ฉลองบรรยากาศชวนขนหัวลุกของเทศกาล Halloween ด้วยการนั่งคุยเรื่องราวเล้นลับกับ แจ็ค-วัชรพล ฝึกใจดี นักดำเนินรายการผี ที่เก็บเกี่ยวเรื่องราวสยองขวัญมายาวนาน จนขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งเจ้าพ่อเรื่องผีของประเทศไทย ที่คราวนี้จะมาไขความลับดำมืด และพร้อมจัดเต็มด้วยกิจกรรมสุดหวีด และความสยองระดับตำนาน สร้างเสียงกรี๊ดให้ดังก้องไปทั่วบ้านผีสิงที่จัดเต็มความสยองเป็นปีแรก
“โลกใบนี้ถ้าพูดถึงเทศกาลแบบผี ๆ ก็คงต้องพูดถึงเทศกาลฮาลโลวีนได้ ที่สำคัญคือประเทศไทยของเราสมัยก่อนก็นับถือผีกัน เพราะฉะนั้นเรื่องผีของประเทศไทยของเรา นับว่าเป็นเรื่องที่ใกล้กันมากแต่เทศกาลฮาลโลวีนที่เกิดขึ้นทางฝั่งยุโรป จริง ๆ แล้วคนไทยน้อยคนจะรู้ว่าเทศกาลฮาลโลวีนคืออะไร แล้วมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกหลังความตายบ้าง รู้แต่ว่าเป็นเทศกาลที่แต่งตัวผี แล้วออกมาสนุกกันแค่นั้นเอง สำหรับประเทศไทยของเรา ผมว่ามันคือความบันเทิงอย่างหนึ่ง ผีไทยของเรามีความหลากหลาย ผมจะเรียกว่าเป็นสปีชีส์ผีของไทย เรามีเยอะกว่าผีที่อื่นด้วยซ้ำ อาจเป็นรองแค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นเอง แล้วผีไทยของเราค่อนข้างที่จะแอดวานซ์ ด้วยความเป็นบรรยากาศแบบย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็น ผีหัวขาด ผีกระสือ หรือแม้กระทั่งผีปอบ ผีเปรต ต่างประเทศเขามองว่าผีของไทยไม่ใช่แค่เป็นผีหน้าขาว ๆ ออกมาเดินแบบซอมบี้ หรือแค่ดูดเลือด แต่ผีไทยมีความแอดวานซ์มากกว่านั้น เรื่องของอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ หายตัวได้ การหลอกหลอนก็มีความน่ากลัว และผีไทยที่ต่างชาติรู้จักกันดี แน่นอนต้องพูดถึง ‘ผีนางรำ’ ครับ เป็นผีที่เกือบทั่วทั้งโลกยอมรับ ว่านี่คือผีที่น่ากลัวที่สุดและเป็นซิมโบลิคหนึ่งของผีไทย”
“สำหรับส่วนตัวผมแล้ว ก็จะกลัวผีนางรำมากที่สุด คือผมมองว่าผีนางรำแอดวานซ์เรื่องของการที่จะออกมาหลอกคน ส่วนมากจะมาพร้อมวงดนตรีไทย มีเสียงปี่พาทย์มาพร้อมกับเสียงระนาด แล้วการแต่งองค์ทรงเครื่องของเขาที่ออกมาจัดเต็ม วิธีการออกมาก็ให้ลองนึกถึงนางรำหน้าขาว ๆ ออกมาตั้งวงรำ อันนี้ผมกลัวกับการที่เวลาเราไปพักตามโรงแรมต่าง ๆเหมือนที่ฝรั่งบางคนเขาบอกว่า มาเมืองไทยแล้วเค้าไปเจอเหมือนว่า เออ..ประเทศไทยดีเนอะ ก่อนนอนหรือก่อนเข้าพักมีนางรำมาโชว์ให้ดูด้วย ชอบการแสดงแบบไทย ๆ แต่ที่ไหนได้! นั่นคือผีนางรำ”
“ถ้าถามว่าเทคนิคเห็นผีแบบไหน ที่ทำแล้วเห็นผล ส่วนตัวผมคิดว่ามันแล้วแต่คน วิธีการเห็นผีบนโลกนี้ ผมน่าจะทำมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะมองลอดใต้หว่างขา เอาขี้เถ้าจากศพมาทาตา แย่งเครื่องเซ่น ฯลฯ ก็ยังไม่เคยเจอ แต่คนที่ไปด้วย เช่นแฟนรายการ หรือคนที่ไปสังเกตการณ์เขาเจอกัน เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าวิธีการต่าง ๆ ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแล้วจะได้เจอ ผมว่าอยู่ที่จังหวะและดวงของแต่ละคนมากกว่า”
“ผมมองว่ายิ่งโลกเราพัฒนาไปไกลมากเท่าไหร่ การอธิบายหรือการหาหลักฐานในเรื่องของสิ่งลี้ลับเหล่านี้ ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ต่างประเทศเขาจะมีชมรมที่สร้างขึ้นมา เพื่อเอาไว้ศึกษาเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะ มีเครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีในการตรวจจับ ซึ่งเขาจะไม่ได้เรียกว่าวิญญาณ แต่เรียกว่าคลื่นพลังงาน โดยคลื่นพลังงานเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ การที่พลังงานสามารถก่อให้เกิดสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ซึ่งฝรั่งเขามีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็น Poltergeist ทำให้เกิดเสียง ทำให้สิ่งของขยับ เพราะฉะนั้นคลื่นพลังงาน หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคือตัวแปรสำคัญ ในการที่จะใช้เครื่องมือตรวจวัด แล้วถ้าตรงนี้มีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ก็หมายถึงเป็นสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติเกิดขึ้นหรือเปล่า ผมว่ายิ่งโลกพัฒนาไปไกลเท่าไหร่ เครื่องมือเหล่านี้ก็จะตรวจจับได้ชัดเจนมากขึ้น”
“จากเรื่องผีที่ได้ฟังมาในการจัดรายการ ผีที่สร้างสถิติมีคนพบเจอมากที่สุด ผมยังมองว่าหลากหลาย แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่เจอผีบ่อยที่สุด ผมยกให้โรงแรมเป็นอันดับหนึ่ง ของการมีโอกาสจะเจอผีมากที่สุด แล้วผีที่อยู่ในโรงแรมส่วนมาก 90% ผมให้เป็นผีผู้หญิงชุดขาวผมยาว มักจะเจอในอ่างน้ำ ในตู้เสื้อผ้า เพราะเป็นจุดที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น การถูกฆาตกรรม หรืออุบัติเหตุ ทำให้เสียชีวิต แต่ผมไม่ได้บอกว่าไปโรงแรมแล้วจะเจอผีนะ อย่างที่บอกว่ามันคือสถิติ”
“ยุคสมัยนี้เวลาเปลี่ยนแปลงไป ผมคิดว่าตัวเองโชคดีอย่างหนึ่ง คืออยู่มาตั้งแต่ยุค Analog แล้วก็กระโดดข้ามมาที่ยุค Digital เรื่องราวของการนำเสนอวิธีเล่าเรื่องผีอาจจะถูกปรับเปลี่ยนไป อย่างสมัยก่อนคนโทรมาเล่าจะเน้นไปที่เหตุการณ์ เจอแล้วจบ แต่สมัยนี้วิธีการเล่าเรื่องผีที่เรารู้สึกว่าคนชอบ ก็คือการปูเนื้อเรื่องมาก่อน เขาจะได้ลำดับเหตุการณ์ว่าพบเจออะไรมาบ้าง 1-2-3-4-5 หรือบางคนอาจล้ำหน่อย เล่าย้อนจาก 5-4-3-2-1 เพราะฉะนั้นวิธีการฟังเรื่องผีแบบยุคนี้สมัยนี้ คนเลยชอบฟังเพราะมันสนุก ฟังเอาบันเทิง อย่างสมัยก่อนฟังเรื่องผีแล้วคือลุ้นว่าจะต้องเกร็งไหม ตื่นเต้นไหม แต่สมัยนี้ความคิดคนเปลี่ยนไปแล้ว ฟังเอามัน ฟังเอาแค่นอนหลับ ฟังให้มีความตื่นเต้น แต่ส่วนอื่นที่มันซ่อนอยู่ในเรื่องผี เช่นเรื่องของกฎแห่งกรรม บาปบุญคุณโทษ อันนั้นผมว่าเป็นผลพลอยได้ของการฟังเรื่องผีของคน ๆ หนึ่ง ที่เขาจะคิดได้ว่า ฟังเรื่องผีแบบนี้ ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้ก็อย่าไปทำแบบนั้น ถ้าไม่อยากโดนกรรมตามสนอง ก็อย่าไปทำร้ายใครก่อน ผมว่าอันนั้นคือผลพลอยได้ของการฟังเรื่องผีมากกว่า”
“ตอนนี้ The Ghost Radio ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 จริง ๆ แล้วมันเป็นความฝันของผมอย่างนึงเหมือนกันนะ จากแค่คนโทรมาเล่าเรื่องผีให้ฟัง ยังสามารถต่อยอดไปทำอะไรได้บ้างในจักรวาลของ The Ghost Radio เราเป็นบริษัทเล็ก ๆ บริษัทหนึ่ง ที่อยากขยายจักรวาลผี จากแค่เรื่องเล่าเราก็ขยับมาเป็นหนังสั้น ขยับมาเป็นแอนิเมชัน จนกระทั่งขยายมาเป็นซีรีส์ เป็นภาพยนตร์ และอีกสิ่งหนึ่งที่เราทำอยู่ ก็คือขยายมาเป็นงานอีเวนต์ ซึ่งผมคิดว่าประเทศไทยเรา สมควรถึงเวลาสำหรับงานอีเวนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องผีโดยเฉพาะได้แล้ว ปีนี้ผมเลยทำบ้านผีสิงขึ้นมา ผมกล้าพูดได้ว่ามันจะแตกต่างจากที่อื่นนิดหนึ่ง คือถ้าเป็นบ้านผีสิงปกติทั่วไป ก็อาจแค่แต่งผีออกมาหลอก แต่ของเราใช้คอนเซปต์ชัดเจนครับ ว่าสร้างมาจากแรงบันดาลใจเรื่องเล่าใน The Ghost Radio ซึ่งคนที่เข้ามาก็จะได้เห็นผีจากเรื่องราวหลากหลายที่เอามารวมอยู่ในสถานที่แต่ละหลัง ปีนี้ผมทำออกมาเป็น 3 หลัง มีบ้าน โรงแรม และโรงพยาบาล เราก็จะใช้ผีจากเรื่องเล่าแต่ละเรื่อง เข้าไปสอดแทรกอยู่ในจุดต่าง ๆ ที่คุณเข้ามาเห็นแล้วจะร้อง อ้าว! นี่ผีจากเรื่องนี้ที่เคยฟัง จะออกมาหลอกคุณ ออกมากระตุกต่อมความกลัวของคุณ ออกมากระชากขวัญคุณ แล้วก็เป็นบ้านผีสิงแบบจริงจัง ทุกสิ่งทุกอย่างเราใช้เป็นของที่ใกล้เคียงกับของจริง แล้วบางอันก็ใช้ของจริงเลย ทีมงานของผมดุเดือดมาก”
“อยากจะฝากชวนสำหรับท่านที่ชื่นชอบเทศกาลฮาลโลวีน ชอบบ้านผีสิง หรือชื่นชอบการฟังเรื่องผี ทาง YouTube The Ghost Radio ของเราก็เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเข้ามาฟังกัน ส่วนงานอีเวนต์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ที่ศูนย์การค้า Union mall ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 พฤศจิกายน ถ้าใครเห็นข้อความนี้ก็อยากให้ลองแวะมาดูบ้านผีสิงของ The Ghost Radio ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไปดูงานที่ต่างประเทศมาหลายปีมาก แล้วก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีบ้านผีสิงที่น่ากลัวจริง ๆ สักที อยากให้ทุกคนมาลองดูครับ ว่าบ้านผีสิงของเราจะน่ากลัวขนาดไหน”
