SPECIAL INTERVIEW : ดร.วาสนา อินทะแสง “Fearless : Nothing Can’t Stop Me”

0
602

หากพูดถึงผู้นำในวงการผลิตเครื่องสำอาง และอาหารเสริมแบบครบวงจร ชื่อของ “คุณเมย์ หรือ ดร.วาสนา อินทะแสง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทรีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด (REVOMED (Thailand) Co., Ltd.) จะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง รีโว่เมดเป็นโรงงานรับผลิตและนำเข้าสินค้าเพื่อสุขภาพ และความงามมาตรฐานระดับสากล ครอบคลุมทั้งเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับเจ้าของแบรนด์ (ลูกค้า) มากกว่า 2,000 แบรนด์ ซึ่งธุรกิจของเธอเติบโตแบบก้าวกระโดด จากรายได้หลักสิบล้านก้าวทะยานสู่หลักพันล้านภายในเวลาเพียง 8 ปี

เธอบอกกับเราว่า การที่เธอประสบความสำเร็จจนมีวันนี้ได้ นอกเหนือจากความขยัน มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคแล้ว “คุณแม่” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแรงขับที่ทำให้เธอมี Passion และทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ด้วยความตั้งใจว่า “อยากให้แม่สบาย และมีความสุขทุกช่วงเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่”

“เมย์เริ่มต้นจากการเป็นดีเทลยา ขายยาเวชภัณฑ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ในบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งในตอนที่เป็นพนักงานก็เห็นว่าธุรกิจรับผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมเป็นธุรกิจที่มีอนาคต จึงตัดสินใจเปิดบริษัท รีโว่เมดฯ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 เริ่มต้นด้วยการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ก็พบกับปัญหาเรื่องของระยะเวลาการนำเข้าและเรื่องราคาที่สูงเกินไป รวมทั้งในสมัยนั้นเครื่องสำอางและอาหารเสริมในประเทศหลายเจ้ามีการผสมสารอันตรายลงไปเยอะมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ทำให้ตัดสินใจลงทุนเปิดโรงงานที่ได้คุณภาพและมาตรฐานระดับสากล ซึ่งรองรับลูกค้าทั้ง OEM และ ODM ในรูปแบบ One Stop Solution เน้นขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความต่างที่โดดเด่น และคุณภาพคุ้มราคา จนมีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และในปัจจุบันมีกว่า 2,000 แบรนด์ ซึ่งลูกค้ากว่าร้อยละ 70 กลับมาสั่งผลิตซ้ำ ส่งผลให้ธุรกิจมีอัตราการเติบโตรายปีแบบผสม (CAGR) สูงถึงร้อยละ 69”

“ที่ผ่านมาธุรกิจของรีโว่เมดเติบโตขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายได้ในกลุ่มเครื่องสำอางลดลง แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงร่างกายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน หลายคนตระหนักว่าสุขภาพเราไม่ควรเป็นภาระของหมอหรือพยาบาล ทำให้คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น รวมทั้งการซื้อสินค้าออนไลน์ในไทยก็เติบโตมาก ส่งผลให้มีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก ซึ่งถือเป็นโอกาสของรีโว่เมดที่จะสร้างฐานลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริมที่เรามีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 65 ขณะที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจะอยู่ที่ร้อยละ 35 จากรายได้ทั้งหมด”

“เมย์มีวันนี้ได้ก็เพราะแม่ แค่อยากให้แม่มีชีวิตที่ดีขึ้น

แม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ขยันมาก แม่ส่งเมย์เรียนสูงสุดได้แค่ ม.3 เมย์ก็ต้องฝ่าฝันและผลักดันตัวเอง เอาความขยันเข้าสู่

คิดแค่ว่าถ้าเราขยัน แม้อาจจะไม่รวยล้นฟ้า แต่ว่าเราจะไม่อดตาย เมย์เชื่อแบบนี้ค่ะ”

“การที่รีโว่เมดเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะมี Identity Unique Selling Point (I-USP) ที่มุ่งใช้นวัตกรรมนำการตลาด สิ่งที่เรามุ่งมั่นคือเรื่องของ Innovative Revolution : การปฏิวัติอุตสาหกรรมผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ซึ่งแลกมาด้วยการลงทุนด้านการวิจัยที่ค่อนข้างสูง เรามีพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งภาครัฐและเอกชน เราได้ลงนาม MOU ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อนำงานวิจัยมาพัฒนาคุณภาพและส่งต่อให้กับลูกค้า ฯลฯ รวมทั้งเรายังมีผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้านที่พร้อมทำงาน ทั้งทีมแพทย์ เภสัชกร ทีม R&D มีที่ปรึกษาจากต่างประเทศ มีทีมนักวิจัยที่มีความเป็น Specialize มี Co-Partner จากต่างประเทศที่ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ One Stop Solution โดยเราจะคอยเป็นโค้ชให้กับลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้นแนวคิดจนได้สินค้าพร้อมจำหน่าย และเรายังดูแล แนะนำ ให้คำปรึกษาหลังการขาย เพื่อช่วยซัพพอร์ตให้กับลูกค้าในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างราบรื่นค่ะ”

“สำหรับแผนการตลาดของรีโว่เมด คือเราอยากเห็นสินค้า Made in Thailand เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก เราจึงได้ขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพม่า กัมพูชา ลาว และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน และล่าสุดรีโว่เมดมีโครงการที่จะสร้างโรงงานผลิตที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งในอนาคตจะได้เห็นอะไรที่ว้าวมากๆ เพราะด้วยนวัตกรรมและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้เราเห็นว่ามี Global Brand หลายเจ้าไปตั้งโรงงานที่นั่น ด้วยศักยภาพของเราและพาร์ตเนอร์ของเราที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี คาดว่าเราจะตั้งโรงงานแห่งแรกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 และจะทำการผลิต พร้อมส่งสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศจีนเป็นตลาดแรก และจะทำตลาดใน CLMV ก่อน จากนั้นจะเริ่มรุกตลาดไปยุโรปและอเมริกาต่อไป”

“การที่เมย์ไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากทำงานให้ประสบความสำเร็จ มีเงินมาดูแลครอบครัว และอยากเห็นแม่สุขสบาย ไม่ลำบากเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเรื่องทำธุรกิจเป็นของตัวเองเป็นเรื่องที่ไกลเกินตัวไปมากๆ ชีวิตเด็กร้อยเอ็ด ลูกชาวนา ทำนา เลี้ยงวัว สมัยนั้นยังต้องก่อไฟหุงข้าว อีสานเพิ่นเอิ้นว่า ‘ดังไฟ’ อะเนอะ ไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเหมือนสมัยนี้ ชีวิตลำบากคิดว่าแค่มีงานทำก็ดีแล้ว ไม่เคยฝันว่าจะเป็นนักธุรกิจแบบทุกวันนี้ จนวันที่เมย์ก่อตั้งรีโว่เมด มีโรงงานของตัวเอง มีพนักงานเกือบ 300 คน ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ และมีรายได้หลักพันล้านบาท ชีวิตถือว่ามาไกลเกินฝันไปมากๆ เพราะเรามีต้นทุนชีวิตที่ติดลบ ที่มีในวันนี้เลยถือเป็นกำไรชีวิต เมย์เลยไม่กลัวที่จะล้มเหลว เพราะอย่างมากก็แค่กลับไปจนเหมือนเดิม เมย์มองว่าความสำเร็จของรีโว่เมดไม่ได้เป็นของเราคนเดียว แต่มันสร้างประโยชน์ให้กับพนักงาน พันธมิตร ลูกค้า ผู้บริโภค สังคมรอบข้าง และประเทศชาติ

แต่สิ่งที่ระลึกเสมอก็คือ ‘เมย์มีวันนี้ได้เพราะแม่’ เมย์แค่อยากให้แม่มีชีวิตที่ดีขึ้น (ร้องไห้) ไม่ลำบาก เพราะเขาลำบากมาก แม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ขยันมาก เลี้ยงลูก 5 คน แม่ส่งเมย์เรียนสูงสุดได้แค่ ม.3 เมย์ก็ต้องฝ่าฟันและผลักดันตัวเองมาตลอด เอาความขยันเข้าสู้ คิดแค่ว่าถ้าขยันเราจะไม่อดตาย ณ วันหนึ่งเรามีโอกาส เลยอยากจะส่งต่อโอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด เมย์มักจะบอกทุกคนอยู่เสมอว่า ‘Fearless: Nothing Can’t Stop Me’ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ถ้าเราพยายามมากพอ อาจจะใช้เวลานานแต่ต้องมาถึงสักวัน หยาดเหงื่อและประสบการณ์จะค่อยๆ ออกดอกออกผลมาเรื่อยๆ และวันแห่งความสำเร็จก็เกิดขึ้นกับรีโว่เมดอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ค่ะ”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.