“A Real Pain” ภาพยนตร์สุดซึ้งปนเสียงหัวเราะกับเคมีต่างขั้วแต่ลงตัวของ “เจสซี ไอเซนเบิร์ก” และ “คีแรน คัลกิ้น” สองนักแสดงนำที่จะทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มบนคราบน้ำตา 30 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

0
128

นับเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างท่วมท้นจากผู้ชมและนักวิจารณ์ สำหรับ “A Real Pain” ภาพยนตร์ฟีลกู้ดเรื่องล่าสุดจาก Searchlight Pictures ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก (Jesse Eisenberg) ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเรา 30 มกราคมนี้ โดยหนึ่งในแง่มุมที่ผู้ชมต่างยกให้เป็นที่สุด คือบทบาทการแสดงของสองนักแสดงนำอย่าง เจสซี ไอเซนเบิร์ก และ คีแรน คัลกิ้น (Kieran Culkin) ที่หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เคมีระหว่างทั้งคู่คือส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ซาบซึ้งและกินใจอย่างที่สุด

“A Real Pain” บอกเล่าถึงการเดินทางสุดอลเวงของ เดวิด (Devid) และ เบนจิ (Benji) ลูกพี่ลูกน้องคนละขั้วที่แตกต่างและไม่เข้ากันเลย แต่ต้องเดินทางไปทัวร์โปแลนด์เพื่อให้เกียรติและรำลึกถึงคุณยายผู้เป็นที่รักของพวกเขาด้วยกัน การผจญภัยครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความท้าทายและบททดสอบ เมื่อความตึงเครียดระหว่างทั้งคู่กลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางภูมิหลังประวัติครอบครัวของพวกเขา โดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ สวมหมวกอีกใบในฐานะนักแสดง รับบทเป็น “เดวิด” หนุ่มนิวยอร์กผู้เอาจริงเอาจังตลอดเวลา เขาทำงานสายเทคที่แม้จะไม่หวือหวาแต่ก็มั่นคง โดยมีภรรยาและลูกรออยู่ที่บ้านในบรูคลิน และ คีแรน คัลกิ้น รับบทเป็น “เบนจิ” ลูกพี่ลูกน้องผู้มีจิตวิญญาณอิสระ คาดเดาไม่ได้ ซึ่งภายนอกดูเหมือนเป็นคนร่าเริง ทว่าเก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใน

คัลกิ้นเผยถึงความสัมพันธ์ของสองตัวละครเอกใน “A Real Pain” ว่า “เดวิดและเบนจิเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมากในวัยเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นก็ห่างเหินกันไป โดยต่างคนต่างมีวิธีรับมือกับเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแตกต่างกัน คนหนึ่งดูเหมือนจะก้าวไปข้างหน้าและปรับตัวได้ดี ในขณะที่อีกคนกลับติดอยู่ที่เดิม โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ จนกระทั่งทั้งคู่ต้องมาพบกันอีกครั้ง เพื่อไปโปแลนด์ ซึ่งเป็นการกลับมาเจอกันในรอบหลายปี” และทัวร์โปแลนด์ครั้งนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวที่ทำให้การต่อสู้ภายในจิตใจของแต่ละคนค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

ไอเซนเบิร์กบอกว่าเดิมทีเขาตั้งใจจะสวมวิญญาณอิสระรับบทเป็นเบนจิ ผู้เปี่ยมเสน่ห์แต่ก็น่าหงุดหงิดไม่น้อยไปกว่ากัน “ผมเขียนบทจากมุมมองของตัวละครแบบนั้นมามาก เพราะผมใฝ่ฝันที่จะเป็นคนแบบนั้น คนที่ผ่อนคลาย เปิดกว้าง ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งอาจจะต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าเหมือนที่ผมกำลังเผชิญอยู่ แต่จัดการกับมันด้วยวิธีที่เป็นอิสระกว่า” เขาเผย แต่ก็ต้องยอมรับว่า คีแรน คัลกิ้น ทำให้เบนจิเป็นดาวเด่นของเรื่องนี้ได้อย่างแท้จริง เขาถ่ายทอดบุคลิกที่กระตือรือร้นและมีเสน่ห์ในช่วงหนึ่ง ก่อนจะพลิกผันเป็นหดหู่และประชดประชันในเวลาต่อมา จนเรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ยากจะให้คำจำกัดความ แม้จะเป็นคนที่ดูเข้าถึงง่าย สบาย ๆ แต่ในเบื้องลึกเบนจิกลับมีปัญหาทางอารมณ์ที่ยังไม่ถูกแก้ไข ซึ่งเขาปกปิดเอาไว้ด้วยอารมณ์ขัน และคัลกิ้นก็เข้าใจความเป็นเบนจิอย่างถ่องแท้ ตั้งแต่อ่านบทครั้งแรก จนรู้สึกสนิทกับตัวละครตัวนี้มาก ๆ และถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าชม จนผู้กำกับอย่างไอเซนเบิร์กออกปากว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไปรอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวละครตัวนี้เลย ซึ่งคีแรนทำออกมาได้แบบที่ผมต้องการจริง ๆ เขาสามารถเปลี่ยนจากมุกตลกดาด ๆ ไปเป็นการสนทนาปรัชญาสูง ๆ ในฉากเดียวกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นว่าเขาทั้งฉลาดและตลก ในขณะเดียวกันยังเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายอยู่ภายใน

สำหรับไอเซนเบิร์กในบทเดวิดก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมากว่าเป็นการรับบทบาทที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุด สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกที่ถูกลูกพี่ลูกน้องกลบความสำคัญตลอดทริปได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่เรื่องราวภูมิหลังของครอบครัวในโปแลนด์จะนำเขาไปสู่ที่มาของชื่อเรื่อง A Real Pain “มันเป็นการตั้งคำถามว่าความเจ็บปวดอะไรที่เป็นจริง และอะไรที่มีความหมาย ความเจ็บปวดจากโรคย้ำคิดย้ำทำของเดวิดเป็นเรื่องจริงหรือไม่เมื่อกำลังเยี่ยมชมสถานที่ที่เคยเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และความวิตกกังวลของเขาเป็นเรื่องจริงและมีความหมายหรือไม่ ในเมื่อลูกพี่ลูกน้องของเขาประสบสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่า นั่นคือสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งคำถาม” ผู้กำกับของเรื่องกล่าว ซึ่งทั้งไอเซนเบิร์กและคัลกิ้นต่างสวมวิญญาณเป็นเดวิดและเบนจิได้อย่างเข้าถึงราวกับเป็นลูกพี่ลูกน้องกันจริง ๆ ทั้งยังสื่อถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของพวกเขาออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจนน้ำตาซึมและยิ้มออกมาได้พร้อมกัน อีกทั้งยังพร้อมใจยกให้ “A Real Pain” เป็น Road Movie ที่เยียวยาจิตใจและให้บทเรียนอันน่าจดจำด้วย

ทั้งนี้ คีแรน คัลกิ้น เป็นนักแสดงมากฝีมือที่ฝากผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ในภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ “Scott Pilgrim vs. The World”, “Igby Goes Down” และเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการรับบท Roman Roy ในซีรีส์เรื่องเยี่ยม “Succession” ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล Emmy® Critics Choice Award และ Golden Globe Awards® นอกจากนี้บทบาทการแสดงอันโดดเด่นของเขาใน “A Real Pain” ยังส่งให้คัลกิ้นคว้ารางวัล Golden Globe Awards® สาขานักแสดงภาพยนตร์สมทบชายยอดเยี่ยมจาก The 82nd Annual Golden Globes มาครองด้วย ด้าน เจสซี ไอเซนเบิร์ก ไม่เพียงเป็นนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ เขายังเป็นนักเขียนบทละครและนักเขียนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ก่อนจะโชว์ฝีมือด้านการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก “When You Finish Saving the World” ที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ จนมาถึง “A Real Pain” ซึ่งสร้างชื่อให้ไอเซนเบิร์ก เป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่น่าจับตามองมากที่สุด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรางวัลจากเวทีต่าง ๆ มาแล้วมากมาย รวมถึงได้เข้าชิง Golden Globe Awards® ถึง 4 รางวัล ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทเพลงหรือคอมเมดี้, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม “เจสซี ไอเซนเบิร์ก”, นักแสดงภาพยนตร์สมทบชายยอดเยี่ยม “คีแรน คัลกิ้น” และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 

เตรียมไปพิสูจน์เคมีทางการแสดงของ เจสซี ไอเซนเบิร์ก และ คีแรน คัลกิ้น ที่สร้างความประทับใจมาแล้วในหลายประเทศกับ “A Real Pain” ภาพยนตร์สุดซึ้งปนเสียงหัวเราะ กับเคมีต่างขั้วแต่ลงตัว ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

 #ARealPainTH

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.