EXCLUSIVE INTERVIEW “ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงการต่างประเทศ “พรประเสริฐ กาญจนจารี” กรรมการ บริษัท ซิว พานาโซนิค จำกัด และรองประธาน บริษัท ชาโต เดอ แบงคอค จำกัด เรียนรู้ มุ่งมั่น เพื่อเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน

0
436

ผู้หญิงเก่งมากความสามารถ ดร.เจี๊ยบ–ลาลีวรรณ กาญจนจารี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เธอถือเป็นอีกหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนงานเพื่อสังคมให้กับมูลนิธิและสมาคมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งรองประธานมูลนิธิกฤตานุสรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายกสมาคมสตรีเพื่อสตรี นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สธวท.) และเคยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็น Zonta International Nominating Committee Member (At-Large) สโมสรซอนต้าสากล ซึ่งเธอเป็นหญิงไทยคนแรกที่ได้รับเลือก และในบทบาทความเป็นแม่ก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คนให้เป็นบุคลากรคุณภาพ อย่าง คุณกานต์-พรประเสริฐ กาญจนจารี บุตรชายคนเล็ก หลังจบการศึกษาจากอังกฤษก็กลับมานั่งแท่นเป็นกรรมการ บริษัท ซิว พานาโซนิค จำกัด และรองประธาน บริษัท ชาโต เดอ แบงคอค จำกัด โดยดำเนินธุรกิจโรงแรมเรดิสัน โฮเทล ชาโต เดอ แบงคอค ซึ่งเธอบอกว่าทำงานได้ดีสมใจคุณแม่จริงๆ   

ดร. เจี๊ยบ : ดิฉันเลี้ยงลูกสไตล์ทันสมัย ให้เขาพึ่งพาตัวเอง มีความมั่นใจ และช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้าแม่ไม่อยู่ก็สามารถดำเนินชีวิตไปได้อย่างถูกต้อง น้องกานต์ไปเรียนที่อังกฤษตอน 11 ขวบ ในช่วงแรกเขาก็ไม่ค่อยชอบ แต่พอปรับตัวได้เขาก็ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในต่างประเทศ ทั้งในแง่ของความคิด ได้เห็นโลกที่กว้างมากขึ้น ได้เจอเพื่อนจากหลากหลายประเทศ การไปเรียนต่างประเทศทำให้เขาเป็นคนที่ปรับตัวง่าย ซึ่งที่เลือกส่งเขาไปเรียนยังอังกฤษ เนื่องจากครอบครัวเราจบจากที่นั่นทุกคน ซึ่งเป็นเรียนโรงเรียนประจำที่จะช่วยเรื่องของระเบียบวินัยและมีความคิดที่กว้างไกลมากขึ้น ดิฉันมองว่าสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ในฐานะแม่ก็อยากให้เขาไปเรียนรู้ชีวิต คนอังกฤษจะเป็นคนประหยัด เวลาซื้ออะไรจะต้องคิดให้ถี่ถ้วน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ลูกๆ ทุกคนจะรู้จักการใช้เงิน

คุณกานต์ : ตอนที่ผมอยู่กับครอบครัวก็ใช้ชีวิตค่อนข้างมีระเบียบ เพราะคุณแม่ท่านเป็นเจ้าของธนาคาร ทุกอย่างที่ท่านทำจะมี logic มากๆ คุณพ่อ (พรเสก กาญจนจารี) เองก็เป็นนักธุรกิจ ชีวิตผมต้องมีวินัย ตรงต่อเวลา ดื้อบ้างตามประสา ตอนเด็กๆ คุณแม่อยากให้ผมได้ใช้ชีวิตแบบที่ชอบ แต่ขออย่างเดียวคือ “ต้องตั้งใจเรียน” และ “มีระเบียบวินัย” หลังจากไปเรียนต่อที่อังกฤษและสกอตแลนด์ อยู่ที่นั่น 10 กว่าปี ชีวิตช่วงนั้นถือเป็นช่วงปรับตัวมาก เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่มีความสุขที่สุดคือได้อยู่กับคุณแม่และครอบครัว ในช่วงแรกที่ไปจะรู้สึกอิจฉาคนที่อยู่เมืองไทย เพราะได้อยู่กับครอบครัวทุกวัน การที่ผมอยู่โรงเรียนประจำก็ต้องดูแลตัวเอง ซึ่งก็ทำให้ผมแข็งแกร่งและเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ค่อนข้างเยอะ คุณแม่ท่านก็สนับสนุนผมทุกเรื่อง เช่น ตอนเรียน High School อยากเป็นนักกอล์ฟ ท่านก็จัดหาโค้ชระดับโลกมาให้ ผมได้ซ้อมกับคาเมรอน สมิธ พอช่วงเรียนมหาวิทยาลัยท่านก็ไม่เคยบังคับ ทุกอย่างในชีวิตไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ผมว่าคุณแม่เป็นคนที่ Strong Opinions ท่านเปิดโอกาสให้กับผมเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร 

ติดตามอ่านฉบับเต็มได้ในนิตยสาร HOWE ฉบับ 126

สามารถสั่งซื้อ E-Book ผ่านทาง Meb : https://www.mebmarket.com/ebook-329185-Howe-No–126

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.