งานไหนจะฮีลใจเท่างานนี้ เมื่อ 5 หนุ่มหล่อโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรก กับการนำทัพ 5 พรีเซนเตอร์เนสกาแฟ ณเดชน์ คูกิมิยะ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ แจม-รชตะ หัมพานนท์ รวมพลังคนไทยทำสิ่งดี ๆ เพื่อโลก ปลูกต้นไม้สร้างความยั่งยืนตามหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู สานต่อพันธกิจความยั่งยืน‘เนสกาแฟ แพลน 2030’ ในงาน ‘เนสกาแฟ เดย์’ ภายใต้แนวคิด ‘ชงเนสกาแฟปลูกความยั่งยืน’ เพื่อฉลองวันกาแฟสากลในปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน
ใจฟูสุด ๆ กรี๊ดหนักมาก เมื่อได้มาพบกับ 5 หนุ่มพรีเซนเตอร์ครบทีมท่ามกลางสวนกาแฟจำลองที่ปลูกอย่างยั่งยืนโดยใช้การเกษตรเชิงฟื้นฟูใน Glass House ครั้งแรกใจกลางเมือง ที่เนสกาแฟยกมาให้คนไทยได้สัมผัส และได้รู้ว่าเนสกาแฟทุก ๆ แก้วที่เราดื่ม มีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนกาแฟให้ดีขึ้น เพราะเบื้องหลังกาแฟคุณภาพของเนสกาแฟคือ ความทุ่มเทของเกษตรกรชาวสวนกาแฟไทย ที่ใช้หลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน และเมล็ดกาแฟทุกเมล็ดที่เนสท์เล่รับซื้อจากเกษตรกรมาผลิตเป็นเนสกาแฟ ได้รับการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกอย่างยั่งยืนระดับโลก ที่เรียกว่า 4C 100%
งานนี้ ณเดชน์ กลัฟ ต่อ หนุ่ม และ แจม ยังได้พูดคุยถึงเรื่องราวกาแฟและความยั่งยืนในด้านต่าง ๆ ของเนสกาแฟ พร้อมแชร์เคล็ดลับในการส่งต่อความยั่งยืนให้โลก บอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ของบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟ และร่วมกัน ปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเกษตรเชิงฟื้นฟู ที่จะช่วยสร้างความสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพในสวนกาแฟเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ต้นยางนา ต้นตะเคียน ต้นสะเดาเทียม และต้นจำปาทอง ซึ่งล้วนเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในสวนกาแฟที่สามารถคลุมดิน และกักเก็บความชื้น และช่วยดูดซับคาร์บอน พร้อมปักป้ายชื่อในกระถางต้นไม้ของตนเองกันทุกคน และยังสามารถนำไป ถ่ายภาพเก๋ ๆ กับแก้วแดงยักษ์ โดยเนสกาแฟจะนำต้นไม้ไปปลูกบริเวณสวนกาแฟในจังหวัดชุมพร และส่งมอบต้นไม้ส่วนหนึ่งให้กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดความยั่งยืน และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในอีกหลาย ๆ จังหวัดในประเทศไทย
ณเดชน์ เล่าถึงเคล็ดลับส่งต่อความยั่งยืนให้โลกว่า “ผมว่าใกล้ตัวและทุกคนทุกบ้านสามารถทำได้นั่นคือ การแยกขยะ หลักการง่ายๆ ของผม คือ แยกประเภท และไม่ทิ้งเศษอาหารไปปะปนกับขยะอื่น ๆ เพราะถ้าเราแยกได้ บรรจุภัณฑ์จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ ซึ่งมันจะช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการใช้ไฟฟ้าน้อยลง และลดขยะ นอกจากนั้น ผมจะเน้นเลือกใช้สินค้าบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก อย่างเนสกาแฟที่มีโลโก้คำว่า “ฉันรีไซเคิลได้” “
ต่อ ธนภพ กล่าวว่า “ผมมองว่า ทุกคนไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ เพราะต่อให้เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันก็จะสามารถช่วยให้สร้างความยั่งยืนได้ ผมให้ความสำคัญเรื่องการลงมือทำ และยิ่งถ้าเราทำพร้อมกัน ทำทุกคน มันจะ impact มาก เพราะความยั่งยืนไม่สามารถจะเกิดจากคน ๆ เดียวได้ครับ และในวันที่ผมว่างจากการถ่ายละคร เวลาจะออกไปไหน ก็จะเดินชิลล์ ๆ หรือใช้บริการรถไฟฟ้า ไม่ขับรถ หรือใช้รถตู้ นั่งด้วยกันหลาย ๆ คน เป็นการ car pool ก็เป็นอีกทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดโลกรวนได้ครับ”
กลัฟ คณาวุฒิ บอกว่า “การปลูกต้นไม้ก็เป็นการส่งต่อความยั่งยืนให้โลก มันอาจจะฟังดูเบสิก
แต่จริง ๆ แล้ว คือการเพิ่มการดูดซับคาร์บอน สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ระบบนิเวศที่สมบูรณ์”