THE 50 INFLUENTIAL PEOPLE 2023 “เต – ตะวัน วิหครัตน์” จากเด็กขี้อายสู่การเป็นนักแสดงคุณภาพแห่ง GMMTV

0
2212

เมื่อมนุษย์อินโทรเวิร์ตที่ชื่อ “เต-ตะวัน วิหครัตน์” ได้เข้ามาทำงานอยู่ในวงการบันเทิงถึง 11 ปี ทำให้เหมือนเป็นการเปิดโลกทางความคิด เห็นถึงความสวยงามบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์แบบ เห็นถึงเสน่ห์ของความแตกต่างและหลากหลายของคน ทำให้เด็ก ขี้อายในวันวานได้ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินนักแสดงที่มีความมั่นใจในวันนี้

เต-ตะวันเล่าว่า เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นหนึ่งในพิธีกรรายการ Five Live Fresh จากนั้นก็เริ่มมีผลงานการแสดงเข้ามาเรื่อยๆ แต่ชื่อของเต-ตะวันเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการแสดงในเรื่อง Kiss the Series รักต้องจูบ, Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง และ Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว จนเริ่มมีโอกาสได้ทำงานที่หลากหลายมากขึ้น ได้มีแฟนมีตทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างล่าสุดคอนเสิร์ต Beluca Fourtiverse Concert ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ตัวเองรู้สึกภูมิใจ เพราะได้มีโอกาสแชร์ไอเดียออกแบบโชว์ร่วมกับทางทีมงาน และพอโชว์ออกมาก็เป็นไปตามที่คิดทุกอย่าง

ด้วยความที่มีโอกาสได้ทำงานที่หลากหลาย ทั้งงานเบื้องหน้าและงานเบื้องหลัง ประสบการณ์ตรงนี้สอนให้เขาเป็นคนที่มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งตัวตนในความเป็นตัวเอง “ผมเติบโตมาจากครอบครัวสายวิชาการ เป็นเด็กที่ไม่กล้าแสดงออก พอได้มาทำงานตรงนี้ต้องบอกตัวเองตลอดว่าเราต้องมั่นใจมากกว่านี้ เราก็ค่อยๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เราก็มีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น แล้วก็ทำให้ชีวิตบาลานซ์ขึ้นด้วย เรียกว่าพาร์ตของการเป็นนักแสดงทำให้มีโอกาสเอ็กซ์พอร์ทตัวเองในมุมต่างๆ ได้เข้าใจมุมความคิดของคนในลักษณะที่หลากหลาย และทำให้เรายอมรับความแตกต่างในคนแต่ละรูปแบบมากขึ้น แต่ละคนย่อมมีความสำคัญตามฐานะทางสังคมของตน ฉะนั้นเราต้องให้เกียรติคนทุกอาชีพ สังคมในแต่ละยุคมีเบ้าหลอมของศีลธรรมหรือสิ่งที่เรียกว่าความดี และสิ่งที่คนยึดถือให้ค่า แตกต่างกัน สำหรับยุคนี้คำว่าเท่าเทียมเป็นคำที่ตีความยากมาก เพราะบางคนจะมองว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่เท่าเทียม แต่ผมมองว่าเราจะใช้ศีลธรรมเป็นตัวตีความ มองและยอมรับความไม่เท่านี้ให้มันเท่ากันได้ยังไง อาชีพนี้สอนให้ผมรู้เท่าทันโลกอยู่ตลอด เข้าใจโลก เข้าใจมนุษย์มากขึ้น”

เพราะโอกาสไม่ได้มีเข้ามาได้ง่าย หลายคนจึงให้ความสำคัญกับคำว่า “โอกาส” หนุ่มเตก็เช่นกัน “สำหรับผมโอกาสไม่ได้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ 1+1 = 2 หรือทำอะไรแล้วต้องได้แบบนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องของเวลาและความเหมาะสม ความพยายามย่อมทำให้เรามีโอกาส เราจะเบ่งบานจากความพยายามบวกกับโอกาส และเนเจอร์งานของผมเป็นงานที่โอกาสในแต่ละช่วงชีวิตไม่เท่ากัน ตอนนี้ถ้ามีโอกาส เราต้องเต็มที่และยอมเหนื่อย” เมื่อถามถึงในอนาคตข้างหน้า หากเอ่ยชื่อ เต-ตะวัน วิหครัตน์ อยากให้ถูกพูดถึงในแง่มุมไหน “อยากให้พูดถึงในฐานะของศิลปินคนหนึ่งครับ ผมคิดว่าเราทุกคนคืองานศิลปะชิ้นหนึ่งที่สร้างอะไรให้กับโลก ผมมีโอกาสและอาชีพที่ผมทำก็ดันเป็นงานศิลปะที่มีพื้นที่ให้ได้จัดแสดง ทำให้มีคนรู้จักขึ้นมา และดึงดูดคนที่ชอบงานชิ้นนี้ให้มารวมกัน ฉะนั้นต้องเข้าใจว่างานศิลปะไม่มีคำว่าสวยหรือดีที่สุด แต่มันถูกค้นพบและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนหรือเปล่าแค่นั้นเอง และทั้งสองสิ่งนั้นอาจจะเป็นตัววัดมูลค่าของงานศิลปะ เเต่ไม่ใช่คุณค่าทุกอย่างของมัน อย่างที่ย่าผมสอน อย่าไปตัดสินว่าอะไรดีกว่าอะไร ทุกอย่างมันมีคุณค่าและที่ทางของมัน”

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.