พริม-ศุภศรา หงศ์ลดารมภ์ Live Wedding Painting ศิลปินผู้สร้างสรรค์ภาพความทรงจำในวันพิเศษ ด้วยศิลปะสีน้ำที่บันทึกความงดงามแห่งรักแท้

0
77

การบันทึกช่วงเวลาสำคัญด้วยภาพถ่าย เป็นสิ่งที่คุ้นเคยและขาดไม่ได้ในการเก็บเรื่องราวอันคมชัด แต่สำหรับ พริม-ศุภศรา หงศ์ลดารมภ์ ศิลปินวาดภาพในงานแต่ง เจ้าของ IG: primiita ที่เธอเลือกใช้ศิลปะเป็นสื่อกลาง เปลี่ยนช่วงเวลาสำคัญเหล่านั้นให้กลายเป็นภาพสีน้ำ เพื่อถ่ายทอดบรรยากาศและความรู้สึกที่เบ่งบานไปด้วยสีสันแห่งความสุข ผ่านการตวัดพู่กันด้วยเส้นสายและเฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ช่วงเวลาสุดแสนพิเศษ ที่ไม่ต้องลงรายละเอียดชัดเจน แต่จะประทับอยู่ในความทรงจำสุดหัวใจ 

“ต้องบอกก่อนว่าพริมวาดรูปพอร์เทรตมาอย่างโชกโชน วาดรูปคนในแบบต่าง ๆ มาเยอะมาก เวลาเขา launch product หรือจัดงานอีเวนต์ ทั้งแบบไพรเวตและพับลิค อย่างเช่น Chanel, Gucci, Fendi, Prada ฯลฯ พริมเคยวาดรูปมาหมดแทบจะทุกแบรนด์แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้จะเป็นแบบไพรเวต หมายถึงมีแค่ลูกค้าของแบรนด์นั้น ๆ ที่รู้ พริมจะไม่ค่อยทำคอนเทนต์เท่าไหร่ จนกระทั่งรู้สึกว่าจริง ๆ การวาดหน้าคนเราก็ชอบเนอะ เราถึงทำได้ แต่เราอยากจะลองทำอย่างอื่นมากขึ้นด้วย แล้วพอดีว่าเพื่อนพริมที่สนิทกันมาก เป็นศิลปินเหมือนกัน วาดรูปตามอีเวนต์ด้วยกันมาก่อน เขาเชิญไปงานแต่งงาน เลยคิดว่าเราเอากระดาษกับสีไปในงานด้วยดีไหม คิดว่าเขาเห็นเราทำแบบนี้ต้องยิ้มแน่เลย แล้วปรากฏว่าพอเราวาดรูปแล้วเอาไปให้ดู เขาดีใจมาก ก็เลยรู้สึกว่าในงานแต่งงาน สิ่งแรกที่คู่บ่าวสาวจะได้เห็นก่อนก็คือรูปจากที่เราวาด ไม่ใช่รูปจากช่างภาพ ก็เลยสปาร์คจอยจนอยากทำต่อค่ะ”

“การวาดภาพพอร์เทรต กับการวาดภาพสดในงานแต่ง แตกต่างกันมากค่ะ เพราะพอร์เทรตปกติจะเป็นการนั่งแบบตัวต่อตัว หรืออย่างมากก็คือกรุ๊ปช็อต แต่งานแต่งงานมีองค์ประกอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซุ้มดอกไม้ แขกที่เดินไปเดินมา สิ่งที่พริมจะต้องทำคือแคปเจอร์ซีนนั้น ๆ ให้สวยละมุนที่สุด เหมือนเราเป็นช่างภาพคอยบันทึกรูป เราก็ต้องลองดูว่ามุมไหนดี มุมไหนสวย พยายามถ่ายทอดสิ่งที่เรามองเห็นจากงานแต่งนั้น ให้ออกมาเป็นงานศิลปะมากที่สุด”

“การเลือกใช้สีและเทคนิควาดภาพ เป็นรสนิยมของใครของมัน อย่างตัวพริมเป็นคนที่ชอบสีขาวอยู่แล้ว จริง ๆ คือเราเป็นนางเงือก (หัวเราะ) ชอบมุกค่ะ เลยชอบสีขาวที่เจือไปด้วยสีรุ้งอยู่ในนั้น ดังนั้นเวลาพริมวาดรูปออกมา ชุดเจ้าสาวจะไม่ใช่โทนขาวแบบแห้งๆ จะไม่แบน เป็นขาวแบบเหลือบรุ้งไปหมดทุกอย่าง การวาดสีให้หวานหรือใช้สีขาวที่เจือสีรุ้ง แล้วก็อยากให้มีความฟุ้งเหมือนแฟรี่เทลอยู่ในนั้น ซึ่งมักไปโดนใจเจ้าสาว เลยคิดว่าสิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นซิกเนเจอร์ของพริมด้วยค่ะ เคยมีคนชมบ่อยเรื่องสีรุ้งในผลงาน คนจะคอมเมนต์ตลอดว่าเป็นคนวาดรูปสีหวานมาก เพราะพริมเป็นคนชอบสีเยอะ ๆ อย่างการเจือสี สมมติถ้าเป็นสีฟ้าก็จะไม่ได้มีแค่ฟ้าอย่างเดียว เหมือนชุดที่พริมใส่วันนี้ จะมีหลายสีอยู่ด้วยกัน อันนี้น่าจะเป็นจุดเด่นของงานพริม”

“เวลาไปวาดรูปในงานแต่ง พริมจะใช้เวลาในการวาดประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนใหญ่เป็นงานขนาด A2 ถือแล้วกำลังสะใจพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไป เป็นไซส์ที่มองแล้วรู้สึกสบายตา อีกอย่างคือบ่าวสาวเขาขยับเร็ว เขามีไทม์ไลน์ของพิธีการที่บังคับอยู่ พริมไม่สามารถวาดรูปให้ใหญ่ไปกว่านี้ได้ เพราะงานสีน้ำยิ่งใหญ่ก็ยิ่งยาก คิดว่าไซส์นี้กำลังดีสำหรับเวลา 2 ชั่วโมง ส่วนสิ่งที่ทำให้การทำงานยากก็มีมาก เช่นเวลายืนวาดรูปแล้วมีคนมาสนใจ อันนี้เล่าแบบขำๆ นะคะ ที่เจอบ่อยมากคือเดินเข้ามาดูแล้วก็ถามอย่างอื่นไปเรื่อย จนตอนนี้พริมต้องมีผู้ช่วยคอยกัน จากเมื่อก่อนช่วยกันจัดของ ช่วยดูไทม์เทเบิล แต่ตอนนี้ผู้ช่วยต้องเป็นเหมือนบอดี้การ์ดด้วย (หัวเราะ)”

“ปัญหาอีกอย่างที่ต้องแก้ไขเฉพาะหน้า คือเวลาไปวาดภาพแบบเอาต์ดอร์ พริมไม่สามารถควบคุมแสงของวันนั้นได้ ถ้าเกิดมีฝนตกเราก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ ส่วนบางงานแสงสว่างมากจนมองอะไรไม่เห็นเลย กระดาษกลายเป็นเหมือนโคมไฟสะท้อน เมื่อก่อนพริมทำคนเดียวก็จะทุลักทุเลหน่อย ตอนนี้เลยต้องมีผู้ช่วยในการเอาตัวรอด ที่เหลือก็คือเราจะจัดการยังไงให้งานนี้เสร็จภายในเวลา”

“พริมมองว่าเสน่ห์ของสีน้ำที่ทำให้รู้สึกน่าหลงใหล สีน้ำเป็นสีที่เกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายาก เป็นสีที่เหมือนเขาสอนให้พริมรู้สึกเข้าใจความไม่เพอร์เฟกต์อยู่ตลอดเวลา เพราะสีน้ำเป็นสีที่ถ้าเราลงน้ำไปปุ๊บ! เราต้องเอาสีตามเลย มันถึงจะเป็นสีน้ำ มันแห้งไม่ได้ เพราะถ้าแห้งเมื่อไหร่มันจะวาดไม่ได้ ดังนั้นพอน้ำเปียกแล้วเราต้องเติมสีลงไปก่อนที่มันจะแห้งเหมือนเรามีตัวจับเวลาอยู่เสมอ บังคับว่าเราต้องวาดให้เสร็จภายในเวลา และแปลว่าเราไม่สามารถแก้ได้ สมมติว่าเราต้องวาดรูปหนึ่งภายใน 2 ชั่วโมง เราก็ต้องรับให้ได้ว่าผลงานออกมาเป็นแบบนี้ สุดท้ายพริมเลยชอบที่มันสอนให้เรารู้สึกพอใจและไม่ใช่แค่นั้น ยังสอนให้เราเห็นว่าสวยแบบธรรมชาติ มันสวยขนาดไหน อย่างงานในห้องพริม จะไม่ค่อยซื้อหรือสะสมหรือแสดงชิ้นงานที่มีความเป๊ะ พริมชอบอะไรที่ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ ความไม่จีรังของบางสิ่งบางอย่าง ความไม่เพอร์เฟกต์ของมันก็คล้ายกับเวลาที่เราถ่ายรูปโพลารอยด์ พริมถึงชอบรูปโพลารอยด์มาก เพราะเราไม่สามารถเดาได้ว่าจะออกมาเป็นยังไง”

“พริมวาดภาพมา 11 ปีแล้ว จริง ๆ อยากวาดรูปไซส์ใหญ่ขึ้นกว่านี้ และอยากไปวาดที่ต่างประเทศมาก ๆ เพราะพริมอินกับความรัก ชอบเวลาที่เห็นคนมีความสุข แล้วงานแต่งงานเป็นบรรยากาศที่ดีอยู่แล้ว อยากจะเห็นการเสกแฟรี่เทลให้เป็นจริงของผู้หญิงทุกคน ยิ่งไปต่างประเทศมันน่าจะสนุกมาก คิดว่าในอนาคตอยากมีโอกาสได้ไปวาดศิลปินนักแสดงที่ต่างประเทศบ้าง แต่ศิลปินไทยก็อยากวาดเหมือนกันนะคะ”

“พริมเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้การทำงานศิลปะหล่อเลี้ยงตัวเราได้ในระดับนึง ประกอบไปด้วย 2 อย่าง อย่างแรกคือความสามารถ ถ้าความสามารถของเราถึงแล้วให้ไปอย่างที่สอง คือการตลาด พริมเชื่อว่าหลายคนทำการตลาดก่อนที่จะฝึกฝีมือ พริมคิดว่าลูกค้าสำคัญกับเรามาก การบอกปากต่อปากเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะก่อนหน้าที่จะมายืนอยู่จุดนี้ พริมวาดรูปเป็นแบบไพรเวตทั้งหมด ไม่เคยลงรูป หรือถ้าลงก็น้อยมาก ๆ เพราะงานเต็มตาราง การที่ลูกค้ารู้จักเราจึงมาจากปากต่อปาก สำคัญมากที่สุดยิ่งกว่าการตลาดทั่วไป แล้วพอถึงจุดนั้นเราค่อยมาทำการตลาดที่เป็นแมสโปรดักชันอีกที”

“นอกจากการวาดภาพในงานแต่งแล้ว พริมยังมีอะไรหลายอย่างที่อยากทำในฐานะศิลปินมาก ก็คือการแสดงงานที่เป็นของตัวเองจริงๆ เพราะงานวาดรูปในงานแต่ง คืองานที่ถูกซื้อตั้งแต่ก่อนที่เราจะวาดเสียอีก เราไม่มีโอกาสที่จะเก็บมันกลับมา มันเลยดูเป็นสตูดิโอที่สะอาดเกลี้ยงเกลากว่าสตูดิโอศิลปินที่ทุกคนคิด เพราะงานพริมไม่ได้อยู่กับพริมแล้ว ดังนั้นสิ่งที่อยากทำหลังจากนี้ คือการวาดรูปแสดงแล้วก็เก็บเอาไว้กับเราบ้างค่ะ”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.