ต้าห์อู๋ พิทยา ศิลปินรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลัง บนเส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่ไม่เคยหยุดฝัน

0
550

ร่วมสำรวจมุมมองของ ต้าห์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว ที่สะท้อนถึงการทำงานหนัก ความหลงใหล และเป้าหมายในชีวิต โดยไม่เคยหยุดตามหาความฝัน แม้เส้นทางจะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่มาถึงวันนี้เขาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังความเชื่อมั่น และความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำพาไปไกลกว่าที่คาดคิด ด้วยจุดเด่นที่เป็นตัวของตัวเอง ความสามารถรอบด้านทั้งร้อง เต้น และการแสดง จนกลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่หลายคนจับตามองแห่งปี 2024

“จริงๆ ผมเริ่มทำงานหารายได้มาตั้งแต่อายุ 19 ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าวันนี้ไม่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้ ผมจะทำอะไรบ้าง แต่ผมเป็นคนไม่ปิดกั้นตัวเอง ทุกวันนี้ผมทั้งคิดคอนเทนท์ตัดต่อ คิดมุมถ่าย พากย์เสียง ลงเสียง ทำสกอร์ ฯลฯ ทำงานเสนอขายลูกค้า มีคนถามว่าทำไมถ้าเล่น TikTok แล้วมัน go well ผมรู้สึกว่าเป็นเพราะผมดูเยอะ เราเห็นว่าคนส่วนใหญ่ชอบอะไร เราอยากทำอะไร แล้วเราก็จะเลือกจับทางได้ถูก ถามว่าถ้าต้าห์อู๋ไม่ได้เป็นศิลปินอย่างทุกวันนี้แล้วน่าจะทำงานอะไร ผมอาจจะเป็นครีเอทีฟก็ได้ หรืออาจเป็นยูทูบเบอร์ เป็นคอนเทนท์ ครีเอเตอร์ ผมรู้สึกชอบทำอะไรหลายอย่างมากกว่าการทำอย่างเดียว”

“ผมใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากเป็นนักร้อง อยากมีคนมาคอยฟังเพลงของเรา เคยคิดว่าจะทำยังไงให้ได้เป็นศิลปิน แล้วต้องทำอย่างไรให้เป็นศิลปินที่มีคนรัก ซึ่งภาพการเป็นศิลปินนักร้องสำหรับผม เหมือนกำลังก้าวไปถึงจุดที่คาดหวังไว้แล้ว แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าการแสดงจะแอบนำไปด้วยซ้ำ อย่างเพลง ‘ละลาย’ ค่อนข้างที่เป็น Identity ของผมในส่วนของการเป็น Solo Artist ก็น่าจะเป็นเพราะมีด้านของการแสดงมาเสริมด้วย หรือแม้แต่ฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นมาจากทางด้านการแสดง ไม่ว่าจะเป็นจากซีรีย์ที่เล่นกับน้องออฟโรด (กันตภณ จินดาทวีผล) หรือภาพยนตร์เรื่อง 404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN”

“การทำงานของผมในแต่ละวัน เราไม่ได้แค่ส่งความสุขไปให้ แต่แฟนคลับทุกคนก็เป็นเหมือนแรงใจให้ผมเหมือนกัน การออกมาทำงานในแต่ละวันมันเหนื่อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ที่เราจะมีวันที่รู้สึกอ่อนล้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งกายทั้งใจ แต่สุดท้ายการพักผ่อนสำหกรับผมคือการที่เราได้ใช้เวลากับตัวเอง หรือไปเจอเพื่อน แล้วความโชคดีของเราคือมีทีมงานที่พูดคุยกันได้ สังคมการทำงานเราค่อนข้างดีมากๆ เลยไม่มีอะไรที่ต้องอัดอั้นไว้คนเดียว หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ซึ่งตอนนี้ผมมีแมวทั้งหมด 8 ตัวครับ เริ่มเลี้ยงจากโน่วก่อน เอามาเลี้ยงคู่กับน้องปรื๊ดของ เจลเลอร์ LAZ1 (กฤติมุก จันทร์ชื่น) พอแยกบ้านกับเพื่อนแล้วก็กลัวน้องเหงา เลยซื้อนิวเยียร์เพิ่ม แล้วเขาก็มาเป็นแฟนกันคลอดลูกมา 5 ตัว ผมเก็บไว้เอง 3 ตัวคือ ไลก้า วัว และหมี แล้วผมเคยฝากโน่วไปเลี้ยงที่ห้องพี่ ซึ่งเขามีแมวชื่อหมูกรอบ ไปๆ มาๆ หมูกรอบดันหลงรักโน่ว ซึ่งเป็นตัวผู้เหมือนกัน เราก็เลยไม่สามารถแยกน้องจากกันได้ หลังจากนั้นเคยมีคนเอาแมวมาฝากผมเลี้ยง แล้วเกิดทำให้น้องวัวท้อง คลอดออกมาอีก 3 ตัว สรุปที่ห้องผมเลยมีแมวทั้งหมด 7 ตัว ส่วนโน่วอยู่ที่ห้องเพื่อน นับรวมแมวของผมเลยมีทั้งหมด 8 ตัว”

“วิธีการเลี้ยงแมวของผมจะไม่ได้เลี้ยงเหมือนเราเป็นเจ้าของ แต่เลี้ยงเหมือนเราเป็นจ่าฝูง เขาไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่คือหนึ่งในสมาชิกครอบครัว คนมักจะถามว่าถ้าผมทำงานทุกวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลแมว ซึ่งจริงๆ แล้วมีคนคอยดูแลแมวเยอะมาก ทั้งพี่สาว พี่ที่เราไปฝากแมวเลี้ยงไว้ ผู้จัดการส่วนตัว พี่ๆ ทีมงาน เรียกว่าน้องไม่มีวันอดอยากปากแห้ง แล้วน้องอยู่ในพื้นที่กว้างมากๆ ผมจะมี 3 ห้องนอน ห้องนึงของผม อีก 2 ห้องของแมว แยกตามชาย-หญิง บวกกับห้องห้องนั่งเล่นที่จะปล่อยออกมาให้เขาได้พักผ่อนกันตอนกลางวันอีก”

“ในชีวิตของคนเรา ผมว่ายังไงวันหนึ่งต้องเจอปัญหาเข้ามาอยู่แล้ว ก็พยายามทำตัวให้ไม่เจอกับปัญหามากที่สุด แต่ถ้าต้องเจอ เราจะทำยังไงให้ออกมาดีมากที่สุด ถ้าเราจะรับมือความท้าทายในอนาคต ผมว่าไม่ต้องกังวลอะไรเลย อยู่แค่กับปัจจุบัน เอาแค่วินาทีนี้ก็มีเรื่องท้าทายเต็มไปหมดแล้ว ผมอยากขอบคุณตัวเองทุกโมเมนต์ของชีวิตนะ เพราะการที่ผมจะเป็นผมในวันนี้ ก็ต้องเคยมีวันที่เราผิดพลาด มันทำให้เราโตขึ้น ได้เรียนรู้ว่าอะไรดี ไม่ดี ทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเอง หรือแม้แต่ในวันที่รู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกต้อง เราก็อยากจะขอบคุณตัวเองด้วย ถ้าไม่มีเราในตอนเป็นเด็กที่เคยผิดพลาด เราในวันที่ร้องไห้ เราในวันที่ไม่ยอมแพ้ ก็จะไม่มีเราที่เป็นเราในวันนี้”

“ผมมีสิ่งที่คิดไว้ว่าอยากทำใน 3 ปีต่อจากนี้อยู่เหมือนกัน ผมเรียน Business Model มาค่อนข้างเยอะ ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเคยได้จับโปรเจกต์หลายอย่าง เป็นมุมที่คนไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าในอีกราว 3 ปีข้างหน้ามีสิ่งที่ผมอยากจะทำให้สำเร็จเหมือนกัน ในฐานะของธุรกิจ แค่คิดและวางแผนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ความท้าทายก็มากองอยู่ตรงหน้าเต็มไปหมดแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเวลาครับ แต่มีไอเดียและมีอะไรอยากทำมากมาย”

“สำหรับปลายปีนี้ ของขวัญที่อยากได้ยังคงเป็นงาน (หัวเราะ) ปีนี้เป็นปีที่เรามีแรงมากๆ ถ้าปีนี้มีงาน แสดงว่าเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ แล้วการทำงานก็ทำให้ได้เจอแฟนคลับ เราได้เจอคนที่เรารัก และคนที่รักเรา ได้เจอเพื่อนๆ ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ ปลายปีนี้เลยไม่อยากขออะไรอีก นอกจากงาน”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.