20 ปี หลังจาก Rocket III ที่ทำลายสถิติครั้งแรกออกสู่สายตาวงการรถจักรยานยนต์ในฐานะสุดยอดรถโรสเตอร์ที่ดุดัน จนมาถึงการเปิดตัว Rocket เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งมีสมรรถนะที่มากขึ้น การบังคับควบคุมที่ดียิ่งขึ้น และโทนสีที่เข้มและชวนให้จับจ้อง ที่มาพร้อมชื่อใหม่นามว่า Rocket 3 Storm เพื่อให้เข้ากับสไตล์ที่กำยำและมอบประสบการณ์ในการขับขี่อันน่าตื่นตาตื่นใจ
รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ Rocket 3 Storm R และ GT ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในสายพานการผลิตด้วยขนาดความจุเครื่องยนต์ที่ 2,458cc มอบกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นถึง 15 แรงม้า ทำให้พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 182 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อวินาที แรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 4 นิวตันเมตร สู่จุดสูงสุดใหม่ที่ 225 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 4,000 รอบต่อนาที กราฟแรงบิดที่ราบเรียบและสมบูรณ์พร้อมแรงบิดสูงสุดตลอดช่วงกลาง ให้อัตราเร่งที่ระเบิดได้ พร้อมการตอบสนองที่ง่ายดายในทุกการเข้าเกียร์
ล้อหลังขนาด 16 นิ้ว และล้อหน้า 17 นิ้วของ Rocket ได้รับการปรับปรุง ด้วยการออกแบบล้ออะลูมิเนียมหล่อแบบ 10 ก้านที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของตัวรถในส่วนที่ไม่ได้รองรับด้วยระบบกันสะเทือน โดยการลดลงนี้ส่งผลเชิงบวกต่อการตอบสนองของการบังคับแฮนด์รถขณะเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยปรับปรุงในส่วนของความคล่องตัวที่น่าประทับใจอยู่แล้วของ Rocket อีกทั้งยังมีเฟรมอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 โดยใช้องค์ประกอบแบบหล่อและหลอม ทำให้ได้อัตราส่วนแรงบิดต่อน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
หลังจากความสำเร็จในการจำหน่ายของ Rocket รุ่นพิเศษที่ผ่านมากับส่วนประกอบของรถที่ดำสนิท ทำให้รถจักรยานยนต์ Rocket 3 Storm รุ่นใหม่ จึงมาพร้อมโทนสีที่เข้มขรึม พร้อมคุณภาพของรายละเอียดในระดับที่ไร้ที่ติ ถังน้ำมันขนาดใหญ่ 18 ลิตร พร้อมชื่อใหม่นามว่า Storm โดยแต่ละรุ่นมีตัวเลือกสีทูโทนที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบ โดยรุ่น R มีวางจำหน่ายในสี Carnival Red / Sapphire Black, สี Satin Pacific Blue / Matt Sapphire Black และ สี Sapphire Black / Granite ในขณะที่รุ่น GT มีจำหน่ายในสีเดียวกัน โดยแตกต่างกันด้วยการสลับด้านของสี นอกจากนี้รูปลักษณ์ที่โดดเด่น และตัวเลือกสีในทั้งสองรุ่น Rocket 3 Storm ยังมาพร้อมกับพื้นผิวสีดำคุณภาพสูงรอบคันอีกด้วย และเป็นสิ่งใหม่สำหรับปี 2024 โดยปัจจุบัน Rocket 3 Storm ผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro 5b ล่าสุด ด้วยการระบายความร้อนด้วยของเหลว การปล่อยมลพิษที่ต่ำ พร้อมการใช้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
พอล สเตราท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด กล่าวว่า “รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่น Rocket เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยการเป็นสุดยอดรถโรสเตอร์ที่แข็งแกร่ง มียอดขายทั่วโลกมากกว่า 18,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรในปี 2019 ด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าของเรา เรารู้ว่าพวกเขาชอบรูปลักษณ์ที่กำยำของ Rocket ที่มาพร้อมสมรรถนะที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น และเรายังทราบดีว่านักบิดล้วนมีความปรารถนาในสิ่งนี้ที่มากยิ่งขึ้น
“นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Rocket 3 Storm R และ GT ใหม่ จึงมาพร้อมพละกำลังและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ไปจนถึงความคล่องตัวที่มากขึ้น สไตล์ที่เข้มขึ้น ช่วยมอบอารมณ์ที่ดุดันยามอยู่บนท้องถนน”
การควบคุมที่ยอดเยี่ยม
โช้คหลังเดี่ยว RSU ของ Showa พร้อมซับแทงค์ที่สามารถปรับตั้งค่าได้เต็มระบบไม่ว่าจะเป็น Rebound, Compression และ Preload โช้คหน้าคู่หัวกลับจาก Showa ขนาดใหญ่ 47 มม. สามารถปรับได้ทั้ง Rebound และ Compression ช่วยส่งมอบประสิทธิภาพในการควบคุมให้กับ Rocket อย่างน่าประทับใจ
พลังในการหยุดรถที่เหนือชั้น เป็นผลจากคาลิปเปอร์เบรกแบบเรเดียล Brembo Stylema สเปคสูงสุด พร้อมจานเบรกคู่ขนาด 320 มม. โดยคาลิปเปอร์ที่มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด และมีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ มอบการไหลเวียนของอากาศได้เป็นอย่างดี ช่วยระบายความร้อนของผ้าเบรกระหว่างการขับขี่ที่สนุกสนาน คาลิปเปอร์เบรกหลังโมโนบล็อกเรเดียล 4 ลูกสูบ Brembo M4.32 และจานเบรกหลัง 300 มม. มีขนาดใหญ่กว่า และทรงพลังกว่าเบรกหน้าในรถจักรยานยนต์หลาย ๆ รุ่น ช่วยให้มีกำลังในการหยุดรถได้มากกว่า นอกจากนี้ Rocket 3 Storm ยังมีระบบ Optimised Cornering ABS สำหรับการเบรกในระหว่างการเข้าโค้งที่ได้รับการปรับปรุงอย่างเต็มที่อีกด้วย
หลักสรีรศาสตร์ที่แตกต่าง
Rocket แต่ละคันมอบความรู้สึกและลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ด้วยความแตกต่างที่สำคัญในด้านหลักสรีรศาสตร์ ตำแหน่งท่านั่งขี่สไตล์โรสเตอร์และการวางตำแหน่งแฮนด์ของ Rocket R ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กำลังและการควบคุมที่เหมาะสมที่สุด เพื่อสร้างการขับขี่ที่ผ่อนคลาย ด้านรุ่น GT มีตำแหน่งท่านั่งขี่ที่เยืองหลังเล็กน้อย ทำให้หลังตั้งตรงมากขึ้นด้วยตำแหน่งแฮนด์ที่สูงขึ้น 125 มม. จากรุ่น R แต่ละรุ่นยังมาพร้อมเบาะนั่งเฉพาะของตัวเอง โดยแต่ละรุ่นมีการตกแต่งโครงเบาะนั่งอะลูมิเนียมหล่อสีดำสุดพรีเมียม โดย Rocket 3 Storm R มีเบาะนั่งผู้ขี่และเบาะนั่งซ้อนแบบโรสเตอร์ที่มีความสูงเบาะนั่ง 773 มม. ให้ความสบาย ความมั่นใจในความเร็วต่ำ และความคล่องตัว ส่วน GT มีเบาะนั่งผู้ขี่แบบทัวร์ริ่งและเบาะนั่งซ้อนท้ายที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมพนักพิงหลังแบบปรับได้ ความสูงของเบาะนั่งสำหรับ GT คือ 750 มม. ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งสองรุ่นคือตำแหน่งพักเท้า โดยรุ่น R มีระบบควบคุมส่วนกลางเท้า (Mid-foot controls) พร้อมการตั้งค่า 2 รูปแบบที่สามารถปรับพักเท้าขึ้นได้ 15 มม. เพื่อรองรับผู้ขับขี่ทุกขนาด ให้ตำแหน่งการขี่ที่เป็นธรรมชาติและสปอร์ต ด้านรุ่น GT มีระบบควบคุมเท้าไปข้างหน้า (Forword foot controls) ซึ่งให้ความรู้สึกผ่อนคลายแบบ Laid-back โดยสามารถปรับตั้งค่าพักเท้าไปด้านข้างได้ 3 รูปแบบด้วยระยะ 50 มม. เพื่อให้ตำแหน่งที่สบายที่สุดสำหรับการขับขี่ระยะไกล โดยทั้งสองรุ่น R และ GT มีที่พักเท้าสำหรับคนซ้อนที่ล้ำสมัยสุดประณีตซึ่งพับเก็บได้แบบปิดทึบ
สไตล์แบบดำสนิท
การออกแบบทางวิศวกรรมอย่างไร้ที่ติด้วยความเอาใจใส่ในรายละเอียดที่ไม่มีใครเทียบได้ของ Rocket 3 Storm ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการตกแต่งระดับพรีเมียม ตั้งแต่สีดำพาวเดอร์โค้ทที่ฝาครอบไอดีไปจนถึงส่วนหัวท่อไอเสียที่ขึ้นรูปไฮโดรฟอร์มสุดโดดเด่น โดยวัสดุที่ใช้ใน Rocket 3 Storm ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันด้วยความใส่ใจในรายละเอียดอย่างไม่มีใครเทียบ เพื่อมอบความรู้สึกที่ดุดัน ยิ่งไปกว่านั้น Rocket 3 Storm ยังมาพร้อมกับสีดำเคลือบอโนไดซ์คุณภาพสูงทั่วทั้งตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น เฟรมด้านหลัง, การ์ดสวิงอาร์ม, โช้คคู่หน้า, ตัวยกแฮนด์, ตัวยึดจับแฮนด์, ร็อกเกอร์ของโช้คหลัง, ส่วนตกแต่งเบาะนั่ง, ที่พักเท้า และที่จับสำหรับคนขี่และคนซ้อนท้าย, แป้นเบรกและเกียร์, คันโยก ไปจนถึงขาตั้งด้านข้าง เพื่อขยายท่วงท่าและมุมมองที่ดุดันของรถจักรยานนต์ Rocket 3 Storm ทั้งสองคัน มาพร้อมไฟ LED คู่หน้าพร้อมตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมไทรอัมพ์ และไฟ DRL รูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ มีไฟเลี้ยว LED ไฟท้าย และไฟส่องป้ายทะเบียน มอบเอกลักษณ์แสงไฟที่โดดเด่นอย่างแท้จริง
เทคโนโลยีที่เน้นผู้ขับขี่
ระบบ ABS และ Traction control ที่ตอบสนองไวต่อมุมเอียง ไปจนถึงลิ้นปีกผีเสื้อที่สลับได้ ตลอดจนระบบควบคุมความเร็วคงที่ที่ใช้งานง่าย เทคโนโลยีที่เน้นผู้ขี่เหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของสมรรถนะระดับแนวหน้าของ Rocket 3 Storm ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ระบบคันเร่งไฟฟ้าแบบ Ride-by-wire ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ ความปลอดภัย และการควบคุม ในขณะที่กระปุกเกียร์ประสิทธิภาพสูงของ Rocket ออกแบบมาให้มีเฟืองตัดแบบเฮลิคอล เพื่อส่งแรงบิดมหาศาลไปยังล้อหลังได้อย่างราบรื่น ระบบ Torque Assist clutch ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลง แบบ 6 สปีด ด้วยความเร็วและความนุ่มนวลที่น่าพึงพอใจ ในขณะที่ Triumph Shift Assist มีให้เลือกใช้เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับทั้งสองรุ่น
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบ Optimised cornering ABS และ Optimised cornering Traction control ที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อให้มีความเสถียรยิ่งขึ้น โดยปรับปรุงทั้งการใช้งานกับทางตรงและการเข้าโค้ง ไปจนถึงการเร่งความเร็วและการเบรก นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันรถไหลเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill hold control) ป้องกันไม่ให้รถจักรยานยนต์หมุนถอยหลังและใช้เบรกหลังจนกระทั่งตรวจจับได้ว่าผู้ขี่เริ่มออกตัว ซึ่งทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับโหมดการขี่ 4 โหมด ได้แก่ Road, Rain, Sport และ Rider-configurable ซึ่งจะปรับลิ้นปีกผีเสื้อและการตั้งค่าระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction control) ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Cruise control) ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นกัน เปิดใช้งานโดยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว สามารถตั้งค่าและปรับความเร็วขึ้นหรือลงโดยเพิ่มครั้งละ 1 ไมล์ต่อชั่วโมง และกลับมาทำงานต่อได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ทั้งสองรุ่นมีหน้าจอแผงหน้าปัด TFT แบบ Full Colour พร้อมฟังก์ชันการทำงานระดับสูง พร้อมจอยสติ๊กห้าทิศทางแบบเรืองแสง พร้อม 2 ธีมแสดงข้อมูลที่ได้รับการออกแบบในสไตล์มินิมอล และแผงหน้าปัดที่สามารถปรับมุมแสดงผลได้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นข้อมูลได้ชัดเจนในทุกระดับความสูง อีกทั้งผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งข้อความบนหน้าจอสตาร์ทเครื่องด้วยชื่อของตนเองได้ อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยเป็นพิเศษ รถจักรยานยนต์ทั้งสองคันมีระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ และล็อคพวงมาลัยเป็นมาตรฐาน ซึ่งสามารถปิดการใช้งานได้ โดยสามารถปิดกุญแจรีโมทได้เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบชาร์จ USB ใต้เบาะนั่ง ซึ่งสามารถเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวลขณะชาร์จ
สร้าง ROCKET 3 STORM ตามสไตล์ของคุณเอง
ด้วยอุปกรณ์เสริมของแท้จากไทรอัมพ์กว่า 50 รายการ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย การใช้งานจริง มอบสไตล์ และความปลอดภัย ดังนั้นผู้ขับขี่สามารถปรับแต่ง Rocket ของตัวเอง เพื่อให้ตรงตามความต้องการได้อย่างแท้จริง โดยลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยนระบบควบคุมเท้าระหว่างรุ่น R และ GT ได้ เบาะนั่งผู้ขี่และผู้โดยสารตามหลักสรีรศาสตร์ เทคโนโลยี Plug and Play เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ตลอดจนการออกแบบชิ้นส่วนเพื่อปรับแต่งรูปลักษณ์และสัมภาระสำหรับการขับขี่ทางไกล ที่ออกแบบโดยใช้งานร่วมกับรถจักรยานยนต์และผลิตด้วยมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอุปกรณ์เสริมของไทรอัมพ์ ทั้งหมดมีการรับประกันไม่จำกัดระยะทาง 2 ปีเช่นเดียวกับตัวรถจักรยานยนต์
