“หมอแชมป์-พญ.นภาพร ธรรมพัฒนากูล” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Anti-Aging เจ้าของ Vitalia Wellness Clinic ซึ่งเธอได้เริ่มต้นผสมผสานศาสตร์แห่งการชะลอวัยเข้ากับศาสตร์แห่งความงาม เพื่อความสวยจากภายในสู่ภายนอกที่ยั่งยืน ด้วยความสนใจ และมุ่งมั่นที่จะสร้างโปรแกรมการดูแลสุขภาพเพื่อความงามที่เหมาะสำหรับคนไข้แบบ Case by Case ทำให้เธอเจาะลึกถึงปัญหา และวางแผนการดูแลสุขภาพ-ความงามจากภายในสู่ภายนอกให้กับกลุ่มคนไข้อย่างได้ผล ทำให้ชื่อของ “Vitalia” กลายเป็นคลินิก Wellness ชะลอวัยที่ได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนไข้ จนทำให้ธุรกิจเติบโต ได้รับการยอมรับ และประสบความสำเร็จ
โดยการเริ่มต้นปรับสมดุลภายในร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้ร่างกายภายนอกแข็งแรง สวยสุขภาพดี และดูอ่อนกว่าวัย และนี่เป็นหัวใจหลักในการสร้างความงาม และความแข็งแรงที่จะอยู่ติดตัวเราตลอดไป ด้วยการนำนวัตกรรมจากต่างประเทศมาใช้ร่วมกับการดูแลสุขภาพเพื่อความงามแบบองค์รวม แก้ปัญหาอย่างตรงจุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผล ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพที่อยากฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกายในระดับเซลล์ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเราดูแลสุขภาพให้แข็งแรง มีสุขภาพดี มีเซลล์ที่แข็งแรง สิ่งนี้ก็จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส และดูอ่อนกว่าวัยมากยิ่งขึ้น”
“ความตั้งใจของ Vitalia Wellness Clinic ก็คือ อยากช่วยผู้ที่ไม่รู้วิธีจะดูแล ตัวเองให้เขามีสุขภาพดีที่ดีขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่มากกว่า 80% ไม่รู้จะดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไร ในขณะที่กลุ่มคนอีกประมาณ 50% จะมีปัญหาสุขภาพ ทั้งผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน SLE โรคพุ่มพวง หรือโรค Stroke เกี่ยวกับหลอดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบตัน ซึ่งเราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา และวางแผนการดูแลสุขภาพร่างกายก่อนการป่วย โดยมีทั้งการให้วิตามินเฉพาะบุคคลเพื่อล้างสารพิษ และมีโปรแกรมการรับ Steam Cell”
“อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของเราคือจะวิเคราะห์ตรวจอย่างละเอียด โดยตรวจลงลึกในระดับเซลล์ที่เรียกว่า ‘Aging Cell Scan’ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ทุกระบบของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสมอง เรื่องของความเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์ หรือการนอนไม่หลับก็มีผลต่อความจำ รวมถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงวัยทอง โดยการสแกนของเราสามารถดูระบบการดูดซึมของลำไส้ซึ่งตรวจได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พอเราตรวจภาพรวมแล้ว ทางคลินิกจะวิเคราะห์ระดับเซลล์โดยตรวจโครโมโซม ด้วยวิธีการวัดอายุเซลล์ว่าแก่ก่อนวัยหรือไม่ บางคนอาจดูแก่ก่อนวัยเพราะมีปัญหาบางอย่าง ซึ่งเราจะวิเคราะห์อย่างละเอียด และหาวิธีการในการดูแลสุขภาพที่เหมาะกับเขา เช่นทานอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพของตัวเอง”
“สำหรับศาสตร์ในเรื่องของ Wellness ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพก่อนการป่วย และเรื่องของความงามถือเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าเรามองลึกถึงระดับเซลล์ การดูแลตัวเองจากภายใน การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ก็จะทำให้เซลล์ในร่างกายแข็งแรง สิ่งที่ได้คือผิวพรรณภายนอกก็จะแข็งแรงและอ่อนเยาว์ลง เพราะเซลล์ทุกระบบจะทำงานผสานร่วมกันทั้งหมด เรานอนหลับดี หลับสบาย พอตื่นขึ้นมาก็จะอารมณ์ดี คิดงานได้ สุขภาพจิตใจดี ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็จะมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ เรียกว่า “ความงามระดับเซลล์” ที่สวยจากภายในสู่ภายนอก โดยเราจะชะลอความเสื่อมของเซลล์ เพื่อให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น และผลที่ตามมาก็คือการที่คนไข้จะมีผิวพรรณที่ดี หน้าตาก็ดูอ่อนกว่าวัย”
“หมออยู่ในวงการนี้มานานกว่า 15 ปี จะเห็นว่าในปัจจุบันกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจะมีช่วงอายุที่น้อยลง ซึ่งเมื่อก่อนคนส่วนใหญ่ที่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพแบบองค์รวมมักจะเป็นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อายุเฉลี่ยราวๆ 50 ปีขึ้นไป ปัญหาของกลุ่มคนวัยทองมักมีฝ้า แพ้ง่าย ผิวมีผื่นขึ้น มีผมหงอก แต่ในปัจจุบันจะเห็นว่าผู้คนมีความเสื่อมในระบบต่างๆ เร็วขึ้น เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ใช้สื่อโซเชียลมากขึ้น นอนดึก ทานอาหารดึกเพราะสะดวกที่จะซื้อมาทาน ยิ่งช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้กลุ่มคนที่อายุตั้งแต่ 20 – 30 กว่าปีหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เพราะอยากมีภูมิคุ้มกันที่ดี มีสุขภาพที่ดี ซึ่งทำให้ Wellness ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก”
“ทุกวันนี้การที่ธุรกิจได้การตอบรับที่ดี มีกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนไข้ที่เข้ามารับบริการเห็นผลในการรักษา และมีการบอกต่อ หมอถือว่าธุรกิจในปัจจุบัน Success แล้ว แต่ถ้าพูดในมุมของธุรกิจ หมอมองว่าธุรกิจของเรายังสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ เพราะปัจจุบันเรามีแค่สาขาเดียว ซึ่งในปีนี้หมอได้วางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มในช่วงปลายปีอีกหนึ่งสาขา เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มคนไข้ที่ต้องการเข้ามาดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอกแบบองค์รวมได้มากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการเพิ่มระดับในความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งของ Vitalia Wellness Clinic”
“ถ้าถามถึงสไตล์การทำงานของหมอ หมอจะเน้นการทำงานแบบ Family เพราะมองว่าคนไข้มาด้วยความทุกข์ใจ ก็อยากเป็นที่ปรึกษาที่ดี ดูแลใกล้ๆ เหมือนญาติมิตร รับฟังทุกปัญหา และคอยสังเกตในเรื่องที่คนไข้กังวลใจ หมอเองมีความเป็น Perfectionist เพราะตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ศาสตร์ Anti Aging ช่วยเหลือคนได้เยอะมาก ฉะนั้นหมอจะต้องดูแลทุกเคสอย่างดีที่สุด ซึ่งความสุขในการทำงานของหมอก็คือ ผลการรักษาคนไข้ที่ได้ผล และการได้เห็นคนไข้มีรอยยิ้ม เท่านี้ความรู้สึกเหนื่อยก็หายไปเลยค่ะ”