เรียกว่าเป็นการทลายกำแพงแห่งการ ปิดกั้นผู้หญิง ในการก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงอย่างสิ้นเชิง หลังจาก บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในองค์กรเมื่อนับรวมระยะเวลาดำเนินธุรกิจเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งซีอีโอหญิงคนล่าสุด ไม่เพียงทำให้องค์กรระดับโลก ซึ่งมีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งกลายเป็นที่จับตามองเท่านั้น แต่ยังถือว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก พร้อมๆ กับการเปลี่ยนโฉมหน้าของธุรกิจแบรนด์รองเท้าชื่อดังด้วย
“คุณวิลาสินี ภาณุรัตน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งระดับสูงของแบรนด์รองเท้า “บาจา” องค์กรเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก “องค์กรแห่งนี้ยังไม่เคยมีซีอีโอที่เป็นผู้หญิงมาก่อน ขณะที่เราเองก็ไม่ได้เติบโตมากับธุรกิจสายนี้ จึงเรียกว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะหากเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าทำได้จริง เขาก็จะได้เข้าใจว่าไม่ใช่แค่ผู้ชายอย่างเดียวที่ทำงานตรงนี้ได้เท่านั้น และนั้นก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนให้กับผู้หญิงทุกคน ที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นตัวแทนของผู้หญิงทั่วโลกเลยทีเดียว ถือเป็นโจทย์ที่ไม่ได้เข้ามาบ่อยๆ ในชีวิตของเรา”
ซีอีโอหญิงแห่งแบรนด์บาจายอมรับว่า ตอนที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งในบาจา (ประเทศไทย) เธอได้เจอเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่ตลอด “แต่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่เจอนั้นเป็นเรื่องที่ดีและมีแต่มุมบวก จนวันนี้เราทำงานมาครบ 1 ปีพอดี ก็จะเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่เราได้เจอ เพราะในงานที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ แต่ละตำแหน่งเราไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง ทว่าวันนี้เราก้าวเข้ามาในตำแหน่งที่เป็นเบอร์หนึ่งขององค์กร ฉะนั้นหน้าที่และความรับผิดชอบของเราเปลี่ยนไปแน่นอน ขณะที่เรามีพนักงานอยู่ในมือเราร่วมกว่าพันคน เราจะกำหนดทิศทางของบริษัทอย่างไร เพื่อให้ทุกคนรอดไปด้วยกันได้ ถือเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งของเรา”
การตลาดกับแบรนด์รองเท้า เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ซีอีโอหญิงท่านนี้ต้องเรียนรู้เพิ่ม “หากเป็นตลาดบิวตี้ เราแทบหลับตาทำได้เลย แต่สำหรับบาจาเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องการการเรียนรู้ ที่นี่ไม่ใช่แฟชั่นจ๋า แต่ก็มีโครงสร้างคล้ายๆ กับแฟชั่น ซึ่งเราต้องศึกษามากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของตลาดรองเท้าที่ถือว่ามีความรุนแรงมากกว่าตลาดบิวตี้ ทำให้เราต้องเจอโจทย์ที่ยากกว่า แต่ยิ่งยากเราก็ยิ่งชอบ ซึ่งในเวลาเดียวกัน เราก็ต้องพยายามปรับตัวให้ไม่ทำอะไรที่เร่งรีบเกินไป ต้องพาทีมขององค์กรแห่งนี้เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน และมีความเข้าใจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน”
“หนึ่งในโจทย์ที่ยากหลังจากที่เข้ามาบริหารงานที่บาจาคือ พอเข้ามาเราเห็นว่าแบรนด์นี้มีสิ่งที่ยังไม่ได้ทำอีกเป็นล้านอย่าง และเราอยากทำทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ซึ่งความยากอยู่ตรงนี้ โดยเฉพาะทีมที่อยู่ในองค์กรมานาน และมีความคุ้นชินกับกระบวนการทำงานในแบบเดิม ซึ่งเราจะทำอย่างไรให้ทีมในองค์กรวิ่งให้ทันเรา และเราเองก็ต้องช้าลงเพื่อให้เขาตามให้ทัน เราบอกมาตลอดว่านาฬิกาที่บาจากับนาฬิกาของเราเดินคนละจังหวะกัน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกโจทย์ที่ยากสำหรับเรา ในการจะทำอย่างไรไม่ให้เร่งรีบเกินไป ส่วนในเรื่องของการแข่งขันกับคู่แข่งก็เป็นสิ่งที่ยากเช่นกัน ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถรับได้ แต่อยากให้ทีมได้มองเห็นภาพตลาดภายนอกให้ออกมากที่สุด รวมถึงอยากให้คนในองค์กรแสดงออกทางความคิดให้มากขึ้น พร้อมๆ กับการมองหาทีมใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับองค์กรต่อไป” ซีอีโอหญิงกล่าว
อย่างไรก็ดี การก้าวมาเป็นซีอีโอในแบรนด์รองเท้าชั้นนำของ “คุณวิลาสินี ภาณุรัตน์” ไม่ใช่แค่การช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างามเท่านั้น ทว่าเธอยังมีเป้าหมายสำคัญ “เราเป็นคนที่มีความฝันอยู่ตลอดเวลา และทุกครั้งที่จะตอบรับโจทย์หรือความท้าทายอะไรใหม่ๆ ก็ตาม เราไม่เพียงแค่ทำการบ้านอย่างหนักเท่านั้น แต่ยังมองด้วยว่าแบรนด์หรือ สินค้านั้นๆ มีความเป็นไปได้ในการเติบโตหรือไม่ ซึ่งในมุมมองของตัวเองเห็นว่าบาจาเป็นแบรนด์ใหญ่ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างสูง ดังนั้นจุดมุ่งหมายของเราที่อยากเห็นคือการทำให้บาจาเป็นแบรนด์เลิฟ และต้องทำให้บาจาได้มาร์เก็ตแชร์ เบอร์หนึ่งในตลาดรองเท้ากลับมาครองอีกครั้ง” ถือเป็น เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งสิ่งของคุณวิลาสินี ภาณุรัตน์ ซีอีโอแห่ง บาจา (ประเทศไทย) ในวันนี้