คุณแนน-รัชชต เศรษฐ์วรเดช ในฐานะนักธุรกิจและนักลงทุนที่มีธุรกิจในมือมากมายหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านเว็บเซอร์วิสสำหรับซื้อขายอะไหล่รถยนต์ รวมถึงยังเป็นนักลงทุนกับบริษัท Startup ทั้งธุรกิจด้านเทคโนโลยีไอที ธุรกิจ PR และการตลาด เป็น Business Builder เป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาคนและธุรกิจยุคใหม่ให้กับบริษัทชั้นนำ ลงทุนใน Tech Company อยู่หลายบริษัททั่วโลก รวมทั้งยังหุ้นกับเพื่อนจำหน่ายรังนกขายอุปกรณ์เครื่องเขียน ขายคอนโดมิเนียม ทำธุรกิจโรงแรมใจกลางเมืองหลายแห่ง เรียกได้ว่าสารพัดธุรกิจที่เธอเห็นโอกาสก็จะคว้าลงทุนเพื่อสร้างรายได้ทันที เส้นทางการทำธุรกิจที่ยาวนานกว่า 20 ปี ไม่เคยหยุดพัฒนา และยังคงเดินหน้ามองหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อลงทุน ด้วย Passion และความหลงใหลกับการทำงาน ทำให้เธอก้าวสู่ความสำเร็จอย่างงดงาม และมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างไม่รู้จักคำว่าย่อท้อ เพราะงานคือพลังขับเคลื่อนชีวิต ให้เธอเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ วัน
“ทุกวันนี้แนนทำธุรกิจหลายอย่าง เห็นธุรกิจอะไรน่าสนใจ น่าลงทุน ซึ่งมีทั้งบริษัทรับจัดงาน Event บริษัท PR และออแกไนเซอร์ ทำงานเป็นนักการตลาด เป็นที่ปรึกษาในเรื่อง Business Builder หรือที่เรียกว่าเป็นนักสร้างธุรกิจ ทั้งธุรกิจใหม่ๆ โดยเราจะเข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำ สร้างโอกาส และต่อยอดธุรกิจจากธุรกิจเดิม ซึ่งถือเป็นงานที่ชอบทำ เพราะรู้สึกว่าการเป็น Business Builder น่าภาคภูมิใจที่เราได้ช่วยให้ธุรกิจสามารถก่อร่างสร้างตัว และรันธุรกิจให้ไปข้างหน้าและเติบโตมากยิ่งขึ้น”
“สำหรับธุรกิจเว็บเซอร์วิสที่จำหน่ายอะไหล่รถยนต์นั้น ถือเป็นความท้าทายความสามารถ เพราะแนนไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไก ขับรถไม่เป็น ก็ต้องมาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ ซึ่งก็สนุกมาก นอกจากการขายอะไหล่และอุปกรณ์รถยนต์แล้ว ตอนนี้ยังทำเกี่ยวธุรกิจด้านการเงิน การธนาคาร รวมทั้งการเข้าไปลงทุนโดยเฉพาะกับบริษัท Startup เด็กรุ่นใหม่ที่มีไอเดีย เก่งเรื่องไอที และนวัตกรรมต่างๆ เมื่อเราเลือกเข้าไปร่วมธุรกิจก็จะใช้ประสบการณ์และความแข็งแกร่งในการวางกลยุทธ์ ทำการตลาด การวางเรื่องราคา และช่วยสร้างธุรกิจโมเดลใหม่ๆ เมื่อคนที่มี know-how กับคนที่มีประสบการณ์มาเจอกัน ก็ทำให้ธุรกิจเดินหน้าและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทุกบริษัทที่แนนเข้าไปร่วมทุน ก็จะเข้าไปช่วยบริหารงานและวางกลยุทธ์ เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างมีทิศทาง และสามารถสร้างผลกำไรได้ ทุกวันนี้ทำธุรกิจน่าจะมากกว่า 10 บริษัท”
“สิ่งหนึ่งที่อยากบอกกับคนในยุค Gen X และ Gen Y ที่อาจจะตามเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือตามยุคดิจิทัลไม่ทัน ซึ่งแนนทำงานมากว่า 20 ปี นั่นหมายถึงว่าอายุก็ไม่น้อยแล้ว (หัวเราะ) แต่สิ่งสำคัญในการที่เราจะทันยุคทันสมัยได้ก็คือต้องเปิดรับ เรียนรู้ พัฒนาตัวเอง และเข้าใจ บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็น Specialist แต่ขอให้เข้าใจ เพื่อนำไปต่อยอดใช้ร่วมกับประสบการณ์ในการวางกลยุทธ์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และนอกเหนือจากการทำงานเราก็ยังนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน ใช้ดูแลลูกๆ เราต้องรู้จัก AI รู้ว่า Blockchain คืออะไร เรื่อง Cyber Security เป็นอย่างไร การเลือกเนื้อหาที่เหมาะสม ใช้สิ่งเหล่านี้ให้เป็นปกติ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว”
“ส่วนตัวเป็นคนชอบทำงานมาก เพราะงานคือ Passion สำหรับแนน คิดเสมอว่าการทำงานจะช่วยสร้างคุณค่าให้ตัวเอง ให้กับสังคม ให้กับเพื่อนร่วมงาน และลูกค้าของเรา แม้จะทำงานเยอะ แต่สิ่งสำคัญก็คือการดูแลเอาใจใส่ลูกสาว (น้องเลิฟลี่) การทำงานเดี๋ยวนี้ทำจากที่ไหนก็ได้เพราะเราใช้เทคโนโลยี ทำให้มีเวลามากขึ้น ทุกวันนี้ก็เลี้ยงลูกแบบใกล้ชิด ไปรับ-ส่งลูกด้วยตัวเองทุกวัน การเลี้ยงลูกแบบมีคุณภาพคือเราต้องมีเวลาดูแลแบบใกล้ชิด ต้องใส่ใจและเข้าใจ เดี๋ยวนี้แค่รักอย่างเดียวไม่พอแล้วนะคะ ด้วยความต่างของวัยทำให้แม่ต้องเรียนรู้วิธีคิดแบบเขา แนนอาจจะไม่ใช่แม่ที่ดีที่สุด แต่ก็พยายามคุยกับลูก ปรับปรุง และเรียนรู้ เพื่อให้เป็นแม่ที่ดีขึ้นและเข้าใจลูกมากขึ้นในทุกๆ วัน”
“นอกจากนี้ในเรื่องของความชอบการทำธุรกิจ ซึ่งต้องยอมรับว่ากว่าจะ Success ก็ต้องใช้ความพยายาม และโชคดีที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ เมื่อเราประสบความสำเร็จและเป็นคนที่เคยได้โอกาส แนนก็ต้องแบ่งปันสิ่งได้รับในฐานะผู้ให้ คนเราจะต้อง Give & Take ไม่ใช่เป็นผู้รับอย่างเดียว การที่เราเป็นผู้ให้ต้องเป็นสิ่งที่ทำอย่างสม่ำเสมอ การทำดี เราทำได้ทั้งต่อหน้าและลับหลังคนอื่น สำหรับแนนคำว่า ‘ให้’ ถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แนนมี Mindset ที่เป็น Positive นั่นก็ทำให้คนรอบข้างได้รับพลังงานดีๆ ประสบการณ์ดีๆ ความคิดดีๆ ทำให้คนที่อยู่รอบข้างเรามีความสุข ใครมีปัญหาก็สามารถปรึกษากับแนนได้ การให้ควรให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ช่วยเหลือแบ่งปันด้วยการบริจาคเงิน ข้าวของเครื่องใช้ มอบทุนอาหารกลางวันกับมูลนิธิต่างๆ ทั้งเด็ก และผู้หญิงขาดโอกาสทางสังคม ซึ่งแนนก็จะพาลูกไปทำเป็นประจำทุกเดือน และยังอยู่ในกองทุน UNHCR ที่จะช่วยเด็กและผู้หญิงที่ลี้ภัยสงครามจากทั่วโลก ซึ่งก็บริจาคมาหลายปีแล้ว รวมทั้งถ้าใครจัดงานบุญงานกุศลอะไรก็พร้อมจะไปเข้าร่วมบริจาค เราทำอย่างนี้ทุกวันก็จะรู้สึกว่าชีวิตมีความสุข สุขจากข้างใน การสร้างกุศลไม่จำเป็นต้องแค่บริจาคเงิน แต่เราทำดี คิดดี พูดดี ก็สร้างความสุขให้กับคนรอบข้างได้ ถึงเราไม่มีเงินทองมากมาย แนนคิดว่าทุกคนสามารถช่วยเหลือสังคมได้ แค่เราตั้งมั่นในความดี ไม่ทำตัวเป็นภาระสังคม แค่ทิ้งขยะให้เป็นที่ ไม่รบกวนเบียดบังเอาเปรียบคนอื่น ให้เกียรติคนอื่น เท่านี้สังคมก็จะน่าอยู่มากยิ่งขึ้นค่ะ”
สามารถสั่งซื้อ E-Book ผ่านทาง Meb : https://www.mebmarket.com/ebook-329185-Howe-No–126