ภาคกลางของไต้หวันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น “หนานโถว” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของไต้หวันและเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากมีทัศนียภาพที่ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามทั้งภูเขาสูง และทะเลสาบสีคราม รวมถึงการเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่ที่ไม่เหมือนใคร โดยในทุกปีเทศกาล Sun Moon Lake 2024 Come! Bike Day ณ ทะเลสาบสุริยันจันทรา เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลดนตรีและดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ที่สิงห์นักปั่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างรอคอย โดยในครั้งนี้การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ จะพาทุกคนลัดเลาะไปยัง 5 แลนด์มาร์คสำคัญของหนานโถวเผื่อใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในทริปถัดไป รับรองว่าจะประทับใจไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
· เปิดพิกัดสวิตเซอร์แลนด์แห่งดินแดนไต้หวัน ณ ฟาร์มชิงจิ้ง (Qingjing Farm)
ประเดิมหมุดแรกกับหนึ่งในแลนด์มาร์คสุดอันซีนที่สวยจนใคร ๆ ต่างขนานนามที่แห่งนี้ว่า “สวิสแห่งไต้หวัน” เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงทำให้มองเห็นภูมิทัศน์ที่งดงาม เขียวชอุ่ม พร้อมให้สูดโอโซนจากอากาศบริสุทธิ์และรับลมหนาวเย็นสบายกันได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ที่นี่ยังมีน้องแกะสุดน่ารักพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารและถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่เตรียมไว้ต้อนรับผู้ที่มาเยือนให้ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและธรรมชาติอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโชว์ตัดขนแกะที่หาชมได้ยาก และเส้นทางธรรมชาติที่ชวนให้ทุกคนมาลัดเลาะชมธรรมชาติที่เงียบสงบ เรียกว่าเป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนที่ชาวไต้หวันและต่างชาติหลายคนหลงรักและนิยมมาเที่ยวกันอย่างต่อเนื่อง
· สัมผัสความมหัศจรรย์บนเส้นทางจักรยานระดับโลก ณ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)
ไปต่อกันที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา ทะเลสาบสีครามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวน่าหลงใหล โดยฝั่งตะวันออกของทะเลสาบมีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์ และฝั่งตะวันตกมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว จึงเป็นที่มาของชื่อ “สุริยันจันทรา” นอกจากความสวยงามที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงตัดกับน้ำทะเลสีครามแล้วที่แห่งนี้ยังมีเส้นทางจักรยานที่สวยติดอันดับโลก จึงได้กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสิงห์นักปั่นที่จะมาปั่นจักรยานหรือเดินกินลมชมวิวทิวทัศน์ริมทะเลสาปกันแบบฟิน ๆ นอกจากนี้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี ทะเลสาบสุริยันจันทราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลประจำปีสุดยิ่งใหญ่อย่าง Sun Moon Lake Come! Bike Day ที่ได้รวบรวมเสน่ห์ของไต้หวันมาจัดแสดงให้ได้รับชมกันแบบเต็มอิ่มทั้งโชว์จุดพลุแสงสีเสียงตระการตา การแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น ดนตรีสด และตลาดสินค้าพื้นเมือง รับรองว่าฟินครบทุกอรรถรสใครที่กลัวพลาดรีบปักหมุดงานนี้เอาไว้ได้เลย
· สักการะขอพรริมทะเลสาบสุริยันจันทรา ณ วัดเหวินอู่ (Wenwu Temple)
ไหน ๆ ก็มาถึงทะเลสาปสุริยันจันทราแล้ว แนะนำให้แวะมาสักการะไหว้เทพเจ้าที่วัดเหวินอู่ หนึ่งในวัดที่มีความสำคัญและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน โดยวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้และการศึกสงคราม โดยแบ่งเป็นสองส่วนหลักส่วนที่บูชาเทพเจ้าแห่งปัญญา (ขงจื่อ) และส่วนที่บูชาเทพเจ้าแห่งสงคราม (เทพเจ้ากวนอู) บรรยากาศภายในวัดมีรูปปั้นและศาลเจ้าที่สลักอย่างวิจิตรบรรจง และโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนที่งดงาม ส่วนบรรยากาศรอบวัดมีความสงบร่มรื่นด้วยทิวทัศน์ของทะเลสาบและภูเขา ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสักการะและพักผ่อนใจ แอบกระซิบเคล็ดลับสายมูกับความเชื่อว่าหากเดินขึ้นบันได “366 ขั้น” จะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเดินทางสู่ความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรือง ใครรู้แล้วอย่าลืมมาลองขึ้นบันไดกันดูนะ
· เยือนถิ่นศิลปะการปั้นดินเผาโบราณของไต้หวันที่สวนเซรามิกสุยหลี่ (Shuili Snake Kiln Ceramics Cultural Park)
ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรมแล้ว เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนหนานโถวทั้งทีต้องไม่พลาดไปสวนเซรามิกสุยหลี่ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่โดดเด่นในด้านการผลิตเซรามิกแบบโบราณที่ใช้เตาเผาทรงยาวคล้ายงู ซึ่งเรียกว่า “เตางู” (Snake Kiln) สถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และสืบทอดศิลปะการปั้นดินเผาแบบดั้งเดิม โดยนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนสวนเซรามิกสุยหลี่แห่งนี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชมกระบวนการผลิตเซรามิก ตั้งแต่การปั้น การขึ้นรูป และการเผาในเตาโบราณที่มีอายุเกือบ 100 ปี นอกจากนี้ยังสามารถทดลองปั้นเซรามิกด้วยตัวเอง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์กันได้อีกด้วย
· สุดตระการตาไปกับแสงสีเสียงท่ามกลางธรรมชาติในเทศกาล Sun Moon Lake 2024 Come! Bike Day
ตื่นตาตื่นใจไปกับเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ในไต้หวันอย่างเทศกาล Sun Moon Lake 2024 Come! Bike Day หรือเทศกาลดนตรีและดอกไม้ไฟ ณ ทะเลสาบสุริยันจันทรา และร่วมชมการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตาที่เลื่องชื่อ จนทำให้กลายเป็นสีสันและเกิดเป็นเทศกาลสำคัญของไต้หวันในการแสดงดอกไม้ไฟนานาชาติที่มีชื่อเสียงและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวชมเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยเทศกาลนี้จะจัดในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน โดยมีคอนเซ็ปต์การจัดงานที่ผสมผสานระหว่าง “ศิลปวัฒนธรรม” กับ “การพักผ่อนหย่อนใจ” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำบรรยากาศแสงสีเสียงท่ามกลางธรรมชาติกันกว่า 1 เดือนเต็ม พร้อมให้เพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีหลากหลายแนวจากศิลปินชั้นนำของไต้หวันและนานาชาติ ตื่นตาตื่นใจไปกับการชมพลุและโชว์ดอกไม้ไฟสุดอลังการเหนือทะเลสาบ และตลาดสินค้าพื้นเมืองที่ชวนให้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และของฝากที่หลากหลายอีกด้วย เรียกว่าใครที่ได้มาต้องประทับใจไม่รู้ลืมเลยล่ะ
ใครอ่านจนจบแล้วเตรียมกาปฏิทินแล้วออกเดินทางไปสัมผัสกับดินแดนแห่งธรรมชาติที่รอทุกคนเข้ามาค้นหาความมหัศจรรย์กันได้ที่ “ไต้หวัน” เพราะที่แห่งน้ำพร้อมเติมเต็มความสุขและความทรงที่แปลกใหม่ รับรองว่าทุกคนจะหลงรักไต้หวันในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยทีเดียว สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของทางไต้หวัน ได้จากสำนักงานท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ผ่านทาง https://www.taiwantourism.org/th/ หรือ ช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : Taiwan Tourism TH
