุกวัน เพื่อนคือดีมาก ใส่ใจ วันเกิดหนูเขาก็มาแฮปปี้เบิร์ธเดย์กันตั้งแต่เที่ยงคืน ให้ความสำคัญกับเพื่อน ตอนอยู่โรงเรียนไทยมีแต่เพื่อนถามว่ายูจะเอาเค้ก เอาขนมมาไหม ถ้าครูไม่บอกเขาก็ไม่แฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้หนูยกเว้นเพื่อนสนิท เพื่อนที่นี่คือแตกต่างกันเลย

คุณโบ : อยากให้ฮานิกลับมารักตัวเองมากขึ้น เพราะเขาแคร์เพื่อน แคร์คนอื่นมากเกินไป เขากลัวความคิดคนอื่น กลัวจนไม่กล้าทำอะไรเลย

น้องฮานิ : บางทีหนูไปขึ้นคอนเสิร์ต บางคนเขาก็จะคอมเพลนกับงานที่ออกมา ร้องไม่ดี แต่งตัวไม่สวย หนูก็เลยกลายเป็นคนที่กลัวความคิดคนอื่น ยิ้มมากไปเขาจะหมั่นไส้ไหม ถ้าไม่ยิ้มเขาจะหาว่าหยิ่งไหม คือกังวลไปหมด ตอนนี้ก็พยายามจะไม่แคร์คนอื่น แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ยิ่งกับคนที่สนิทด้วย พอมีปัญหาก็จะมาระบายกับแม่

คุณโบ : ในฐานะแม่ก็พยายามประคับประคองเขาให้ก้าวไปข้างหน้าก็สอนเขาเรื่องการปล่อยวาง แต่มันอาจจะยากสำหรับวัยเขา แต่เชื่อว่าในอนาคตทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.